ช่วงนี้วงการ streaming เริ่มมีสัญญาณเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ โดยจากการคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 2 ของ Netflix ปีนี้ คาดว่าจะสูญเสียผู้ใช้ (subscriber) ในสหรัฐอเมริกาไปประมาณ 130,000 ราย ถือเป็นตัวเลขลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2011 สมัยที่บริษัทแยกบริการ streaming ออกจากบริการ DVD ให้เช่า โดยสาเหตุสำคัญ 2 เรื่อง คือแผนการปรับขึ้นราคาค่าบริการและการขาดคอนเทนต์ใหม่ ๆ ของ Netflix (orginal content) เพื่อดึงผู้ใช้หน้าใหม่
Reed Hastings ซีอีโอ Netflix ได้ยอมรับว่าประเมินสถานการณ์ผิดกับปฏิกิริยาหลังขึ้นราคา แต่เขาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกับการแข่งขันในตลาดที่เข้มข้นขึ้นจากผู้เล่นรายอื่น ๆ ที่เข้ามาในตลาด โดยเฉพาะ Disney, Apple, NBC Universal และ Warner Media ที่เพิ่งเปิดตัว HBO Max ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ และ Hastings ยังได้แสดงความเชื่อมั่นว่าในอีก 2 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้ จะได้เห็นผลประกอบการเชิงบวก เนื่องจากจะมีซีรีส์ระดับเรือธงทั้ง Stanger Things, La Casa de Papel (money Heist), The Crown และ Orange is the New Black ที่รอปล่อยในช่วงครึ่งปีหลัง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส