Our score
9.0Hail Satan? วันทาซาตาน
จุดเด่น
- ซับเจ็กต์ที่เล่าน่าสนใจ มีชัยไปเกินครึ่งแล้ว สุดมาก
- รูปแบบการเล่าและกลวิธีแบบสารคดีทำได้เพลินไม่น่าเบื่อ
- ชอบที่เราสามารถคิดต่อยอดมายังสังคมไทยบ้านเราได้เยอะมากหลายประเด็นมาก
จุดสังเกต
- อาจห่างตัวคนไทยเราไปนิดหนึ่ง แต่ก็อนุมานตีความเทียบบ้านเราได้นะ ต้องใช้จินตนาการหน่อย จะเกิดประโยชน์สุด ๆ
-
คุณภาพงานสร้างสารคดี
8.5
-
คุณภาพของซับเจ็กต์สารคดี
10.0
-
ความสมบูรณ์ของการเล่าเรื่อง
8.5
-
ความสนุกน่าติดตาม
9.0
-
คุ้มเวลา ค่าตั๋ว
9.0
เรื่องย่อ “เราบูชาซาตานไม่ใช่แค่เพื่อกวนตีนคนอื่นเล่น ๆ แต่ยังเพื่อประกาศอิสรภาพให้รัฐรู้ว่ารัฐไม่มีสิทธิมาบังคับว่าเราต้องแสดงออกทางศาสนาอย่างไรจึงจะถูกต้อง” เอ้า ร้องพร้อมกัน! วันทาซาตานนนนน!!!!!
Hail Satan? สารคดีแนวมารศาสนาเรื่องนี้ เป็นผลงานการกำกับสุดกวนของ เพนนี่ เลน (Penny Lane) ที่เลือกจับซับเจ็กต์ของสารคดีแบบเลือกดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะเนื้อหาของสารคดีนั้นคือหัวใจยิ่งกว่ารูปแบบเสียอีก ซึ่งเรื่องนี้เพนนีก็เลือกเรื่องราวของ โบสถ์ซาตาน (Satanic Temple) ที่เป็นลัทธินับถือซาตาน กลางประเทศอเมริกาที่มีคำปฏิญาณตนว่า หนึ่งประเทศใต้พระเจ้าองค์เดียว และมีคำขวัญเราเชื่อในพระเจ้าบนธนบัตร เรียกว่าเป็นประเทศคริสเตียนเลยทีเดียว คือแค่คอนทราสต์ตรงนี้ก็น่าสนใจแล้วมั้ยล่ะ
ลัทธิซาตานนี้ได้การรับรองเป็นองค์กรศาสนาสำเร็จเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้เอง มันเรียกร้องให้เราเข้าไปทำความรู้จักกลุ่มความเชื่อนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะแค่ภาพภายนอกก็ต้องบอกว่า คำว่าซาตานที่เป็นตัวแทนความชั่ว และการแสดงออก การแต่งกาย รวมถึงสิ่งที่สังคมสั่งสอนโอบล้อมกล่อมเกลาเรามาตลอดต่างชี้นำให้มีอคติในแว่บแรกอย่างช่วยไม่ได้ ทว่าในเมื่อมันสามารถดึงคนมาเข้าร่วมได้เป็นหมื่นคนแถมการรณรงค์ของกลุ่มยังนำพามาให้รัฐรับรองพวกเขาสำเร็จอีก มันต้องมีของจริง ๆ ล่ะ
และไอ้ของที่ว่านี่ก็เกรียนแสบไส้จริง ๆ เพราะเมื่อดูลงไป เนื้อแท้มันอาจถูกมองได้ว่าเป็นศาสนาเชิงล้อเลียน มีอยู่เพื่อตั้งคำถามต่อคริสตจักรและคริสเตียนสุดโต่งที่พยายามยึดถือคุณความดีว่าเป็นแค่ของพวกตนเท่านั้นมากกว่า และการเกรียนเพื่อให้เกิดปัญญานี้ก็มาในแนวศรีธนญชัยเลยทีเดียวคือเอาดาบเขาแทงตัวเขาเอง หากสิ่งที่คริสเตียนว่ามาดีแล้ว ผู้อื่นใช้วิธีการเดียวกันในเป้าประสงค์ตรงข้าม คริสเตียนก็ควรยอมรับด้วยสิ ความเกรียนนี้มีตั้งแต่หยาบ ๆ อย่างการต่อต้านบาทหลวงสุดโต่งที่ต่อต้านเกย์ว่าเป็นพวกซาตาน ด้วยการเอาคู่รักเกย์เลสเบี้ยนไปทำพิธีบนหลุมศพของแม่บาทหลวงรูปนั้น พร้อมประกาศให้แม่ของบาทหลวงเป็นเกย์ในปรโลกด้วย เช่นเดียวกับความเชื่อของคริสต์ที่ว่าดวงวิญญาณสามารถเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ได้แม้ตายไปแล้ว
จนกระทั่งการต่อสู้ที่แหลมคมขึ้นอย่างเรื่องสิทธิเสรีภาพ เรื่องของกฏหมาย ตลอดจนเรื่องของรัฐธรรมนูญสหรัฐ ที่ชี้ชัดว่าการเป็นประเทศคริสเตียนอย่างที่คนปัจจุบันยึดถือนั้นเป็นเพียงภาพลวงตาที่ถูกสร้างขึ้นในภายหลัง เช่น ยุคต่อต้านคอมมูนิสต์ที่เอาศาสนาคริสต์มาแทนอเมริกาแล้วกล่าวหาว่าพวกคอมคือซาตานเป็นการนำศาสนามาสู้การเมืองครั้งแรก และอนุสาวรีย์จำลองบัญญัติสิบประการที่ชาวคริสต์สรรเสริญทั่วอเมริกาก็เป็นเพียงเครื่องมือโปรโมตหนังดังในยุคหนึ่งเท่านั้น แต่พอเวลาล่วงเลยมาคำโกหกก็กลายเป็นเรื่องจริงจังให้คนงมงายไร้คำถามไปเสียแล้ว
“ผมเริ่มเป็นสาวกซาตาน ก็ตอนที่ครูพาชั้นเรียนไปดูหนังคานธี ผมชื่นชมเขามากเขาคือผู้กำเนิดการต่อสู้อย่างสันติเลยนะ แล้วครูก็สอนพวกผมว่า ‘ถึงคานธีจะทำประโยชน์มากต่อโลก แต่เมื่อตายเค้าก็จะต้องตกนรกเพราะเขาไม่ได้นับคือคริสต์’ เดี๋ยวนะนี่เหรอข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ ผมเป็นสาวกซาตานเต็มตัวก็วันนั้นเลย”
ระหว่างที่ดูก็ชวนให้คิดเหมือนกันว่า กลุ่มซาตานนี้ ก็ไม่ต่างกับ พุทธศาสนายุคแรกเริ่มเลยนะ ลองคิดดูอินเดียสมัยพุทธกาล ความเชื่อในเทวนิยมต่าง ๆ คือบรรทัดฐานทางสังคมที่ไม่มีใครปฏิเสธ ถึงจะอยู่ในวรรณะอันต่ำต้อยทุกข์ทรมานก็สดุดีในฐานะเพราะพราหมณ์บอกว่าประเสริฐดีแล้ว แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีเจ้าชายองค์หนึ่งพินิจพิจารณาว่า ถ้าเทพและศาสนพิธีทั้งหลายที่มีมาคือสิ่งดีที่สุดแล้ว ทำไมโลกที่คนมากมายต่างบูชาเทพมันถึงยังแย่อยู่แบบนี้ ทำไมมีคนทุกข์ทนเยอะขนาดนี้ ถูกแบ่งแยกไม่เท่าเทียมแบบนี้ อย่างนั้นแล้วการบูชาเทพอาจไม่ใช่ทางที่ดีที่สุดหรือเปล่า แล้วเขาก็โพล่งมาว่าเราจะตั้งกลุ่มความเชื่อของเราที่ไม่มีเทพเจ้า ใช้ชื่อว่าพุทธศาสนา ใช้ปัญญาพิจารณาความจริง ไม่เชื่อเพราะใครบอกต้องเชื่อแต่ต้องทดลองดูผิดถูกเสียก่อน คือโคตรหักล้าง เป็นขั้วตรงข้ามกับแนวทางในสังคมสุด ๆ ในจังหวะนี้พระพุทธเจ้าก็ไม่ต่างจากผู้นับถือซาตานในยุคนั้นเลยนะ
จริง ๆ ก็มีคำถามกับตัวเองมาสักพักแล้วว่าทำไมคนรุ่นหลัง ถึงให้ค่ากับสิ่งที่อยู่ตรงข้ามบรรทัดฐานเดิมของสังคมนัก มารในคติวรรณกรรมอย่างทศกัณฐ์ ถูกยกมาให้เป็นพระเอกในเพลงยุคใหม่หลายต่อหลายเพลง อย่างเพลง หัวใจทศกัณฐ์ ของ เก่ง ธชยะ ยอดวิว 131 ล้านวิว หรือเพลงตัวร้ายที่รักเธอ ของ วงทศกัณฐ์ เวอร์ชันคัฟเวอร์มียอดวิวไป 156 ล้านวิว หรือแนวคิดที่ล้มล้างกรอบความเชื่อเดิมอย่าง พรรคอนาคตใหม่ ก็ได้คะแนนจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ท่วมท้นในการเลือกตั้งที่ผ่านมา นั่นเพราะพวกเขาเริ่มเข้าใจโลกและตั้งคำถามหรือเปล่า ว่าถ้าสิ่งเดิม ๆ มันดีของมันจริง ทำไมสังคมเรามันถึงแย่อย่างนี้ หรือจริง ๆ มโนทัศน์ที่รุ่นก่อนเชื่อกันมามันจะใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว?
ถ้าพวกเขาอยู่ในสังคมที่เปิดกว้างทางความคิดพวกเขาอาจได้โอกาสในการถกเถียง ปรับปรุงความคิดตนเองไปมาจนได้รูปได้รอย อาจนำไปสู่คำตอบบางอย่างที่สันติได้ อย่างที่ลัทธิซาตานได้ปรับระบบคิดว่าซาตานเป็นเพียงสัญญะไม่ใช่ตัวแทนความชั่วช้า เขาอาจไม่ได้เชื่อว่าซาตานมีอยู่จริง แต่มองว่าซาตานคือตัวแทนการต่อสู้กับการยึดครองความดีของคนกลุ่มทรงอำนาจในสังคมคริสต์เพียงกลุ่มเดียว ซาตานสำหรับพวกเขาไม่ใช่การล้มล้างพระเจ้า แต่หากคือการตั้งคำถามกับระบอบความดีแบบคลั่งอำนาจว่าดีจริงหรือ โลกหลังโพสต์โมเดิร์นยังจะมีสิ่งที่ถูกต้องสมบูรณ์แบบเพียงรูปแบบเดียวขนาดนี้และที่เหลือผิดหมดจริงหรือ ซาตานก็อาจกลายเป็นคำนามแทน การคิดไตร่ตรองอย่างมีเหตุผล การทอนตัดศรัทธางมงายแล้วเพิ่มการมองความเป็นจริงเข้าไปมากขึ้น เป็นกาลามสูตรตามแบบพุทธนั่นล่ะ เมื่อมองแบบนี้ซาตานคงไม่ใช่รูปปั้นปีศาจแพะเขาโง้งดูน่ากลัว แต่เป็นการสลัดภาพฉาบฉวยและมองลงในเนื้อข้างในแทนเสียมากกว่าการชื่นชมแต่ความงามงดภายนอกและศรัทธาแบบไม่ต้องลืมหูลืมตา
น่าเสียดายว่าหากอีกด้านหนึ่ง พวกเขาซวยไม่ได้อยู่ในสังคมที่เปิดโอกาสให้ถกเถียง ให้พูดคุยแบบสร้างสรรค์ รังแต่จะเอากรอบมาปิดปาก เอาความเชื่อความดีของคนส่วนใหญ่มาอุดหูอุดตาหมดอย่างที่เราน่าจะคุ้นชิน นอกจากพวกเขาจะไม่ได้ตกผลึกความคิดให้ดีพอต่อยอดสู่การพัฒนา แต่จะกลายร่างเป็นเพียงอารมณ์โกรธขึงอึดอัดและต่อต้านกรอบ โดยไม่ได้โอกาสปรับมโนทัศน์ด้วยหลักเหตุผลให้คมพอเพื่อการอยุ่ร่วมกันของทุกคนอย่างเคารพซึ่งกันและกัน ที่น่าจะสร้างสรรค์ สันติ และยั่งยืนแท้จริง
เปิดบันเทิงประเทืองปัญญา ชวนคิดพินิจสังคมไทยผ่านหนังสารคดีมัน ๆ ฮา ๆ เกรียน ๆ เพียงกดที่รูปด้านล่าง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส