[รีวิว] Ride Your Wave คำสัญญา…ปาฏิหาริย์รัก 2 โลก: อาจดูเหมือนแค่หนังรักอีกเรื่องหนึ่งธรรมดา แต่ซ่อนความพิเศษไว้อย่างละมุน
Our score
8.7

Ride Your Wave คำสัญญา...ปาฏิหาริย์รัก 2 โลก

จุดเด่น

  1. งานสร้างแอนิเมชันเรื่องนี้ แปลก สด ใหม่ น่าดูเพื่อการศึกษา
  2. คุณภาพภาพ-เสียงเอาคนดูอยู่หมัด
  3. ฉากท้าย ๆ บิดง่าย ๆ แต่เล่นเอาจุก

จุดสังเกต

  1. เนื้อเรื่องตามสูตรเดาได้หมด
  • ตรรกะ ความสมบูรณ์ของบทภาพยนตร์

    8.5

  • คุณภาพการพากย์

    9.0

  • คุณภาพโพรดักชัน การผลิต ความแปลกใหม่

    10.0

  • ความสนุก

    8.0

  • คุ้มเวลา ค่าตั๋ว

    8.0

สนับสนุนข้อมูลโดย Major Cineplex

สนับสนุนข้อมูลโดย Major Cineplex

เรื่องย่อ มินาโตะ และ ฮินาโกะ คือหนุ่มสาวที่พบรักกันแบบเรื่องราวบอยมีตเกิร์ล ในดินแดนแห่งสายลมเสียงคลื่นและกระดานโต้คลื่นที่นำพาทั้งสองมาพบกัน เรื่องราวของคู่รักที่ผูกพันด้วยพรหมลิขิตนี้กลับพลิกผันอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อมินาโตะจากไปอย่างกะทันหัน ฮินาโกะผู้ตกอยู่ท่ามกลางความเสียใจก็ได้พบในวันหนึ่งว่าสัญญาที่มินาโตะให้ไว้ว่าจะคอยมาช่วยฮินาโกะอยู่เคียงข้างกันเสมอจนแก่เฒ่านั้น เขายังคงรักษาไว้แม้จะเหลือเพียงภาพวิญญาณที่ปรากฏตัวได้ในน้ำเท่านั้น

Play video

Ride Your Wave (Kimi to, nami ni noretara,きみと、波にのれたら) เป็นแอนิเมชันจากญี่ปุ่นที่การันตีคุณภาพด้วยรางวัล แอนิเมชันยอดเยี่ยม จาก Shanghai International Film Festival และรางวัลซาโตชิ คงสำหรับหนังแอนิเมชันยอดเยี่ยม จากเวที Fantasia International Film Festival โดยเป็นผลงานการกำกับของ ยูอาสะ มาซาอากิ (Yuasa Masaaki) ที่เคยมีหนังแอนิเมชันเข้าฉายในเทศกาลหนังญี่ปุ่นที่จัดในไทยมาแล้วอย่าง Lu over the Wall (2017) ซึ่งก็เป็นผลงานเน้นลายเส้นแปลกตา โดยเป็นการร่วมมือกับมือเขียนบทคู่บุญที่ร่วมงานมาจนถึงเรื่องล่าสุด อย่าง โยชิดะ เรโกะ (Yoshida Reiko) ผู้เคยเขียนบทให้หนังจิบลิอย่าง The Cat Returns เจ้าแมวยอดนักสืบ (2002) และแอนิเมชันรักเรียกน้ำตาที่ดังในบ้านเราเหมือนกันอย่าง A Silent Voice รักไร้เสียง (2016)

Lu over the Wall

Lu over the Wall

A Silent Voice

A Silent Voice

ซึ่งใน Ride Your Wave นี้เราจะเห็นพัฒนาการต่อยอดด้านเทคนิคแอนิเมชันภาพ 2D ผสมผสาน 3D ที่ยกระดับขึ้นจากครั้ง Lu over the Wall ไม่ว่าจะเป็นลายเส้นของคนและการเคลื่อนไหวที่ละมุนขึ้น คุณภาพงานภาพสูงขึ้น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้นไปอีก โดยผสมผสานแนวการ์ตูนตาหวานกับแอนิเมชันอินดี้ลูกผสมได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะมีความสอดคล้องด้านเทคนิคและเนื้อหาอย่างละเมียดละไม ด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับน้ำเป็นสำคัญ การออกแบบลายเส้นทั้งคนและสิ่งต่าง ๆ จะได้อิมเมจของการเคลื่อนที่แบบน้ำไว้ในตัว ทั้งการที่เน้นเส้นโค้งมน การเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนท่าละมุนดั่งหยดน้ำ ยิ่งเมื่อเป็นฉากที่มีน้ำด้วยแล้วยิ่งพิถีพิถันเป็นการใช้เทคนิคคอมพิวเตอร์กราฟิก 3 มิติเข้ามาช่วยได้อย่างลงตัวแนบเนียนไม่ขัดตาเลย จริง ๆ จะบอกว่ารางวัลทั้งหมดทั้งมวลที่แอนิเมชันเรื่องนี้ได้รับ ต้องยกเครดิตมากกว่า 70%-80% ให้กับ งานภาพ ของหนังจริง ๆ เป็นศิลป์สมัยใหม่ที่น่าศึกษาแนวคิดการสร้างตลอดจนกระบวนการต่อยอดพัฒนาคอนเซ็ปต์จนได้หนังที่มีน้ำเป็นธีมได้โดดเด่นจริง ๆ งานภาพสะกดอยู่ได้ตลอด 97 นาทีของหนังตัวจริงเลย

ride your wave ride your wave ride your wave

มาด้านเนื้อเรื่อง ต้องบอกว่าคุณเรโกะผู้เขียนเรื่องออริจินัลนี้ ได้ใช้โครงสร้างหนังญี่ปุ่นตามสูตรมาเลย ทั้งความหวานความน่ารักในการพานพบกัน การจากลาอย่างไม่ทันตั้งตัว ตลอดจนฉากการขยี้ที่เก็บงำไว้รอการฮุกอัดต่อมน้ำตาคนดูในตอนท้ายแบบสั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ทรงพลัง ซึ่งที่ต้องชมเชยเลยคือฉากท้าย ๆ นี่ล่ะครับ คุณเรโกะจงใจบิดลำดับอารมณ์โดยสับฉากที่เราคิดว่าควรจะเป็น มาหลอกคนดูที่เคยดูจากตัวอย่างมาได้จุกอกแบบไม่รู้ตัวเลย ยอมรับล่ะว่ามุกในหนังที่คอยเฉลยคอยชกเก็บคะแนนจากคนดูเนี่ย มันเดาได้และซ้ำซากมาก ๆ แต่ความฉลาดในการบิดลำดับง่าย ๆ แค่ฉากเดียว ก็ทำเราจุกซึ้งได้มากทีเดียว ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ลองไปชมครับว่าฉากวันคริสต์มาสท้ายเรื่อง เล่นงานเราได้อย่างไร ก็เป็นอีกกรณีศึกษาสำหรับคนชอบเขียนเล่าเรื่องเหมือนกันว่า บางทีการบิดสูตรสำเร็จนิดเดียวมันก็กลายเป็นงานพิเศษได้เหมือนกันนะ และอีกอย่างที่ทำได้ดีคือการเก็บรายละเอียดเพื่อนำมาสานต่อในบทสนทนาและเนื้อเรื่อง อย่างชื่อเรื่อง Ride Your Wave มันถูกตีความหมายคำว่าคลื่นไว้อย่างหลากหลาย ไม่ใช่เพียงคลื่นในทะเล แต่ยังหมายถึงอุปสรรค ความกลัว ตลอดจนโอกาสการพานพบ และการเริ่มต้นใหม่ด้วย น่าสนใจเลยล่ะ

ride your wave ride your wave

มาถึงส่วนสุดท้าย คืองานพากย์และเพลงประกอบ ปกติผมไม่ค่อยมีคอมเมนต์พิเศษอะไรกับงานพากย์เพราะญี่ปุ่นมักทำได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่มาครั้งนี้ต้องชมเป็นพิเศษกับหนังเรื่องนี้ล่ะว่า ออกแบบความเป็นธรรมชาติได้น่าขนลุกมาก โดยต้องยกเคมีความลงตัวให้คู่ที่พากย์เสียงพระ-นางอย่าง คาตาโยเสะ เรียวตะ ที่พากย์เป็น มินาโตะ และ คาวาเอย์ รินะ ที่พากย์เป็น ฮินาโกะ โดยฉากที่อยากให้ไปลองดูคือฉากที่ทั้งสองตัวละครร้องเพลงหยอกล้อกันไป โดยมีฉากหลังเป็นภาพทรงจำที่ทั้งคู่ทำร่วมกัน มันไม่ใช่แค่เนี้ยบ แต่มันคือการจงใจไม่สมบูรณ์แบบเพื่อเลียนแบบความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ได้อย่างน่าทึ่งมาก ๆ ทั้งการหลุดหัวเราะ การกระเซ้าหยอกเย้าระหว่างร้องเพลง เจ๋งมาก ๆ เลยล่ะนะ

ride your wave ride your waveRide Your Wave

ซึ่งเพลงประกอบเรื่องนี้ก็ใช้เพลงธีมหลักเพลงเดียวได้ทั้งอารมณ์หนังและบอกเล่าเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องด้วย เพราะวิญญาณพระเอกจะปรากฏก็ต่อเมื่อนางเอกร้องเพลงนี้เท่านั้น โดยได้เพลง Brand New Story ของวง Generations from Exile Tribe มาทำหน้าที่นี้ ก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยล่ะ

Play video

ต้องบอกว่าถ้ามองฉาบฉวยหนังเรื่องนี้อาจไม่เตะตา เป็นหนักรักญี่ปุ่นลอกสูตรมาอีกเรื่อง แต่ถ้ามองรายละเอียดงานสร้างจุดต่าง ๆ ต้องบอกว่าสมควรแล้วล่ะที่ได้รางวัลแอนิเมชันยอดเยี่ยม เพราะเทคนิคศิลปะมันคือเนื้อแท้ของหนังเรื่องนี้จริง ๆ

ride your wave

 

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส