Our score
4.4[รีวิว]Mary : แกรี่ โอลด์แมน มาทำอะไรในหนังเรื่องนี้
จุดเด่น
- ถ้าชอบสะดุ้ง ก็ได้สะดุ้งบ่อยอยู่นะ
- ฉากหักมุมจบ ถือว่าโอเคอยู่นะ
จุดสังเกต
- ผู้กำกับหมดมุกกับหนังสยองขวัญมาก เล่นสูตรสำเร็จเดิม ๆ
- บทไม่มีความสมเหตุสมผลหลาย ๆ ประการ
- เรือแมรี่ไม่น่ากลัวเล้ย
- ฉากไคลแมกซ์ไม่คุ้มค่าการรอคอย
- อยู่ดี ๆ ผีก็มีตัวตน วิ่งไปวิ่งมาได้ซะงั้น
-
ตรรกะ ความสมบูรณ์ของบท
4.0
-
คุณภาพนักแสดง
6.0
-
คุณภาพการผลิต
6.0
-
ความสนุกน่าติดตาม
5.0
-
คุ้มเวลาในการรับชม
1.0
31 ตุลาคม นี่สัปดาห์แห่งการปล่อยหนังฟอร์มรองของทุกค่ายจริง ๆ มีหนังเข้าใหม่ถึง 8 เรื่องเลยเชียว ทั้งหนังไทย หนังแอนิเมชัน หนังซอมบี้ หนังชีวประวัติ แต่ก็มี Mary เป็นหนังสยองขวัญเพียงแค่เรื่องเดียว ได้ชื่อแกรี่ โอลด์แมน มาเป็นจุดขาย จากเดิมที่วางตัวนิโคลาส เคจ ไว้ ก็นับว่าเป็นตัวแทนที่ดูมีภาษีดีกว่าเยอะ หลังจากที่นิโคลาส เคจ เป็นสัญลักษณ์ของหนังเกรดบีไปเสียแล้ว หนังยังได้ แอนโธนี แจสวินสกี มือเขียนบทที่สร้างชื่อจากหนังฉลาม The Shallow เมื่อปี 2016 มาเป็นจุดขายอีกหนึ่งอย่าง
หนังเล่าเรื่องของ เดวิด เกร็ก กัปตันเรือมือฉมัง ที่ลูกจ้างบริษัท่องเที่ยว เขารับหน้าที่เป็นกัปตันเรือสำราญพานักท่องเที่ยวชมทัศนียภาพไปวัน ๆ แต่เกร็กก็มีความใฝ่ฝันว่าเขาอยากจะมีเรือเป็นของตัวเองสักลำ แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ไปพบเรือเก่าที่ถูกใจมากจากงานประมูล เกร็กไม่รอช้ารีบจับจองเป็นเจ้าของท่ามกลางเสียงคัดค้านของซาราห์ ภรรยาที่ไม่เห็นด้วยในทีแรก แต่ก็ตามใจสามีในที่สุด เมื่อมีเรือเป็นของตัวเอง เกร็กก็รีบดำเนินตามความฝัน พาภรรยาและลูกสาวทั้ง 2 ไมค์ ญาติสนิท และทอมมี่แฟนหนุ่มของลูกสาว ทั้งหมดล่องเรือออกทะเลกว้าง มุ่งหน้าเป้าหมายที่เบอร์มิวดา แต่ยิ่งออกเรือไปไกล ก็ยิ่งเจอกับประสบการณ์ขนหัวลุกที่หนักหนาขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะทาง จากแค่ภาพหลอนแวบ ๆ แล้วก็เริ่มรุนแรงถึงขั้นเอาชีวิตสมาชิกคนบนเรือ
หนังเปิดเรื่องแบบเอาจุดจบมานำเรื่อง ทำให้ขาดอารมณ์ร่วมลุ้นไปอย่างมาก เพราะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าใครคือผู้รอดชีวิต หนังเดินหน้าไปในรูปแบบที่ผู้รอดชีวิตต้องให้การตำรวจด้วยการเล่าย้อนอดีตเหตุการณ์บนเรือ ใช้เวลาเกริ่นนำก่อนขึ้นเรือแค่ประมาณ 15 นาที ให้คนดูได้รู้จักบรรดาตัวละครหลักกันครบถ้วน บทภาพยนตร์ของ แอนโธนี ทำได้ดีในส่วนที่อธิบายความสัมพันธ์ของตัวละครหลักผ่านบทสนทนาของ เกร็กและซาราห์ ทำให้หนังไม่ต้องใช้เวลาปูที่มาแต่ละคนมากมายนัก มีสมาชิกบนเรือถึง 6 ราย ก็ถือว่ามาตามสูตรสำเร็จของหนังสยองขวัญ ใส่เหยื่อเข้ามาเยอะ ก็แปลว่าจะต้องมีฉากสยองมากขึ้นตามจำนวนเหยื่อ ที่น่าจะต้องโดนผีจัดการทีละราย ผีร้ายเริ่มงานหลอกหลอนทีละเล็กทีละน้อย เริ่มจากเป็นภาพหลอน โผล่มาให้เห็นแว้บ ๆ เขยิบมาเป็นเข้าสิงสมาชิกบนเรือ ท่าไม้ตายท้ายสุดคือปรากฏตัวมาชัด มีเนื้อมีหนังวิ่งไปมาให้เห็นกันชัด ๆ ปลุกปล้ำกับบรรดาเหยื่อได้อีกด้วย ซึ่งการก้าวกระโดดจากสถานะวิญญาณ มามีตัวตนนี่ชวนอึ้งพอควร
ถ้าหนังที่มีบทดี แต่ผู้กำกับอ่อนด้อยประสบการณ์ ถ่ายทอดเนื้อหาใจความของบทไม่ได้ หนังก็พัง หรือตรงกันข้ามบทมาแย่ แต่ผู้กำกับมีกึ๋นพอควร ก็ยังพอถ่ายทอดภาพบรรยากาศหนังในฉากสยองให้พอขนหัวลุกได้บ้าง แต่สำหรับ Mary นี่มาพร้อมกันทั้งบทที่อ่อนปวกเปียกและผู้กำกับที่อ่อนประสบการณ์ ไมเคิล กอย เป็นผู้กำกับที่เลื่อนขั้นตัวเองมาจาก ช่างถ่ายภาพยนตร์ กำกับทีวีซีรีส์มาสิบกว่าเรื่อง Mary คือภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา คงต้องขอให้กลับไปกำกับซีรีส์อย่างเดิมแหละ ฉากสยองที่ไมเคิล กอย ใช้หากินทั้งเรื่องคือ “ตุ้งแช่” เล่นแบบคลิปไวรัลที่แกล้งคนให้ตกใจที่แชร์กันตามโลกโซเชียลนั่นแหละ ฉากเงียบ ๆ มืด ๆ แล้วก็ซ้อนหน้าผีน่ากลัวพุ่งเข้าใส่กล้อง บวกกับเสียงเอฟเฟกต์ดัง ๆ มาแบบนี้ยังไงก็ตกใจครับ แล้วก็เล่นซ้ำมันอยู่แบบเนี้ย เฮ้อออ ยังไม่หมดแค่นั้นครับ พอตกใจแล้ว ตัดฉับมาเป็นตัวละครตื่น เพราะภาพที่เราเห็นตะกี้คือความฝัน ฝันแล้วตื่นหลายรอบมั่ก เล่นวน ๆ แล้วสิ่งสำคัญที่ไมเคิล ไม่สามารถทำได้ คือบรรยากาศสยองบนเรือ ไมเคิล ไมสามารถทำให้เรือแมรี่ดูน่ากลัวได้อย่างที่ควรจะเป็นเลย นี่คือ “เรือผี” นะครับ ถึงไม่มีผีออกมา ก็ต้องถ่ายทอดภาพให้คนดูสัมผัสได้ว่านี่คือเรือผี น่ากลัวจัง
บทของแอนโธนี แจสวินสกี น่าจะเสียชื่อที่สะสมมาจาก The Shallow ก็คราวนี้ล่ะ แอนโธนี สร้างปูมหลังตัวละครได้ดี แต่กับตัวปีศาจที่เป็นหัวใจหลักของเรื่อง แอนโธนี กลับไม่สามารถบรรยายได้ถึงความน่ากลัว ทั้งที่เป็นวิญญาณร้ายที่มีความพยาบาทมานับร้อยปี ทีมงานเองก็ไม่สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่มีเอกลัษณ์ของผีในตำนานตัวนี้ได้ มองแล้วก็แค่ผีบ้าน ๆ ตัวนึง หนังสีครับแต่ผีเป็นผีขาวดำ เหมือนออกมาจากทีวีรุ่นเก่า หน้าขาว ผมยาว ตาดำ ไม่พูดอะไร กรีดร้องแว่ วิ่งใส่เหยื่ออย่างเดียว ช่างยึดมันตามมาตรฐานผีฝรั่งเสียจริง บทของแอนโธนีตกม้าตายหลายรอบ แต่แผลที่ใหญ่สุดคือ ช่วงท้ายหลังจากที่ปีศาจเริ่มอาละวาดหนักขึ้น ทำให้เกร็กและซาราห์ไปขุดประวัติเรือมาอ่าน แล้วก็ตกอกตกใจกับชะตากรรมของเจ้าของเรือรายก่อน ๆ ห๊ะ!! เรือลำละกว่า 6 ล้านบาท ก่อนซื้อไม่ดูประวัติกันหรอกเหรอ เพิ่งมาดูตอนเจอผีบนเรือเนี่ยนะ
การที่เอาจุดจบของเรือมาเปิด นี่ก็ถือว่าเป็นโจทย์บังคับที่ยากพอดู เราได้เห็นเรือแมรี่มอดไหม้อยู่กลางทะเล ก็เป็นฉากเปิดเรื่องที่กระตุ้นความสงสัยใคร่รู้ได้ดี แต่นั่นหมายความว่าฉากไคลแมกซ์ต้องพาไปให้ถึงจุดที่คนดูคาดหวัง แต่สำหรับ Mary นี่…………. เจอไคลแมกซ์แบบว่า “แค่เนี้ยเหรอ” ก็เห็นด้วยกับสื่อต่างประเทศหลาย ๆ สำนักที่เห็นพ้องต้องกันว่า เอาแกรี่ โอลด์แมน มาปู้ยี้ปู้ยำได้ไม่คุ้มค่าเล้ย แต่ก็ยังมีส่วนดีที่ต้องขอชมอีกสักหน่อย ในฉากปิดเรื่อง ก็ถือว่ามีไอเดียเพิ่มมาน่าสนใจ เป็นการวกจบที่เข้าที่เข้าทาง “ดี” เกินคาด แถมจบแบบเปิดท้ายไว้ให้ต่อภาคสองได้ด้วยนะ แต่จะมีเหรอ?