Our score
8.8Extreme Job - ภารกิจทอดไก่ ซุ่มจับเจ้าพ่อ
จุดเด่น
- เพลิดเพลินไปกับความมันและบ้าบอแบบสุดโต่ง แถมยังได้ตกตะกอนอะไรบ้างอย่างอีกด้วย
- เป็นหนังแอคชัน - คอมเมดี้ที่ถือว่าครบรสและสมบูรณ์แบบ
- นักแสดงคือดาวเด่นของเรื่อง ดูแล้วประทับใจกับทุกบทบาทเลยจริง ๆ
จุดสังเกต
- มุกตลกบางส่วนมีความเป็นมุกสไตล์เกาหลีที่อาจมีคนไม่เก็ท และอาจเข้าไม่ถึงความฮา
- ด้วยความเป็นหนังสไตล์ฮา ความสมเหตุสมผลอาจน้อยลงไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้มู้ดหนังเสียหาย
-
ความสมบูรณ์ของบท
8.5
-
คุณภาพงานสร้าง
8.0
-
คุณภาพนักแสดง
9.5
-
ความสนุกน่าติดตาม
9.0
-
คุ้มเวลา ค่าตั๋ว
9.0
“คำถามโลกแตกของการเลือกระหว่างงานที่รักแต่ไม่รุ่ง กับงานที่รุ่งแต่ไม่รัก …ถ้าเป็นคุณจะเลือกอะไร?”
ว่ากันว่าคนเรามักจะทำงานที่ตัวเองรักได้ดีกว่าหน้าที่ที่ต้องทำเสมอ แต่สงสัยคำพูดเหล่านี้คงใช้ไม่ได้กับกลุ่มตำรวจสายกากกลุ่มหนึ่งที่มีสมาชิกทีมอยู่ตั้ง 5 คน แต่ดั๊นนนไม่เคยปิดคดีเด็ด ๆ ได้เลยสักครั้ง นี่จึงเป็นโอกาสสุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะโดนพับโครงการ กับปฏิบัติการซุ่มจับเจ้าพ่อแก๊งค้ายาสุดโหด ที่รังโจรนั้นก็ดันมาอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านขายไก่ทอดที่กำลังจะเจ๊งซะอย่างนั้น ด้วยความที่ไม่อยากเสียทำเลทองไปพวกเขาจึงจำใจเซ้งร้านต่อแล้วมาขายไก่ทอดบังหน้ามันซะเลยละกัน แต่ดูเหมือนว่ากิจการไก่ทอดจะไปได้ดีว่าหน้าที่การงานจริง ๆ ซะจนพวกเขาอาจจะต้องตัดสินใจแล้วว่า …หรือพวกเขาจะไปได้ดีกับตำแหน่งราชาไก่ทอดกันแน่นะ!?!
และนี่ก็คือเรื่องย่อสุดกาวแบบคร่าว ๆ ของภาพยนตร์เกาหลีใต้สุดฮอตอย่าง ‘Extreme Job’ ที่เปิดตัวแรงสุด ๆ ด้วยการทำลายสถิติเป็นภาพยนตร์ที่มียอดผู้ชมจำนวนกว่า 2 ล้านคน ภายในเวลาเพียงแค่ 3 วัน! จนเกิดเป็นกระแส Talk of the Town ในเกาหลีไปแล้วในช่วงต้นปี 2019 ที่ผ่านมานั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์มาแรงของปีนี้เลยก็ว่าได้
กับพล็อตหนังแบบสั้น ๆ สุดบ้าบอ ที่แค่อ่านผ่าน ๆ ก็กระตุ้นต่อมอยากดูของคนดูหนังเข้าอย่างจัง ถึงขนาดที่ในบ้านเราได้มีคนเอามารีวิวไว้บนสื่อโซเชียลครั้งหนึ่ง แล้วก็เกิดเป็นกระแสตามหาที่มาของหนังเรื่องนี้กันเต็มหน้าไทม์ไลน์เลยทีเดียว ว่าแล้วก็อย่าชักช้าถ้าใครอยากรู้ว่าของเขาดีจริงไหม? เรามีคำตอบมาให้แล้วจ้า!
ความรู้สึกหลังดู
เรื่อง : Extreme Job – ภารกิจทอดไก่ ซุ่มจับเจ้าพ่อ (2019)
กำกับ : lee byeong-heon
ประเภท : แอ็กชัน – คอมเมดี้
แหล่งชมภาพยนตร์ : สามารถเช่าหรือซื้อดูได้บนเว็บไซต์ amazon.com/Extreme-Job-2019-Prime-Video/ (Eng Subtitle)
ต้องยอมรับตามตรงก่อนเลยว่านี่เป็นภาพยนตร์ที่เลือกหยิบมาดูเพราะไม่รู้จะดูอะไร! และไม่รู้เรื่องราวความเป็นมาอะไรทั้งนั้น! รู้แค่ว่ามันเป็นภาพยนตร์ฝั่งเกาหลีที่เกิดเป็นกระแสพูดถึงเยอะมาก ๆ ช่วงหนึ่งบนโลกโซเชียล จนทำให้ทางเราอดไม่ได้ที่จะไปตามหามาดูกับเขาบ้างจะได้ไม่เอาท์
โดยรวมแล้วตัวหนังมีความเป็นแอ็กชัน – คอมเมดี้ ที่ใส่ความเป็นตลกร้ายสไตล์หนังเกาหลีเอาไว้หนักมากกกกก ทั้งความขี้แซะ จิกกัด เสียดสีไปมาระหว่างตัวละครด้วยกันเอง ยันตัวหนัง(หรือผู้กำกับ) ที่ทั้งเหน็บแนมและจิกแซะระบบราชการตำรวจและสังคมเกาหลีใต้ซะจนพรุนไปหมด เรียกได้ว่าในส่วนของบทนั้นมีความดุเด็ดเผ็ดมันสไตล์เกาหลีแซ่บ ๆ ทำเอาคนดูสามารถดูได้เรื่อย ๆ เพลิน ๆ แบบไม่มีสะดุดเพราะบทเขาสุดจริงอะไรจริง!
แต่ก็ไม่ต้องห่วงนะว่าถ้าหนังมันออกไปทางตลกจ๋าซะขนาดนี้ พาร์ตของตำรวจและการไล่ล่าจะดรอปลงไปหรือไม่? เพราะบอกได้คำเดียวเลยว่า “เดือดมาก!” ยิ่งขึ้นชื่อว่าหนังเกาหลียุคนี้ ความจริงจัง และบรรยากาศกดดันในสไตล์หนังตำรวจจับผู้ร้ายนั้นมีให้เห็นอยู่พอสมควรเลยแหละ แม้ว่าสัดส่วนของมันอาจจะต้องถูกหารกับความเป็นคอมเมดี้ออกไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตัวหนังขาดน้ำหนักของความเป็นหนังแอ็กชันลงไปแม้แต่น้อย ฉากต่อสู้ก็ทำได้ดี มีความน่าจดจำและไม่เยอะจนเวิ่นเว้อ แถมทุกตัวละครหลักยังมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนและโดดเด่นในแบบของแต่ละคนสูงมาก ทำให้คนดูสามารถจดจำและประทับใจกับทุกตัวละครได้อย่างที่ไม่มีบทไหนถูกลืมอย่างแน่นอน เรียกได้ว่าลงตัวและกลมกล่อมแบบพอดีคำซะจนจะเรียกว่าเป็นหนังดู “อร่อย” ก็ไม่แปลกเลย (ไก่ทอดในหนังก็ดูน่าอร่อยมากเช่นกัน)
สิ่งสำคัญที่สุดคงจะเป็นใจความสำคัญของหนัง ที่ผู้กำกับขยี้ประเด็นด้วยการจั่วหัวตั้งคำถามกับคนดูตั้งแต่ต้นเรื่องว่า ‘ความล้มเหลวที่มีเกียรติ และความสำเร็จที่น่าอาย’ อะไรคือสิ่งที่คุณจะเลือกถ้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับพวกเขาเหล่านั้น? ซึ่งมันเป็น Message ที่ค่อนข้าง Touch กับความรุ้สึกของกลุ่มคนดูส่วนใหญ่ กับยุคปัจจุบันที่ชีวิตถูกกำหนดด้วยบทบาทและเงื่อนไขทางสังคมมากมาย จนหลาย ๆ ครั้งที่เราก็ต้องเลือกปากท้องมากกว่าความฝัน ไม่ต่างอะไรกับตัวละครในหนังเรื่องนี้ ซึ่งตัวหนังสามารถทำให้เราคนดูเชื่อได้จริง ๆ ว่าชีวิตของตัวละครหลักเหล่านั้นช่างบัดซบซะจนเราเองก็แอบรู้สึกตามไปเหมือนกันว่า “ถ้าต้องเจองานแบบนี้ไปขายไก่ทอดยังดีซะกว่า!” แถมมุกตลกร้ายหรือความวายป่วงทั้งหลายที่ใส่ลงไปในหนัง มันทำให้เราขำก๊ากได้ในตอนแรก จากนั้นพอเรารู้สึกตัวอีกทีความตลกนั้นก็ทำเอาหัวใจเจ็บจี๊ดขึ้นมาได้เหมือนกัน งานนี้สรุปแบบสั้น ๆ ได้ใจความเลยว่า “กลมกล่อม ครบรส อูมามิมากเลยจ้ะ”
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส