[รีวิว] The Two Popes: ห้วงเวลาประวัติศาสตร์เมื่อวาติกันผลัดแผ่นดิน
Our score
8.6

The Two Popes สันตะปาปาโลกจารึก

จุดเด่น

  1. จากเรื่องจริงที่น่าสนใจมาก ๆ แบบได้ลงรายละเอียดเบื้องหลังที่ไม่เคยรู้ในแวดวงคริสตจักร
  2. ชั้นเชิงการเล่าที่ดีทั้งบท การแสดง และการกำกับ การถ่ายภาพ ตัดต่อ
  3. ดูเพลิน ยิ่งถ้าชอบหนังสไตล์คุยเดินเรื่องแบบมีมุกหยอกบ้างได้คิดด้วย นี่สุดยอดมากเรื่องนี้
  4. นักแสดงชั้นครูมาโชว์ของ ต้องดูล่ะ
  5. หนังลุ้นรางวัลที่มีให้ดูที่บ้านได้ด้วย อันนี้โคตรดี เหมือนได้เป็นกรรมการโหวตผลออสการ์ไปด้วยเลย

จุดสังเกต

  1. ใครไม่ชอบหนังคุยกันก็ถอยไป เดี๋ยวหลับ
  2. ต้องรู้ข้อมูลเบื้องต้นนิดถึงจะอิ่มกับรายละเอียดมากมายในเรื่อง
  3. บทแอบมีระหว่างบรรทัดเยอะ ต้องคิดตามถึงจะสนุกจริง ๆ
  • ความสมบูรณ์ของบท

    9.0

  • คุณภาพงานสร้าง

    9.0

  • คุณภาพนักแสดง

    9.5

  • ความสนุก

    7.5

  • คุ้มเวลาดู

    8.0

เรื่องย่อ จากเค้าโครงเรื่องจริงในวาติกันที่พำนักของโป๊ปหรือพระสันตะปาปาสังฆราชาแห่งคริสตจักร หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 สวรรคตลงในปี 2005 คณะพระคาร์ดินัลต่างประชุมเพื่อเลือกโป๊ปองค์ใหม่ โดยเป็นการเอาชนะคะคานกันระหว่างกลุ่มอนุรักษ์นิยมสายเคร่งที่สนับสนุน โยเซฟ รัทซิงเงอร์ จากเยอรมัน และคณะสายปฏิรูปที่สนับสนุน ฮอร์เฮ มาริโอ เบร์โกกลิโอ จากอาร์เจนตินา และนี่คือเรื่องราวนับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ที่เกิดดราม่าพลิกผันไปมาเพื่อทบสอบคุณค่าที่แท้จริงแห่งคริสตจักรอีกครั้ง

Play video

รายชื่อหนังลุ้นรางวัลใหญ่ในช่วงปลายปีนี้ นอกจากตัวเก็งออสการ์ที่เต็งกันมาตั้งแต่กลางปี ก็มีหนังดราม่าพลอตยิ่งใหญ่อย่าง The Two Popes หรือ สันตะปาปาโลกจารึก จากเน็ตฟลิกซ์เข้ามาเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับการจับตามองอย่างมีนัยยะสำคัญที่อาจสอดแทรกเข้าไปวินในบางสาขาสำคัญได้ หรืออย่างน้อยที่สุดการได้เข้าชิงในสาขาสำคัญก็เป็นไปได้สูงทีเดียว และว่ากันตามตรงหนังก็เป็นส่วนผสมของหนังรางวัลและหนังที่ดูสนุกเรื่องหนึ่งเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจจะเหมาะกับคนที่ชอบดูหนังที่เดินด้วยบทสนทนาสักหน่อย เพราะหนังว่าด้วยการคุยกันระหว่างตัวละครหลัก 2 คนตลอดทั้งเรื่องจริง ๆ

The Two Popes

หนังแข็งแรงมาก ๆ ด้วยพลอตที่น่าสนใจ ถ้าเป็นสารคดีก็ต้องบอกว่าซับเจ็กต์เรื่องนี้เดอะเบสต์จริง ๆ ให้เกริ่นนำก็แค่แนะนำตัวละคร 2 คน คนแรกคือพระสันตะปาปาที่อายุมากที่สุดเมื่อเริ่มดำรงสมณศักดิ์นับตั้งแต่พระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 12 (ค.ศ. 1730) ส่วนคนที่สองคือ พระสันตะปาปาพระองค์แรกจากทวีปอเมริกาและซีกโลกใต้ เป็นพระองค์แรกที่ประสูตินอกทวีปยุโรปนับตั้งแต่พระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 3 (ค.ค. 713) เป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกจากคณะเยสุอิต ทั้งยังเป็นพระองค์แรกที่ใช้พระนามใหม่ซึ่งไม่เคยปรากฏตามแบบแผนดั้งเดิมนับตั้งแต่พระสันตะปาปาลันโด (ค.ศ. 913) เทียบกันเพียงนี้ก็ชัดเจนเลยว่านอกจากความเป็นหน้าประวัติศาสตร์ใหม่แล้ว ทั้งคู่เป็นตัวแทนระหว่างอนุรักษ์นิยมและเสรีนิยมอย่างชัดแจ้ง ซึ่งเป็นวาระที่โลกยุคใหม่ถูกยกมาปะทะกันบ่อยครั้ง ฝั่งหนึ่งเคร่งในหลักตีความดั้งเดิม อีกฝั่งบอกกรอบกำแพงทำให้ศาสนาออกห่างจากชีวิตจริงควรมองให้กว้างและตีความหลักการให้เท่าทันโลกยุคใหม่ด้วย จากเชื้อไฟแค่นี้ล่ะ โคตรมันเลย

The Two PopesThe Two Popes

และไม่รู้จะเป็นการสปอยล์ไหม แต่คนที่มาดูเรื่องนี้ต่างก็รู้เรื่องนี้ดีมาก่อนแล้วเป็นสาระสำคัญที่ทำให้หนังน่าดูด้วยซ้ำนั่นคือ สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ยังเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกที่สละสมณศักดิ์โดยสมัครใจนับตั้งแต่พระสันตะปาปาเซเลสทีนที่ 5 (ค.ศ. 1294) หรือผ่านมากว่า 700 ปีจึงเพิ่งเกิดเหตุการ์ลาออกของพระสันตะปาปาอีกครั้ง แต่ช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจอันยากลำบากระหว่างสู้ต่อเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในยุคสมัยตนเอง หรือปล่อยมือให้ฝั่งตรงข้ามมีโอกาสเข้ามาปฏิรูปส่วนเน่าเสียในคริสตจักรแทน ความลังเลนี้หนักจนท่านต้องเรียกให้ศัตรูความคิดเบอร์ 1 มาถกเถียงกันเพื่อตกตะกอนความคิดตัวเองทีเดียว เรียกว่าจนตรอกสุด ๆ แต่การยอมออกนอกกรอบก็ทำให้ได้สิ่งใหม่ ๆ เข้ามา

และนี่ล่ะคือสาระทั้งหมดในการสนทนาครั้งประวัติศาสตร์ที่กินเวลาไม่กี่วันแต่ส่งผลพลิกหน้าประวัติศาสตร์โลกในหนังเรื่องนี้

The Two Popes

จุดแข็งของเรื่องถัดมาคงหนีไม่พ้นความคมคายในบทสนทนาที่ทั้งสนุก มีลูกล่อลูกชน ของ แอนโธนี แมกคาร์เทน มือเขียนบทที่เข้าชิงออสการ์มาแล้วจาก The Theory of Everything (2014) บทยังมีการแตะไปยังเรื่องศรัทธาความงมงายที่บางช่วงสะท้อนมายังพุทธศาสนิกชนอย่างเราเองได้ด้วย แล้วยังลากไปยังประวัติศาสตร์ยุคเลือดอาบชาวคริสต์กับความผิดบาปในการล้างคอมมิวนิสต์ภายในอาร์เจนตินาด้วย หนังค่อย ๆ พลิกมุมเดียวของตัวละครในฉากแรก ออกมาเป็นด้านลึกแง่ต่าง ๆ อย่างน่าสนใจ ในบางจุดทั้งสองคนแทบไม่ต่างกัน แม้ฝ่ายหนึ่งจะพูดตลอดเวลาว่า “ผมไม่เห็นด้วยกับสักอย่างที่คุณพูดเลย แต่..”  คำว่า แต่ นี่สำคัญนะมันใช้เปิดความเป็นไปได้อีกทางของบทสนทนา แน่นอนเรามักชินกับ แต่ ที่สร้างปัญหา ทว่าหากบทสนทนาเริ่มด้วยความขัดแย้งอยู่เดิม แต่ มันจะช่วยให้บทสนทนาเดินหน้าอย่างสร้างสรรค์ต่อไป และอีกคำที่น่าสนใจมาก ๆ ในหนังเรื่องนี้คือ ประนีประนอม ที่ถูกนำมาเปรียบกับคำว่า เปลี่ยน ได้อย่างมีชั้นเชิงและถูกเน้นย้ำหลายรอบ ใครที่สนใจการสร้างบทสนทนาที่ดีในหนัง ควรศึกษาจากเรื่องนี้เหมือนกัน

The Two PopesThe Two Popes

ส่วนจุดเด่นที่ดูเพลิน ดูตื่นตาตื่นใจสุด ๆ คือการพาผู้ชมเข้าไปลึกถึงห้องหับโอ่โถงในนครวาติกัน แถมยังได้เห็นบ้านพักส่วนพระองค์ของพระสันตะปาปาอย่างที่ไม่เคยได้เห็น และที่พิเศษมาก ๆ คือการจำลองพิธีเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ที่ปกติหากใครติดตามข่าวจะรู้ว่าเป็นพิธีปิดที่เราจะไม่ได้เห็นว่าภายในเกิดอะไรขึ้น โดยจะทราบเพียงผลจากปล่องควันที่หากว่าเป็นสีดำคือผลยังไม่ขาด และสีขาวคือคะแนนขาดได้พระสันตะปาปาองค์ใหม่แล้วนั่นเอง ซึ่งบอกเลยว่าว้าวในความรู้สึกตื่นเต้นมากที่เห็นรายละเอียดการเลือกตั้งราวกับนั่งเป็นหนึ่งในพระคาร์ดินัลเหล่านั้นทีเดียว ยิ่งเทคนิคการถ่ายภาพที่หลายครั้งใช้การถือแฮนด์เฮลด์และกระชากซูมแบบแนวสารคดีที่ดึงอารมณ์ร่วมผู้ชมอยู่หลายครั้ง ราวกับกำลังมองเหตุการณ์จริงที่กำลังเกิดขึ้นก็ไม่ปาน

The Two Popes

และสุดท้ายที่ต้องชื่นชมเลย คือการแคสติ้ง 2 นักแสดงนำที่เหมือนโคตร ๆ แถมเล่นดีกันมาก ๆ คือ 2 ยอดฝีมืออย่าง แอนโธนี ฮอปกินส์ เจ้าของรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมออสการ์จาก The Silence of the Lambs (1991) ในบท รัทซิงเงอร์ และ โจนาธาน ไพรซ์ ในบท เบร์โกกลิโอ ซึ่งทั้งสองคนก็ได้ลุ้นชิงในเวทีลูกโลกทองคำจากหนังเรื่องนี้มาแล้ว และน่าสนใจว่าในเวทีออสการ์เองก็น่าจะได้รับการเสนอชื่อทั้งคู่เช่นกัน และอย่างที่ควรต้องพูดก็คือบทที่ดีต้องผ่านการแสดงที่ยอดเยี่ยม และนี่คือหนังที่โดดเด่นในพลอต ในบท และในการแสดง ที่สำคัญสุด ๆ คือมีให้ดูที่บ้านได้ สุดยอดดด

The Two Popes The Two Popes

ชมทางเน็ตฟลิกซ์ได้ที่นี่เลย https://www.netflix.com/watch/80174451

 

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส