[รีวิว] Little Women: สี่บวกหนึ่งดรุณี รีไวส์วรรณกรรมคลาสสิกให้มีชีวิตใหม่
Our score
9.0

Little Women สี่ดรุณี

จุดเด่น

  1. เหมาะสำหรับคนที่ชอบ สี่ดรุณี และอยากรับรสใหม่ ๆ
  2. คุณภาพงานสร้างชั้นดี
  3. นักแสดงคุณภาพคับแก้ว
  4. ลีลาชั้นเชิงการเล่าที่สุดแสบ สุดคม

จุดสังเกต

  1. นักแสดงบางคนบทไม่ส่งก็แทบถูกกลืนหาย
  2. หนังปล่อยของมาเรื่อย ๆ แต่ไม้ตายจริง ๆ ต้องรอเกือบท้ายเรื่อง
  3. การเล่าสลับอดีตกับปัจจุบันอาจทำให้งงนิดหน่อย
  • ความสมบูรณ์ของบท

    9.0

  • คุณภาพนักแสดง

    9.0

  • คุณภาพงานสร้าง

    9.5

  • ความสนุกน่าติดตาม

    8.5

  • คุ้มเวลา ค่าตั๋ว

    9.0

สนับสนุนข้อมูลโดย Major Cineplex

เรื่องย่อ เรื่องราวการก้าวข้ามวัยหรือ Coming of age ของวัยรุ่นสู่การเป็นผู้ใหญ่ โจ (เซียร์ช่า โรแนน) อยากเป็นนักเขียน, เม็ก (เอ็มม่า วัตสัน) อยากเป็นนักแสดง, เอมี่ (ฟลอเรนซ์ พิวจ์) อยากเป็นจิตรกร และ เบ็ธ (อลิซา สแกนเลน) น้องสาวตัวน้อย สิ่งที่ทั้ง 4 คนต้องเผชิญและเป็นเหมือนกับแก่นของเรื่องก็คือ การต่อสู้กับกรอบของสังคมที่วัดความสำเร็จของผู้หญิงจากการแต่งงาน เพื่อตอกย้ำให้รู้ว่าการแต่งงานไม่ใช่ตัววัดความสำเร็จหรือคุณค่าเสมอไป หลุดออกจากกรอบเก่า ๆ ไปพร้อม ๆ กัน

Play video

Little Women เป็นหนังแห่งโชคชะตาของผู้กำกับหญิง เกรต้า เกอร์วิก เจ้าของรางวัลหนังยอดเยี่ยมเวทีลูกโลกทองคำเมื่อปีก่อนจากหนัง Lady Bird (2017) ที่ส่งให้ดาราสาวคู่บุญอย่าง เซียร์ช่า โรแนน คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมไปครองด้วย เหมือนหนังรอให้เธอพร้อมเข้ามาปลุกชีวิตวรรณกรรมแสนรักของสตรีค่อนโลกเรื่องนี้อยู่นานหลายปี จึงเป็นทั้งความภูมิใจและความท้าทายที่ทุกสายตาย่อมเพ่งเล็งว่าเกรต้าจะสามารถดัดแปลงผลงานวรรณกรรมระดับโลกที่ตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี 1868 จากผลงานเขียนของนักเขียนหญิง ลุยซา เมย์ อัลคอตต์ ที่มีหัวใจว่าด้วยชีวิตของหญิงสาวผู้ขบถต่อแนวคิดผู้ชายเป็นใหญ่ในสมัยนู้น ถึงขนาดมีคำสั่งจากบรรณาธิการว่า “จงเขียนเรื่องที่นางเอกแต่งงานในตอนจบ หรือไม่ก็ตาย” ให้กลับมามีมนต์ขลังอย่างไรในปี 2020 ปีที่สิทธิสตรีก้าวหน้ามาอย่างล้นพ้น จนเรื่องราวแบบเมื่อร้อยกว่าปีก่อนดูตลกไปเลย

Little Women

โจทย์ยากที่ 2 ที่เกรต้าต้องเจอคือ การเปรียบเทียบกับสารพัดเวอร์ชันก่อนหน้าที่ถูกผลิตซ้ำออกมามากมายทั้ง หนัง ละคร แอนิเมชัน ฯลฯ เอาว่าแค่ฉบับหนังที่เด่น ๆ ก็มีทั้ง ปี 1933 ที่ แคทารีน เฮปเบิร์น แสดงนำ ปี 1949 ของจูน แอลลิสัน และฉบับปี 1994 ที่ได้ วิโนนา ไรเดอร์ แสดงบทนำพร้อมทีมนักแสดงชั้นเยี่ยมที่เพิ่งเริ่มฉายแววในเวลานั้นทั้ง เคียร์สเต็น ดันสต์, แคลร์ เดนส์ และ คริสเตียน เบล ราวกับว่าทุกรอบหลายทศวรรษจะต้องมี สี่ดรุณี แห่งยุคสมัยตัวเองอยู่เสมอ การทำหนังเรื่องนี้ในปี 2020 จึงเป็นความท้าทายยิ่งยวดที่ต้องถูกเอาไปเทียบกับทั้งฉบับนวนิยายและฉบับหนังดัดแปลงก่อนหน้าอย่างที่ได้กล่าวมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ โชคดีอย่างหนึ่งคือเกรต้าไม่ต้องลำบากใจมากในการเฟ้นหาดาราสาวที่จะมารับภาระหนักในบท โจ พี่คนรองสุดขบถและเปี่ยมชีวิตชีวา ผู้เป็นตัวแทนผู้เขียน ผู้ชม เข้าไปกลัดกลุ้มในเรื่องราวหรรษาและระทมทุกข์ที่ไร้กาลเวลา เพราะ เซียร์ช่า โรแนน เป็นตัวเลือกที่ดีงามและน่าสนใจมาตั้งแต่ครั้งร่วมงานในหนังเรื่องก่อนอย่าง Lady Bird แล้ว

Little Women Little WomenLittle Women

ส่วนตัวละครอีก 2 ตัวที่ต้องรับสัดส่วนในเนื้อหาที่สำคัญก็คือ เบ็ธ น้องสาวคนรองสุดท้องสุดเอาแต่ใจ ก็ได้นักแสดงฝีมือดีอย่าง ฟลอเรนซ์ พิวจ์ จาก Lady Macbeth (2016) และ Midsommar (2019) ที่ถ่ายทอดทั้งช่วงวัยเด็กและสาวแรกรุ่นของเบ็ธได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในขณะที่บทชายหนุ่มข้างบ้านสุดแสนมีเสน่ห์ก็ได้นักแสดงหนุ่มมากฝีมือ ทิโมธี ชาลาเมต์ ที่เคยเข้าชิงนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมออสการ์มาแล้วจาก Call Me by Your Name(2017) มาแสดงประกบกับพี่น้อง 4 สาวหลากรุ่น โดยเฉพาะกับ เซียร์ช่า โรแนน ได้อย่างเคมีตรงกันดีมาก ดีขนาดถึงรู้เรื่องราวในหนังสือมาก่อนก็ยังอดอินกับคู่นี้ไม่ได้จริง ๆ เรียกว่าชุดนักแสดงผ่านหมด โดยยังไม่ต้องไล่ชื่อนักแสดงอีกหลายคนอย่าง เอ็มม่า วัตสัน, ลอร่า เดิร์น, คริส คูเปอร์ และ เมอรีล สตีป  เลยด้วยซ้ำ

Little Women

Little Women

Little Women

เมื่อได้วัตถุดิบชั้นดีอย่าง นวนิยายชื่อก้องโลก และทีมนักแสดงรุ่นเก่าผสมรุ่นใหม่แต่มากฝีมือ สิ่งที่เหลือที่ต้องชมอย่างแท้จริงคือฝีมือการปรุงของ เกรต้า เกอร์วิก ในฐานะคนเขียนบทและผู้กำกับ ที่ศึกษาหามุมมองที่น่าสนใจโดยตีความนวนิยายผ่านชีวประวัติของผู้เขียนอย่าง ลุยซา เมย์ อัลคอตต์  ผู้ซึ่งเอาตนเองลงเป็นต้นแบบในเรื่องราวสาว ๆ เพื่อต่อสู้ ส่งเสียง ให้แก่เด็กสาวและสตรีในยุคสมัยถัด ๆ มา ให้อย่ากลัวที่จะมีความฝัน และเลิกมองตนเองเป็นสิ่งเปราะบางที่จะอยู่ไม่ได้ในโลกที่ผู้ชายคอยพยายามควบคุม

“ผู้หญิงอย่างเรามีจิตใจ มีวิญญาณ เช่นเดียวกับที่พวกเธอมีหัวใจ พวกเรามีความฝัน มีพรสวรรค์ เช่นเดียวกับที่พวกเธอมีความงาม หนูทนไม่ไหวเลยกับพวกที่ชอบพูดว่า ความรักคือสิ่งเดียวที่ผู้หญิงอย่างพวกเรามี!!!”

โดยเกรต้าหยิบหนึ่งในเรื่องตลกที่สุดของอัลคอตต์มาเล่าด้วยนั่นคือ ความจริงอัลคอตต์ไม่คิดเขียนให้โจต้องแต่งงานเช่นเดียวกับตัวเธอเองที่โสดและร่ำรวย ทว่าเหล่าผู้อ่านต่างเรียกร้องให้เธอเขียนให้โจได้แต่งงานกับลอรี่หนุ่มแสนดีข้างบ้าน อัลคอตต์จึงต้องฝืนใจเขียนให้โจได้แต่งงานในตอนท้ายจนได้ ซึ่งเกรต้าก็เอาประเด็นนี้มาผสมผสานกับตัวนวนิยายโดยได้อัลคอตต์เป็นดรุณีคนที่ 5 ในเรื่องราวและตีความออกมาได้สดใหม่ คมคาย อย่างมีชั้นเชิง ทั้งยังไม่ทรยศผู้อ่านเดิมที่ชอบนิยายด้วย ทั้งการตัดสลับอดีตกับปัจจุบันให้สอดรับ สะท้อนกันและกัน จนถึงขัดแย้งกันและกันจนเกิดธาตุความคิดตกตะกอนในหลากประเด็นขึ้นมากมายได้ ทั้งความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ทั้งความรักระหว่างพี่น้องที่มองข้ามความขัดแย้งรุนแรง และประเด็นที่ใหญ่สุดของเรื่องคือความรักและคุณค่าของการแต่งงานนั้นศักดิ์สิทธิ์เพียงใดกัน ต้องยืนยันว่ายอดเยี่ยมมากในการขมวดจบท้ายที่สวยงาม แสบ และคมคายอย่างที่สุดเท่าที่ผลงานดัดแปลง สี่ดรุณี เคยทำมากี่ยุคกี่สมัยก็ตาม

Little Women

ปัญหาใหญ่ที่พบในตอนแรก และรู้สึกเองว่าเป็นแผลใหญ่ เพราะนิยายนั้นเก่าแก่เสี่ยงจะเชย ทั้งการเดินเรื่องเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็ไปอย่างเรื่อยเอื่อยขยี้อารมณ์น้อย ประเด็นมุมมองสตรีทั้งหลายก็ดูตื้นและไม่อยากจับต้องนักอย่างเรื่อง สุดท้ายผู้หญฺิงก็อยู่ใต้อิทธิพลของสามีหรือบิดาอยู่วันยังค่ำอะไรเทือกนั้น ทว่าพอหนังได้เผยตัวตนจริง ๆ ว่าเป็นเช่นไรแล้ว แผลที่ว่ามาก็กลายเป็นรอยลายครามที่ส่งเสริมงดงามโดดเด่นให้แก่บทสรุปไปเสียเฉยเลย เป็นหนังดีที่ควรค่าการรับชมจริง ๆ

 รัก ไม่รัก แต่ง ไม่แต่ง ลุ้นหนังก็ลุ้นไป แต่จองตั๋วซื้อตั๋วไม่ต้องลุ้น กดที่รูปด้านล่างเลย

Little Women

 

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส