ทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นรายชั่วโมงสำหรับการแพร่ระบาดของเชื้อโรคร้ายตัวใหม่อย่าง “โคโรนา” ที่จนถึงวันนี้ (25 มกราคม) ภายหลังการประกาศข่าวจากทางการจีนว่าเกิดการแพร่ระบาดขึ้นไม่ถึง 1 สัปดาห์ ก็มีรายงานการพบผู้ป่วยที่กระจายตัวออกจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนไปยังเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น รวมถึงไทยก็พบนักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อในหลายจังหวัดแล้ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลากหลายวงการ ไม่เว้นแม้แต่วงการภาพยนตร์ จากรายงานล่าสุดโรงภาพยนตร์กว่า 70,000 แห่งของประเทศจีนได้ปิดให้บริการอย่างไม่มีกำหนดเปิด
ประเทศที่ได้ชื่อว่ามีโรงภาพยนตร์มากที่สุดในโลก เป็นแหล่งขุมทรัพย์สำคัญที่ฮอลลีวูดจะนำหนังฟอร์มยักษ์มาฉายในแต่ละปี รวมถึงหนังฟอร์มยักษ์ของจีนเองก็ติดอันดับ 1 ใน 20 หนังทำเงินสูงสุดทั่วโลกอยู่หลายปีหลังมานี้ (อย่างเช่น The Wandering Earth ของปีก่อนที่เปิดฉายสุดสัปดาห์เดียวกันนี้ และทำรายได้ทั่วโลกไป 671 ล้านเหรียญฯ มากกว่าหนังฮอลลีวูดฟอร์มดีหลายเรื่องที่ฉายจากทั่วโลกด้วยซ้ำ) โดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีนที่เป็นช่วงเทศกาลวันหยุด อันเป็นช่วงเวลาทองของการโกยเงิน ตอนนี้ก็ได้กลายเป็นฝันร้ายสำหรับค่ายผู้ผลิตหนังไปแล้วเรียบร้อย โดยค่ายหนังยักษ์ใหญ่ของจีน ทั้ง Wanda, CGV, Bona, Lumiere Pavillions, Jinyi และ Dadi ได้ออกมาประกาศปิดให้บริการ ภายใต้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อกว่า 1,300 คน และเสียชีวิตไปแล้ว 41 คนจนถึง ณ ขณะนี้
The Wandering Earth แชมป์หนังทำเงินสูงสุดของจีนเมื่อปีที่แล้ว เปิดตัวในสุดสัปดาห์วันตรุษจีน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ค่ายหนังยักษ์ใหญ่ได้ออกมาประกาศเลื่อนโปรแกรมฉายหนังฟอร์มยักษ์หลายเรื่อง เช่น Vanguard หรือชื่อไทยหน่วยพิทักษ์ฟัดข้ามโลก นำแสดงโดยนักแสดงแม่เหล็กอย่าง “เฉินหลง” ที่เลื่อนฉายหมดทั้งในไทย ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ จนกว่าประเทศจีนจะฉายก่อน ประเทศอื่นจึงจะฉายตามได้ตามที่ตกลงไว้ในสัญญา
หนังเรื่องอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบยังรวมถึง Detective Chinatown 3 หรือชื่อไทย “แก๊งม่วนป่วนโตเกียว” ที่ภาคแรกมาป่วนกันถึงกรุงเทพ ในภาคนี้ยังมีนักแสดงนักบู๊ชาวไทย “จา พนม” ไปร่วมแสดงด้วย, Lost in Russia ที่ค่ายหนัง Huanxi ได้มีประกาศอย่างเป็นทางการออกมา ว่าได้ปล่อยหนังลงสตรีมมิงให้ดูกันแบบฟรี ๆ แทน โดย CEO ได้กล่าวผ่านคลิปว่า “เราขอให้ทุกคนปลอดภัย และดู Lost in Russia กับแม่ที่บ้านนะ”, Leap, The Rescue, Boonie Bear: The Wild Life รวมถึงภาพยนตร์อีกหลายเรื่องที่มีศักยภาพจะกลายเป็นหนังทำรายได้ 1,000 ล้านเหรียญฯ จากทั่วโลก ซึ่งก็มักจะได้ทำรายได้กว่า 70% จากการเข้าฉายในสุดสัปดาห์นี้ของจีน
โดยปกติแล้วจีนจะไม่อนุญาตให้หนังฮอลลีวูดหรือหนังของประเทศอื่นเข้าฉายในสุดสัปดาห์ตรุษจีน เพื่อเปิดโอกาสหลีกทางให้หนังของประเทศทำรายได้แบบถล่มทลาย จนกระทั่งถึงวันศุกร์และเสาร์ที่โรงหนังประกาศปิดให้บริการสำหรับการฉายหนังทุกเรื่อง ก่อนหน้านี้เมื่อนับถึงเช้าวันพฤหัสที่ 23 มกราคมนั้น ได้มีการเปิดขายบัตรล่วงหน้าสำหรับหนังทุกเรื่องรวมกันไปแล้วราว 67.5 ล้านเหรียญฯ (หรือ 468 ล้านหยวน) ซึ่งโรงหนังก็ได้ประกาศคืนเงินให้กับลูกค้าในเวลาต่อมา
ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนได้ประกาศงดทุกการจัดงานรื่นเริงในเทศกาลตรุษจีนหรือขึ้นปีใหม่ในปีนี้ และให้ชาวจีนงดเดินทางออกนอกประเทศเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด รวมถึงไม่ออกไปรวมตัวในที่ชุมชนที่มีคนหนาแน่น และส่งกำลังใจให้กับแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการจำกัดวงของการโรคระบาด
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส