ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับเดือนแรกของปี 2020 ที่สำหรับวงการภาพยนตร์นั้น ก็ยังเป็นเดือนแห่งการโละของเก่าตกค้างจากปีก่อนรวมถึงการปล่อยหนังหวังรางวัลในวงกว้างสำหรับการประกวดบนเวทีออสการ์ เดือนมกราคม 2020 นำทีมความสำเร็จโดย Bad Boys for Life หรือภาค 3 ที่ทำรายได้ดีและนักวิจารณ์ชื่นชอบจนประกาศสร้างภาค 4 1917 และ Little Women ก็ประสบความสำเร็จด้วยดีกับการเป็นหนังหวังรางวัลที่ทำเงินเลยหลัก 100 ล้านเหรียญในสหรัฐฯ ส่วนหนังแฟนตาซีของ Robert Downey Jr. อย่าง Dolittle ก็ได้กลายเป็นความล้มเหลวจากหนังฟอร์มใหญ่เรื่องแรกของปีไปเป็นที่เรียบร้อย (และกลายเป็นหนังเจ๊งเรื่องแรกในรอบ 10 ปีของป๋าด้วย)
ในฝากฝั่งประเทศไทย ก็เป็นหนัง Jumanji: The Next Level ที่ทำรายได้ต่อเนื่องจากเดือนธันวาคมปีก่อน ปิดรายได้ไป 108 ล้านบาท แต่หนังที่ทำรายได้สูงสุดนับจากการเปิดตัวในเดือนมกราคมจริง ๆ ก็คือ Dolittle ที่ทำรายได้ไปมากสุดที่ 27 ล้านบาท (ข้อมูลจากชมรมวิจารณ์บันเทิงที่เก็บรายได้จากโรงในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่)
มาว่ากันต่อถึงเดือนที่สองของปี อย่างเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักเพราะมีวันวาเลนไทน์ What The Fact: Coming Up ขอนำเสนอหนังไทยที่ต้องมี “หนังรัก” เข้าฉายให้วัยรุ่นหนุ่มสาวตีตั๋วเข้าไปชม (เช่นเดียวกับปีก่อนที่มีหนัง Friendzone ของ GDH เป็นหนึ่งเดียวที่เข้าฉายและกวาดรายได้ถล่มทลาย) และก็ยังมี “หนังผี-หนังสยองขวัญ” ไว้ให้ชวนหนุ่มสาวไปออกเดทแล้วสะดุ้งโหยงไปซบคนข้าง ๆ และก็ยังมี “หนังฟอร์มยักษ์” ที่ขอหลบช่วงซัมเมอร์มาเปิดตัว หวังโกยรายได้เช่นกัน
Birds of Prey (6 กุมภาพันธ์)
- นักแสดง: Margot Robbie, Ewan McGregor, Mary Elizabeth, Jurnee Smollett-Bell, Bojan Novakovic, Ali Wong
- ผู้กำกับ: Cathy Yans (Dead Pigs)
- ระดับความน่าดู: พอปคอร์น 9/10 ถัง
- น่าดูยังไง?: ทิศทางใหม่ของหนังที่สร้างตัวละครจาก DC ให้เป็นเอกเทศแยกจากกันมากขึ้น ในตอนต้นควินน์ถูกโจ๊กเกอร์หักอก เธอกลับไปยังโรงงานสารเคมี สถานที่ที่โจ๊กเกอร์สร้างเธอขึ้นมาในภาค Suicide Squad หลังจากนั้นเธอก็ทำลายมันทิ้ง (มีการยืนยันแล้วว่า โจ๊กเกอร์ของ Jared Leto จะไม่มาปรากฎตัวในเรื่องอย่างแน่นอน) เมืองก็อตแธมดูแตกต่างและเต็มไปด้วยสีสันมากกว่าที่เคยเห็นมาในเรื่องไหน ๆ เหตุผลก็เพราะหนังจะเล่าผ่านมุมมองของ ฮาร์ลีย์ ควินน์ ที่มองทุกอย่างแบบ “คัลเลอร์ฟูล” แต่ก็ใช่ว่าสิ่งที่เธอเล่าออกมานั้น จะตรงกับโลกแห่งความจริงทั้งหมด และนักวิจารณ์ที่ได้ชมกลุ่มแรกก็บอกว่า หนังจะแอ็กชันถึงอกถึงใจในระดับ John Wick ภาคผู้หญิงกันเลยทีเดียว
Bombshell (6 กุมภาพันธ์)
- นักแสดง: Nicole Kidman (The Hours), Charlize Theron (Monster, Fast 8) , Margot Robbie (I, Tonya) , John Lithgow
- ผู้กำกับ: Jay Roach (Meet the Parents, Meet the Fockers, The Campaign, Trumbo)
- ระดับความน่าดู: พอปคอร์น 8/10 ถัง
- น่าดูยังไง?: สร้างจากเหตุการณ์สุดแซ่บที่เกิดขึ้นจริง จากกระแส #MeToo เมื่อ 2 ปีก่อน ที่เกิดคดีล่วงละเมิดทางเพศที่อื้อฉาวไปทั้งวงการข่าวสหรัฐอเมริกาในปี 2006 ออกมาสะท้อนประเด็นการล่วงละเมิดทางเพศที่กลายเป็นปัญหาระดับโลก โดยหยิบเหตุการณ์ที่นักข่าวสาวช่อง Fox News ลุกขึ้นมาแฉผู้บริหารชายของช่องว่าใช้ทั้งวาจาและกำลังลวนลามผู้หญิงที่ทำงานอยู่ภายใต้อำนาจของพวกเขา ความน่าดูแค่เห็น 3 รายชื่อนักแสดงตัวแม่ของวงการก็เพียงพอแล้ว 2 นักแสดงที่เคยได้ออสการ์นำหญิงมาแล้วอย่าง Nicole Kidman และ Charlize Theron (ได้เข้าชิงอีกครั้งจากเรื่องนี้) และ 1 นักแสดงที่เคยได้เข้าชิง (และมีหนังฟอร์มยักษ์เข้าฉายในเดือนเดียวกันอย่างเรื่องก่อนที่เพิ่งเล่าไปตะกี้) อย่าง Margot Robbie (เข้าชิงออสการ์จากเรื่องนี้อีกครั้งด้วยเช่นกัน) หนังยังพ่วงเข้าชิงสาขาแต่งหน้าและทำผมยอดเยี่ยมไปด้วยอีกสาขาหนึ่ง เขียนบทโดย Charles Randolph ที่เคยเขียนบทหนังวิกฤตซับไพรม์ The Big Short ที่ข้อมูลอัดแน่นให้กลายเป็นหนังที่บันเทิงสุด ๆ ได้มาแล้ว
Classic Again จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ (6 กุมภาพันธ์)
- นักแสดง: รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร, ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ, สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร, ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย
- ผู้กำกับ: ธัชพงศ์ ศุภศรี
- ระดับความน่าดู: พอปคอร์น 8/10 ถัง
- น่าดูยังไง?: จากผลงานสุดแสนตราตรึงฉบับเกาหลีปี 2003 ของผู้กำกับกวักแจยง เรื่อง The Classic หรือชื่อไทยว่า “คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต” ที่แจ้งเกิดซนเยจิน (ที่กำลังดังในตอนนี้จากซีรีส์ Crash Landing on You) นำมาสู่หนังไทยฉบับปี 2020 บอกเล่าเรื่องราวแบบเดียวกัน เมื่อ” โบต้า” (รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร นักแสดงจากละครช่อง 3) นักศึกษาสาวที่แอบหลงรัก “นน” (สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร) อยู่ข้างเดียว เพราะเพื่อนสนิทของเธออย่าง “ป๊อปปี้” (ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย) ก็กำลังมีใจให้นนอยู่เช่นกัน วันหนึ่งโบต้าได้พบกับกล่องใบเก่าที่ “ดาหลา” (รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร) แม่ของเธอได้เก็บจดหมายที่บรรจุความทรงจำรักครั้งแรกของเธอกับ ขจร (นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ นักแสดงดังจากซีรีส์ Dark Blue Kids จูบสุดท้ายเพื่อนายคนเดียว) ที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่โบต้ากำลังเผชิญอยู่จนน่าตกใจ ความรักสามเส้าของคนสองรุ่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่โบต้าได้ย้อนกลับไปเรียนรู้ความสวยงาม ความเจ็บปวด และการยอมเสียสละเพื่อความรักของคนรุ่นก่อน และกลายเป็นบทเรียนสำคัญที่เธอต้องกลับมาตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรกับความสัมพันธ์อันแสนซับซ้อนที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเธอในตอนนี้
The Grudge (13 กุมภาพันธ์)
- นักแสดง: John Cho (Searching), Andrea Riseborough (Birdman), Tara Westwood, Betty Gilpin
- ผู้กำกับ: Nicolas Pesce (The Eyes of My Mother, Piercing)
- ระดับความน่าดู: พอปคอร์น 7/10 ถัง
- น่าดูยังไง?: “บ้านผีดุ” เคยเป็นหนังสยองทุนต่ำมาแล้วในเวอร์ชันก่อนตอนปี 2004 ที่ย้อนกลับไปไม่นานตอนนี้ก็ได้เวลารีเมกกันอีกครั้ง ต้นฉบับงานหนังญี่ปุ่นก็คือหนัง Ju-on (จูออน) หนังผีเด็กหน้าขาวที่โด่งดังจนมีภาคต่อตามออกมาอีกหลายภาค เวอร์ชันฮอลลีวูดมีภาค 2 และ 3 ตามออกมาในปี 2006 และ 2009 แต่ก็ได้รับความนิยมและรายได้ต่ำลงเรื่อย ๆ เป็นเหตุให้ต้องรีเมกกันอีกรอบ โดยรอบนี้อำนวยการสร้างโดยผู้กำกับดัง Sam Raimi จาก Spider-Man และ The Evil Dead ที่ขอตีความใหม่ให้หนังมีโทนที่มืดหม่นกว่าเดิม เกี่ยวกับตำรวจหญิงที่เข้าไปสืบคดีน่ากลัวคดีหนึ่ง ซึ่งคดีนี้และความลึกลับบางอย่างได้พาเธอไปยังบ้านหลังหนึ่งที่เป็นบ้านต้องคำสาป
Low Season สุขสันต์วันโสด (13 กุมภาพันธ์)
- นักแสดง: มาริโอ เมาเร่อ, พลอยไพลิน ตั้งประภาพร, กิดาการ ฉัตรแก้วมณี, อัครินทร์ อัครนิธิเมธ, ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์, ศกลรัตน์ วรอุไร, ณฉัตร จันทพันธ์, นาคร ศิลาชัย, ศุภกร กิจสุวรรณ
- ผู้กำกับ: นฤบดี เวชกรรม (สาระแนห้าวเป้ง, สาระแนสิบล้อ, สาระแนเห็นผี)
- ระดับความน่าดู: พอปคอร์น 8/10 ถัง
- น่าดูยังไง?: “หลิน” สาววัยรุ่นที่โสดด้วยเหตุผลที่แปลกกว่าชาวบ้าน เพราะว่าเห็นผี! จนโดยผู้ชายเท เธอจึงจัดทริปลุยเดี่ยวไปรักษาแผลใจ ถึง กิ่วแม่ปาน จังหวัดเชียงใหม่ ที่นั่นเธอได้เจอกับ “พุธ” บิวตี้บล็อกเกอร์ (?) และนักเขียนบทหนังที่ไอเดียตันและรักคุดมาเหมือนกัน โพรเจกต์หนังเรื่องใหม่จะต้องได้คนเห็นผีมาช่วยออกไอเดียพอดิบพอดี พุธและหลินได้ไปรวมตัวกับโฮมเสตย์แห่ง “คนโสด” ที่มาดามแผลใจและมาเที่ยวให้อุ่นในเมืองหนาวเพื่อคลายเหงา หนังรักอารมณ์ดีของพระเอกพันล้าน “มาริโอ เมาเร่อ” ที่เคยฝากผลงานหนังรักอย่างสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารักกับค่ายสหมงคลฟิล์มเดียวกันนี้มาแล้ว ส่วนนางเอกก็เป็นการประเดิมผลงานการแสดงครั้งแรกของพลอยไพลิน ตั้งประภาพร เจ้าของเพจชื่อดัง “พลอยเรียนจบแล้วไปทำอะไรต่อ?” ซึ่งทีมงานใช้เวลาแคสติงนักแสดงมารับบทนี้ถึง 2 ปีเลยทีเดียว วันวาเลนไทน์นี้ถ้ายังไม่มีโปรแกรม หนังรักน่ารักเรื่องนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
The Room (13 กุมภาพันธ์)
- นักแสดง: Olga Kurylenko (007 Quantam of Solace) , Kevin Janssens, Marianne Bourg
- ผู้กำกับ: Christian Volckman (Renaissance)
- ระดับความน่าดู: พอปคอร์น 6/10 ถัง
- น่าดูยังไง?: เรื่องราวสุดสยองของคู่สามีภรรยา “แมตและเคท” เมื่อทั้งคู่พบว่าในบ้านใหม่ของพวกเขานั้นมีห้องวิเศษที่สามารถดลบันดาลสิ่งของทุกอย่างตามที่ต้องการ ในวันหนึ่งเคทได้ตัดสินใจเสกสิ่งที่ทั้งคู่ต้องการมาตลอดนั่นก็คือ “ลูกชาย” แต่แล้วพวกเขาก็ได้ค้นพบกฎของบ้านหลังนั้น เมื่อทั้งคู่พบว่าทุกสิ่งที่เสกขึ้นมาจะกลายเป็นเถ้าธุลีเมื่อออกห่างจากบริเวณบ้าน และมันก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้ายที่ทั้งคู่มิอาจหลีกเลี่ยงพ้น หนังเป็นผลงานกำกับของผู้กำกับที่ไม่ค่อยมีผลงาน สิ่งที่น่าดูที่สุดจริง ๆ คือนักแสดงสาวอย่าง Olga Kurylenko ที่เคยเป็นสาวบอนด์ 007 ในตอน Quantam of Solace (2008), Oblivion (2013), Max Payne (2008)
พี่นาค 2 (20 กุมภาพันธ์)
- นักแสดง: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์, วิทวัส รัตนบุญบารมี (เอม ตามใจตุ๊ด-เจ้าของช่อง YouTube ชื่อดัง), คุณพัทธ์ พิเชษฐ์วรวุฒิ, อธิวัตน์ แสงเทียน, ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์, ธามไท แพลงศิลป์, พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร
- ผู้กำกับ: ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ (มอญซ่อนผี)
- ระดับความน่าดู: พอปคอร์น 7/10 ถัง
- น่าดูยังไง?: หนังภาคต่อ 1 ปีจากภาคที่แล้ว ที่ทำรายได้ในกรุงเทพและเชียงใหม่ไปกว่า 50 ล้านบาท และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประเทศเพื่อนบ้าน ภาค 2 เล่าเรื่องเกี่ยวกับ “พระบอลลูนและพระเฟิร์ส” ต้องแอบสึกแบบลับ ๆ ปล่อยให้ “พระโหน่ง” อยู่รับ ใช้ศาสนากับสองคู่หู “เณรน้อตและอ๊อด” ต่อไปในวัดที่มีตำนานความสยอง มีคำร่ำลือกันว่า คนที่มาบวชที่นี่ต่างต้องตายตอนเป็นนาคและไม่เคยมีใครบวชเป็นพระได้เลย เพราะความเฮี้ยนของผีพี่นาคที่ตามหลอกหลอนผู้ที่จะมาบวชจนบวชไม่สำเร็จ แต่แล้วบอลลูนและเฟิร์สก็ต้องย้อนกลับมาที่วัดในสภาพร่อแร่ปางตาย ขอกลับมาบวชซ้ำรอบสองเพื่อหวังล้างคำสาปที่วัดแห่งนี้ไม่มีใครเคยได้สึก ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันว่าจะสึกได้สำเร็จหรือไม่
Code 8 (20 กุมภาพันธ์)
- นักแสดง: Stephen Amell (Arrow), Robbie Amell (The Flash), Sung Kung (The Fast Saga)
- ผู้กำกับ: Jeff Chan
- ระดับความน่าดู: พอปคอร์น 7/10 ถัง
- น่าดูยังไง?: โพรเจกต์พลิกวงการหนังอินดี ต่อยอดจากหนังสั้นที่ได้รับการระดมทุนสูงถึง 2 ล้านเหรียญฯ จากเว็บไซต์ Indiegogo.com สู่ภาพยนตร์ไซไฟพล็อตล้ำ ในโลกที่ประชากรเหลือเพียง 4% พวกเขาเกิดมาพร้อมความสามารถพิเศษเหนือธรรมชาติ แต่กลับถูกสังคมกดขี่ต้องให้ใช้ชีวิตอยู่อย่างอดอยาก เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อชายคนหนึ่งนามว่า “แกร์เร็ต” (รับบทโดย Robbie Amell จากซีรีส์ The Flash) ต้องดิ้นรนหาเงินมาเพื่อจ่ายค่ารักษาแม่ของเขา เขาเข้าร่วมกับแก๊งโจรของ “คอนเนอร์ รีด” (Stephen Amell นักแสดงนำของซีรีส์ Arrow) ที่สอนให้เขาใช้พลังของตัวเองเพื่อก่ออาชญากรรม เอเจนท์ปาร์ค (Sung Kung เจ้าของบน “ฮาน” จากแฟรนไชส์ The Fast and the Furious) ที่ร่วมแสดงในหนังสั้นต้นฉบับ กลับมารับบทเดิมคือ ตำรวจที่คอยไล่ล่าโจรที่ใช้พลังแหกกฏหมายอย่างไม่ลดละ
Pain and Glory (20 กุมภาพันธ์)
- นักแสดง: Antonio Banderas (The Mask of Zorro), Penelope Cruz (Volver), Asier Etxeandia, Leonardo Sbaraglia
- ผู้กำกับ: Pedro Almodóvar (Talk to Her, Bad Education, Volver)
- ระดับความน่าดู: พอปคอร์น 8/10 ถัง
- น่าดูยังไง?: ภาพยนตร์ที่ว่ากันว่ายอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของเจ้าป้า Pedro Almodóvar ผู้กำกับรางวัลออสการ์บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก Talk to Her (2002) และกำกับหนังเม็กซิโกชั้นเยี่ยมมาแล้วมากมาย ทั้ง Bad Education (2004), Volver (2006) ผลงานที่ทำให้ Antonio Banderas ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Cannes Film Festival และเข้าชิงรางวัลออสการ์นำชายปีล่าสุด (พ่วงเข้าชิงรางวัลสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมด้วย) เล่าถึงประสบการณ์ชีวิตของ ‘ซัลวาดอร์ มัลโล’ ผู้กำกับภาพยนตร์ที่หมดไฟในการทำงานและสภาพร่างกายย่ำแย่ หนังจะเล่าตั้งแต่ในวัยเด็กในช่วงยุค 60s ที่ครอบครัวของเขาต้องอพยพไปอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เมืองบาเลนเซีย การออกตามหาความสำเร็จ ความปรารถนา และรักครั้งแรกที่เกิดขึ้นในกรุงมาดริดช่วงยุค 80s ความเจ็บปวดจากรักแรกครั้งที่ยังคงอยู่ไม่หายไป และการรักษาเพียงหนทางเดียวคือ การพยายามลืมในสิ่งที่เขาไม่อาจลืมได้ให้สำเร็จ
Sonic the Hedgehog (27 กุมภาพันธ์)
- นักแสดง: Ben Schwartz, James Marsden (X-Men), Jim Carrey (The Mask, Bruce Almighty)
- ผู้กำกับ: Jeff Fowler
- ระดับความน่าดู: พอปคอร์น 9/10 ถัง
- น่าดูยังไง?: เรื่องราวของเจ้าเม่นสายฟ้า “โซนิค” (ให้เสียงโดย Ben Schwartz จากหนัง Parks and Recreation) ที่มีพลังความเร็วระดับซูเปอร์โซนิค เขาผูกมิตรกับเพื่อนมนุษย์นายอำเภอนามว่า “ทอม วาชาวสกี้” (James Marsden จาก X-Men ไตรภาคแรกสุด) และต้องออกผจญภัยร่วมกันเมื่อ ดร.โรบอตนิค ตัวร้ายของเรื่อง (Jim Carrey ที่หายหน้าหายตาจากหนังใหญ่ไปนาน) พยายามไล่จับโซนิคเพื่อใช้พลังความเร็วของมันในการครอบครองโลก ตัวการ์ตูนสุดคลาสสิกจากวิดีโอเกมค่าย Sega ตัวนี้ ใช้เวลาเดินทางนานพอสมควรกว่าจะได้ขึ้นจอใหญ่ ซึ่งค่ายหนังอย่าง Paramount ก็ดูจะมั่นอกมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าหนังจะปังแน่ หลังจากเลื่อนกำหนดฉายเดิมในสหรัฐฯ จาก 8 พฤศจิกายนปีก่อน มาเป็นวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ปีนี้แทนเพื่อขอเวลาแก้เทคนิค CG ให้หน้าตาออกมาดูดีอย่างที่เห็นในตอนนี้
The Closet (27 กุมภาพันธ์)
- นักแสดง: ฮาจองอู, ฮอยุล, คิมนัมกิล
- ผู้กำกับ: คิมควานบิน
- ระดับความน่าดู: พอปคอร์น 7/10 ถัง
- น่าดูยังไง?: หลังจากอุบัติเหตุเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้เมียของเขาต้องตาย “ซังวอน” (รับบทโดย ฮาจองอู ที่เพิ่งเห็นหน้ากันไปจากหนัง Ashfall เมื่อเดือนก่อน) เขามีลูกสาวที่ความสัมพันธ์ไม่ค่อยจะลงรอยกันอยู่แล้วชื่อว่า “อินา” (รับบทโดยนักแสดงเด็กฮอยุล) พ่อลูกย้ายบ้านใหม่เพื่อที่ซังวอนจะได้มีเวลาใกล้ชิดกับอินามากขึ้น วันหนึ่งอินาบอกพ่อของเขาว่าเธอมีเพื่อนใหม่ (ในจินตนาการ) หลังจากนั้นเธอก็เริ่มทำตัวประหลาดและหลอนขึ้นทุกที และซังวอนก็ยังได้ยินเสียงประหลาดจากตู้เสื้อผ้า (Closet) ของอินารวมถึงฝันประหลาดแปลก ๆ บ่อยๆ ด้วย เนื้อเรื่องฟังดูคล้าย “ตู้ซ่อนผี” หนังเกาหลี The Tales of Two Sisters เมื่อปี 2003 และก็ยังละม้ายคล้ายกับ The Room หนังฝรั่งที่เข้าฉายเดือนนี้เหมือนกัน เอาเป็นว่าถ้าใครชอบหนังสยองที่ซ่อนตัวอยู่ตามโต๊ะตู้ตั่งเตียง ก็จัดมันไปเลยสองเรื่องรวด
คืนยุติ-ธรรม (27 กุมภาพันธ์)
- นักแสดง: จิรายุ ตันตระกูล, รามาวดี นาคฉัตรีย์, เกียรติ กิจเจริญ, ดนัย จารุจินดา, ณัฎฐธิดา ดำรงวิเศษพาณิชย์
- ผู้กำกับ: กัณฑ์ปวิตร ภูวดลวิศิษฏ์ (นมัสเตอินเดีย ส่งเกรียนไปเรียนพุทธ)
- ระดับความน่าดู: พอปคอร์น 9/10 ถัง
- น่าดูยังไง?: ห่างหายไปนานสำหรับหนังไทยที่ออกโทนเครียด ๆ แนวศาลเตี้ยแบบนี้ เพราะเสี่ยงต่อการมองว่า “ไม่บันเทิง” แต่รสชาติและเนื้อหาของหนังที่พูดถึงความเหลื่อมล้ำ การเรียกร้องสิทธิ ชนชั้นและการถูกเลือกปฏิบัติแบบนี้ก็ต้องยอมรับว่า เป็นเชื้อไฟชั้นดีในการจรรโลงสังคม เพราะเมื่อไรเมื่อนั้นที่เราจะได้เห็นบนข่าวและหน้าหนังสือพิมพ์เสมอ ดังคำพูดที่ว่า “คุกมีไว้ขังหมากับคนจนเท่านั้น” หนังใช้โทนภาพที่ทำให้นึงถึงหนังเรื่องเฉือน (2552) ของผู้กำกับก้องเกียรติ โขมศิริ ซึ่งเป็นงานฟิล์มนัวร์ที่ทำออกมาได้ถึงใจดี คืนยุติ-ธรรม นำแสดงโดยนักแสดงที่กำลังสร้างชื่อจากผลงานขายการแสดง “ก๊อต จิรายุ” จากจอมขมังเวทย์ 2020 และนางเอกสาวใหญ่จากละครโทรทัศน์ที่ห่างหายไปนาน “ปูเป้-รามวดี นาคฉัตรีย์ (สิริสุขขะ)” (พี่สาวของเชอร์รี่ เข็มอัปสร) สมทบด้วย ซูโม่กิ๊ก-เกียรติ กิจเจริญ และนักแสดงอีกมากมาย ภายใต้การอำนวยการสร้างของผู้กำกับมือฉมัง “นนทรีย์-นิมิบุตร” จากนางนาก และ 2499 อันธพาลครองเมือง
The Truth (27 กุมภาพันธ์)
- นักแสดง: Catherine Deneuve, Juliette Binoche, Ethan Hawke, Clémentine Grenier
- ผู้กำกับ: Hirokazu Kore-eda (Shoplifters, Nobody Knows, Our Little Sister)
- ระดับความน่าดู: พอปคอร์น 9/10 ถัง
- น่าดูยังไง?: การกลับมาอีกครั้งของผู้กำกับมือเยี่ยมชาวญี่ปุ่น “ฮิโรคาสุ คุโรเอดะ” ที่เพิ่งพา ในเรื่องนี้ที่หันมากำกับนักแสดงต่างประเทศ (ฝรั่งล้วนในที่นี้) เป็นครั้งแรก บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวตามสไตล์ถนัดของผู้กำกับ เล่าเรื่องของ “เฟเบียน” (Catherine Deneuve นักแสดงฝรั่งเศสชื่อดังยุค 80s จาก Indochine (1982)) นักแสดงรุ่นใหญ่ของวงการหนังฝรั่งเศสที่ผู้คนรักและเชิดชู แต่เธอกลับไม่ค่อยลงรอยกับ “ลูเมียร์” (Juliette Binoche เจ้าของรางวัลออสการ์นำหญิงจาก The English Patient (1996)) ลูกสาวที่ทำอาชีพนักเขียนบท แต่งงานกับ “แฮงค์” (Ethan Hawke จากไตรภาค Before Sunrise) นักแสดงโทรทัศน์ และมีลูกสาวน่ารักหนึ่งคนนั่นคือ “ชาร์ล็อต” (Clémentine Grenier) 3 คนพ่อแม่ลูกใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ในเมืองนิวยอร์ก แต่แล้วก็มีเหตุให้ลูเมียร์ต้องเดินทางกลับมายังฝรั่งเศสและพบกับแม่อีกครั้ง คู่แม่ลูกที่ห่างเหินกันจึงต้องกลับมากระชับความสัมพันธ์ พร้อมรับรู้ความจริงบางอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน
The Call of the Wild (27 กุมภาพันธ์)
- นักแสดง: Harrison Ford (Indiana Jones), Dan Stevens (Beauty and the Beast), Karen Gillan (Jumanji: The Next Level)
- ผู้กำกับ: Chris Sanders (Lilo & Stitch, How to Train Your Dragon, The Croods)
- ระดับความน่าดู: พอปคอร์น 8/10 ถัง
- น่าดูยังไง?: ภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายขายดีของ Jack London ที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1903 ชื่อไทยว่า “เสียงเพรียกจากพงไพร” การผจญภัยครั้งสำคัญในช่วงยุค 1890 ซึ่งเป็นยุคตื่นทองของน้องสุนัขตัวโตชื่อ “บั๊ค” ที่ร่อนเร่พเนจรจนได้เจอกับเจ้าของคนใหม่ “จอห์น ธอร์นตัน” (Harrison Ford วัย 77 จาก Star Wars และ Indiana Jones) ที่พาร่วมออกเดินทางครั้งสำคัญในฐานะหมาลากเลื่อน ในดินแดนที่เต็มไปด้วยหิมะและภูเขาน้ำแข็งทางตอนเหนือของสหรัฐฯ ที่หนาวสุดขั้วหัวใจ เคยสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว 2 รอบ ในปี 1935 บทของ Ford รับบทโดย Clark Gable ผู้โด่งดังจาก Gone with the Wind (1939) และในปี 1972 รับบทโดย Charlton Heston จากหนังสุดยิ่งใหญ่แห่งยุคอย่าง Ben-Hur (1959) และ The Ten Commandments (1956) บั๊คในฉบับนี้สร้างจากคอมพิวเตอร์กราฟิกทั้งหมด (ไม่ใช่สุนัขจริง ๆ) ที่เป็นส่วนผสมจากสุนัขพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ดผสมกับสก็อตช์เชพเพิร์ด
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส