Our score
8.1Chronicle of a Blood Merchant ในดวงใจพ่อ
จุดเด่น
- เลือกนักแสดงเด็กมาได้ดี ส่งอารมณ์ถึงคนดูได้สำเร็จ
- เรื่องนี้ฮาจุงวูเล่นเอง กำกับเอง ให้ 3 ผ่าน
จุดสังเกต
- ยังติดใจกับการเล่าเรื่องในบางจุดที่สร้างความสงสัยในหลายแง่มุม ลองดูค่ะสงสัยในจุดเดียวกันไหม
- หนังขายชื่อยุนอึนฮเยแต่ออกมา 2 แว้บเท่านั้นเอง
- การเล่าเรื่องช่วงแรกเบาบางไปหน่อย แต่เทน้ำหนักมาช่วงหลังเป็นดราม่าน้ำตาซึมจนได้
-
ความสมบูรณ์ของบท
7.0
-
คุณภาพงานสร้าง
8.5
-
คุณภาพนักแสดง
9.0
-
คุณภาพการเล่าเรื่อง
7.5
-
คุ้มเวลาในการรับชม
8.5
ดัดแปลงจากนิยายดังของ หยูหัว ในชื่อเรื่องเดียวกัน Chronicle of a Blood Merchant คนขายเลือด เป็นหนึ่งในนิยายที่ขายดีที่สุดของจีนในทศวรรษ 1990 นิยายเล่าเรื่องชีวิตของครอบครัวชาวจีน ผ่านตัวละครที่มีชื่อว่า “สี่ซานกวาน” หนุ่มชาวเมืองคนงานโรงไหม ผู้มีภาระต้องหาเลี้ยงเมียและลูกชายสามคนอย่างยากลำบาก ต้องผ่านเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ มากมายในช่วงของการปฏิวัติวัฒนธรรมที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายก้าวกระโดดครั้งใหญ่ เขายอมทำได้แม้กระทั่งขายเลือดของตัวเองเพื่อลูกเมีย แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เล่าถึงการเผชิญหน้ากับความวุ่นวายของการปฏิวัติวัฒนธรรมหรอกค่ะ และเปลี่ยนแปลงบรรยากาศของเหตุการณ์ให้เกิดขึ้นในเกาหลีแทน
Chronicle of a Blood Merchant ในดวงใจพ่อ
- ประเภท : ดราม่า
- ดัดแปลงจากบทประพันธ์ของ : หยูหัว
- กำกับ : ฮาจุงวู
- นักแสดงนำ : ฮาจุงวู , ฮาจีวอน , ยุนอึนฮเย
- ปีที่ออกฉาย : 2015
- ช่องทางรับชม Line tv (ซับไทย)
เล่าเรื่องของ ฮอซัมกวาน (ฮาจุงวู) ชายหนุ่มที่ทำงานรับจ้างทั่วไปในตลาด หลงรัก อ๊กรัน (ฮาจีวอน) สาวสวยขายข้าวโพดคั่วดาวเด่นประจำหมู่บ้าน เขาตัดสินใจ “ขายเลือด” เพื่อนำเงินมามัดใจอ๊กรัน ซึ่งในยุคนั้นการขายเลือดเป็นเรื่องปกติที่หาเงินได้มากกว่าการขายแรงงาน เขาพาอ๊กรันไปเที่ยว พาไปกินอาหารอร่อย ซื้อของให้ เรียกว่าสายเปย์มาเอง แต่สุดท้ายอ๊กรันก็ไม่รับรักเขาเพราะอ๊กรันมีแฟนอยู่แล้วคือ ฮาโซยัง ( มินมูเจ) แถมฐานะดีเสียอีกด้วย จนเขาต้องเข้าทางพ่อและสุดท้ายก็ได้แต่งงานกับอ๊กรัน
เวลาผ่านไป 11 ปี ฮอซัมกวานมีลูกชายกับอ๊กรัน 3 คน อิลลัก อีลักและซัมลัก แต่ปัญหามันก็เกิดที่ อิลลัก ลูกชายคนโตนี่แหละค่ะ เพราะเพื่อนบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อิลลักหน้าตาเหมือนฮาโซยังมากกว่าเขา “อิลลักนี่ต้องเป็นลูกของอ๊กรันกับฮาโซยังแน่ ๆ” จนเขาต้องให้อิลลักไปตรวจแลือด แล้วก็ต้องพบกับบทพิสูจน์ความรักที่จะบอกเราว่า ความรักความผูกพัน มีค่ามีความหมายมากกว่าสายเลือด จนเขาต้องยอมขายเลือดนับครั้งไม่ถ้วนเพื่อลูกชายคนนี้
แค่ได้กินของอร่อยก็คือความสุขสุดยอดแล้ว
ครอบครัวของฮอซัมกวานเป็นครอบครัวธรรมดาครอบครัวหนึ่งที่ ทำมาหากินไปวัน ๆ รับจ้างทั่วไปอยู่ในตลาด ไม่ร่ำรวยและเกือบจะยากจน ด้วยสภาพบ้านเมืองในยุคนั้น คนรวยก็รวยไป คนจนก็หาเช้ากินค่ำไปตามระเบียบ อาหารการกินในครอบครัวก็มีกินเท่าที่พอหาได้ ไม่ได้สมบูรณ์พูนพร้อมชนิดที่ว่าอยากกินอะไรก็ได้กินดั่งนึก เมื่อครอบครัวประสบปัญหาบางอย่างต้องใช้เงิน สิ่งที่เขาทำได้เพื่อลูกเมียก็คือ ขายเลือด เอาเงินมาใช้จ่ายให้ลูกและเมียได้ยิ้มอย่างมีความสุข ในช่วงนี้ก็จะมีซีนที่บีบอารมณ์ความรู้สึกเล็กน้อยกับสิ่งที่พ่อทำให้ลูกและความรู้สึกของอิลลักที่อยู่ ๆ สถานะก็เปลี่ยนไปแบบตั้งตัวไม่ติด
หนังปูเรื่องความสัมพันธ์ ความรัก ความรู้สึกของฮอซัมกวานมาตั้งแต่เริ่มแรก มีมุมอารมณ์ดี มุกขำเบา ๆ ในเนื้อหนัง ที่ทำให้รู้สึกว่าทรัพย์สินเงินทองหรือความร่ำรวยไม่ได้เป็นตัวกำหนดรอยยิ้ม หากแต่ความรักความเข้าใจในครอบครัวนั่นต่างหากที่สำคัญที่สุดถึงแม้จะยากจนแค่ไหนแต่ความสุขในชีวิตก็หาง่าย ๆ ได้ที่บ้าน เพียงแค่อยู่กันพร้อมหน้า น้ำหนักการเล่าเรื่องในส่วนนี้อาจจะเบาบางอยู่สักหน่อย แต่ก็ชัดเจนอยู่พอสมควรกับการกระทำแต่ละอย่างที่ฮอซัมกวานตัดสินใจทำลงไปเพื่อคนที่เขารัก เขายอมขายเลือดเพื่อให้ได้แต่งงานกับหญิงที่เขารัก ขายเลือดเพื่อช่วยเหลือครอบครัว เพื่อความสุขของลูกที่อยากกินอาหารดี ๆ สักมื้อ
ความยาว2 ชั่วโมง 4 นาทีกับการเล่าเรื่องที่ ขออีกหน่อยเถอะน่า
แอบคิดว่าถ้าภาพยนตร์เรื่องนี้ยาวกว่านี้คือเพิ่มเวลามาอีกสัก 10 นาที ความสมบูรณ์ของการเล่าเรื่องน่าจะเต็มที่กว่านี้ได้อีกรึเปล่า ฉากบางฉากทำให้เราต้องมโนเอาเองแบบ น่าจะเป็นแบบนั้นเปล่าวะ หรือกับนักแสดงที่ยอมลงทุนแปลงร่างเป็นสาวอ้วนอย่าง ยุนอึนฮเย ที่รับบทเป็น อิมบุนบัง สาวขายชาในหมู่บ้านที่สร้างความเข้าใจผิดให้กับเพื่อนของฮอซัมกวานสามีของอิมบุนบัง น่าจะมีบทบาทมากกว่านี้อีกรึเปล่า ประมาณว่าเล่าอะไรเพิ่มอีกสักนิดเถอะน่า แต่ในความตั้งใจนำเสนอของหนังก็เข้าใจว่าอยากจะให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วมไปด้วยนั่นก็คือ ความสงสัย แล้วก็ได้ข่าวมาว่าบทนี้ ยุนอึนฮเย รับเล่นเรื่องนี้เพราะต้องการพลิกบทบาททางการแสดงถึงแม้ว่าในบทนี้เธอจะปรากฎตัวไม่มากก็ตาม
ซีนบีบอารมณ์จะมาหนักช่วงท้าย ๆ เป็นช่วงเวลาของการพิสูจน์ความรักของผู้ชายคนหนึ่งที่มีต่อเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่เขาเองก็คลางแคลงในความสัมพันธ์ ผิดหวัง เสียใจ เป็นความรักท่ามกลางความสับสนที่ทำให้ตัดสินใจในเสี้ยวนาที จนนำมาซึ่งการเสียสละอย่างที่พ่อคนหนึ่งยอมแลกทุกอย่างได้แม้กระทั่งเลือดในร่างกายเพื่อลูก มีน้ำตาไหลค่ะ ลุ้นด้วย บางฉากก็เอาใจช่วยในใจว่า อย่านะ อย่าเป็นแบบนั้นนะ อยากจะกดข้ามไปให้รู้แล้วรู้รอดเพราะไม่อยากเห็นภาพบาดตาที่มโนเอาเอง แต่ก็ทำไม่ได้ค่ะกลัวพลาดความรู้สึกสำคัญ
เรื่องนี้ถึงจะเป็นหนังนอกกระแส แต่ช่อง 7 ก็เคยเอามาฉายเมื่อเมษายนปีที่แล้วในชื่อเรื่อง “สู้เพื่อฝันครอบครัวตัวจี๊ด”
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส