วันที่ 4 เมษายนปีนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ 55 ของป๋า Robert Downey Jr. ผู้สวมบทบาทที่น่าจดจำที่สุดในโลกบทหนึ่งและเป็นบทซูเปอร์ฮีโรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของ Marvel Studios อย่าง Iron Man บุคคลผู้เป็นที่รักของแฟนหนังผู้ครองสถิติค่าตัวจากหนังหนึ่งเรื่องสูงที่สุดตลอดกาลในตอนนี้ (75 ล้านเหรียญฯ จาก Avengers: Endgame (2019)) มีเรื่องราวในอดีตตลอด 55 ปีที่ผ่านมาหลายเรื่องที่น่าสนใจ
อย่างที่หลายคนคงทราบกันว่าเขาเคยมีจุดตกต่ำที่สุดในชีวิตช่วงหนึ่งเมื่อไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด ก่อนจะ comeback กลับมาได้เพราะการให้โอกาสของ Marvel Studios กับบท Iron Man แล้วเรื่องราวอื่นนอกจากนั้นล่ะ? วันนี้ What The Fact จะขอเปิดปูมชีวิตของพระเอกแมวเก้าชีวิตคนนี้ ว่ามีเรื่องไหนของ Downey Jr. ที่คุณอาจจะยังไม่รู้ก็ได้
- เขาเกิดที่ถนนแมนฮัตตัน เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาฯ เกิดในครอบครัวผู้ผลิตภาพยนตร์โดยคุณพ่อ Robert Downey นั้นเป็นผู้กำกับ และคุณแม่ Elsie Ann Ford ที่เป็นนักแสดง ทำให้ในวัยเพียง 5 ขวบ Downey Jr. ก็ได้เริ่มเล่นภาพยนตร์เรื่องแรก Pound (1970) ที่พ่อของเขาเป็นผู้กำกับนั่นเอง
Robert Downey ผู้พ่อ
Elsie Ann Ford แม่ของ Downey Jr.
- ด้วยความที่เติบโตมาในครอบครัวนักสร้างภาพยนตร์ เขาจึงเลือกไปเรียนต่อที่ Stagedoor Manor Performing Arts Trainning Center ก่อนจะเข้าเรียนไฮสคูลที่ซานตาโมนิกาจนปี 1982 เขาก็ลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาเป็นนักแสดงเต็มตัวที่เมืองนิวยอร์ก โดย 3 ปีแรกของการหางานทำนั้น เขามีรูมเมทเป็นนักแสดงอย่าง Keifer Sutherland (ซีรีส์ 24 และ Designated Survivor) ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันในหนัง 1969 (1988)
Robert Downey Jr. กับ Keifer Sutherland ในหนัง 1969 (1988)
- ผลงานการแสดงในยุคแรกของ Downey Jr. ที่ถือเป็นยุครุ่งโรจน์ทางการแสดงของนักแสดงหน้าใหม่ในยุค 80s-90s เขาได้แสดงในหนังเรื่องแรก ๆ ในบทตัวประกอบในหนัง Firstborn (1984) ของผู้กำกับ Michael Apted, Less Than Zero (1987), Johnny Be Good (1988) ประกบ Uma Thurman, Air America (1990) ประกบ Mel Gibson ที่ต่อไปจะมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตเขาในช่วงดิ่งลงเหว
Less Than Zero (1987)
Johnny Be good (1988)
Air America (1990)
- จุดสูงสุดทางการแสดงของ Downey Jr. ครั้งหนึ่งก็คือ การได้เข้าชิงสาขานักแสดงนำชายจากหนังเรื่อง Chaplin (1992) ที่เขาแสดงเป็นตำนานนักแสดงในหนังใบ้อยาง “ชาร์ลี แช็ปลิน” ในหนังของผู้กำกับ Richard Attenborough ประกบกับนักแสดงอย่าง Anthony Hopkins, Dan Aykroyd, Milla Jovovich และป้าเมใน Spider-Man อย่าง Marisa Tomei ที่ได้มาประกบกันอีกครั้งใน Only You (1994) ส่วนอีกครั้งที่เขาได้เข้าชิงออสการ์สมทบชายก็ข้ามมา Tropic Thunder (2008) เลย
- ส่วนรางวัลลูกโลกทองคำนั้น เขาเคยได้รับทั้งหมด 3 ครั้งจาก Short Cuts (1993) ที่ร่วมแสดงกับ Deborah Falconer ภรรยาคนแรก, ซีรีส์ Ally Mcbeal (1997) และ Sherlock Holmes (2009)
Chaplin (1992)
Only You (1994) ประกบ Marisa Tomei
Tropic Thunder (2008)
- ปัญหายาเสพติดในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงปี 1996 -2001 Downey Jr. จึงต้องเผชิญกับการเข้าบำบัดอาการติดยาเสพติดหลายครั้ และที่ส่งผลกระทบกับชีวิตการทำงานและชื่อเสียงของเขามากที่่สุดก็คือการถูกไล่ออกจากการรับบทในซีรีส์ Ally Mcbeal (1997) ที่ส่งให้เข้าได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ สาเหตุหลักที่ทำให้เขาติดยา เนื่องจากพ่อของเขาก็เสพยาและให้เขาลองเสพตั้งแต่อายุ 6 ขวบ “เมื่อตอนที่พ่อกับผมเล่นยาด้วยกัน เป็นช่วงเวลาเดียวที่เขาจะแสดงความรักต่อผมให้ผมเห็น มันเป็นวิธีเดียวที่เขาพอจะคิดได้ และทำให้เขากับผมได้ใกล้ชิดกัน” เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้
- เขาต้องเข้าห้องขังและคุกมากถึง 3 ครั้ง ในช่วงชีวิตตกต่ำ ครั้งแรกนาน 6 เดือนในปี 1996 จากจากเรื่องยาเสพติดกับเรื่องครอบครองปืน ในปี 1996 ผู้พิพากษาได้ตัดสินให้เขารอลงอาญา 3 ปี และต้องทำการตรวจปัสสาวะเพื่อพิสูจน์ว่าเขาเลิกยาแล้วจริง ๆ แต่เขากลับขัดขืน ครั้งที่ 2 นาน 3 ปีจากคดียาเสพติดแต่วางเงินประกันทำให้จำคุกแค่ 1 ปี ในปี 1999 ทั้งปี และครั้งที่ 3 จากคดียาเสพติดอีกครั้ง คราวนี้โดนคุมประพฤติและบำบัดนานถึง 3 ปีเต็ม
- ต่อมาก็เหมือนกงเกวียนกำเกวียน เมื่อลูกชายของ Downey Jr. อย่าง Indio ก็ถูกจับตอนวัยรุ่น ฐานมีโคเคนไว้ในครอบครอง เขาจึงขอแก้ปัญหาลูกชายเข้ารับการบำบัดด้วยตัวเอง Downey Jr. เลิกยาเสพติดได้อย่างเด็ดขาดในปี 2003 โดยเขาคิดได้ขณะนั่งกินแฮมเบอร์เกอร์อยู่ในร้านเบอร์เกอร์คิง
ในซีรีส์ Ally Mcbeal (1997)
Robert Downey Jr. กับลูกชาย Indio
- อย่างที่บอกไปตอนต้น Mel Gibson คือคนแรก ๆ ที่ยื่นมือฉุดเขากลับเข้ามาในวงการหลังจากตัดสินใจเลิกเด็ดขาจากยาเสพติด พวกเขาเคยร่วมแสดงในหนังเรื่อง Air America (1990) ทำให้พวกเขาสนิทกัน Gibson ให้ Downey Jr. มาเล่นบทนำในหนังเรื่อง The Singing Detective (2003) ที่ Gibson เป็นผู้อำนวยการสร้างอยู่ เรื่องเดียวยังไม่พอ Gibson ก็ยังพาเขาไปฝากฝังกับผู้กำกับ Shane Black ตอนที่กำลังจะทำหนัง Kiss Kiss Bang Bang (2005) Black คือมือเขียนบทหนังริกส์ คนมหากาฬ หรือ Lethal Weapon มาทุกภาคจึงสนิทสนมกับ Gibson เป็นพิเศษ ซึ่งต่อมาปี 2013 Downey Jr. ก็ตอบแทนที่ Black ให้โอกาสเขาตอนนั้น โดยให้มากำกับ Iron Man 3 (2013) จนประสบความสำเร็จอย่างมาก
- ต่อมา Mel Gibson ก็เข้าสู่ช่วงชีวิตตกต่ำเช่นกัน เมื่อปรากฏคลิปว่าเขาดูถูกชาวยิวและต่อว่าเหยียดหยามเพศหญิงอย่างรุนแรง จนทำให้ฮอลลีวูดแทบจะแบนเขากันหมด ในงานมอบรางวัล American Cinematheque Award ปี 2011 ให้กับ Robert Downey Jr. เขาได้รับรางวัลโดยมีเซอร์ไพรส์จากผู้มอบนัั่นคือ Mel Gibson เป็นคนมามอบรางวัลให้เขา ซึ่ง Downey Jr. ก็ได้พูดบนเวทีเรียกร้องให้ฮอลลีวูดให้อภัย Gibson ได้แล้ว นอกจากนี้เขายังพยายามล็อบบี้อย่างหนักเพื่อให้ Marvel Studios เลือก Gibson มารับบทวายร้ายธานอสใน Avengers เพื่อเรียกชื่อเสียงกลับมา แต่ผู้บริหาร Disney หลายคนที่เป็นชาวยิวขอไม่เอาด้วย และก็ยังล็อบบี้ให้ Gibson มากำกับหนัง Marvel สักเรื่องแต่พอแนวทางของ Gibson อยากจะกำกับแต่หนังเรต R ที่เต็มไปด้วยความรุนแรง ก็ต้องแยกย้ายกันไป
Downey Jr. และ Mel Gibson ที่ก็ร่วมแสดงด้วยในหนัง The Singing Detective (2003)
- ในปี 200 Downey Jr. เคยออกผลงานเพลงชุด “The Futurist” กับค่าย Sony Classical Records จนไต่ขึ้นไปได้ถึงอันดับที่ 121 ใน Billboard Chart 200
- ภรรยาคนปัจจุบันของ Downey Jr. คือ Susan Levin หนึ่งในผู้อำนวยการสร้างหนังเรื่อง Gothika (2003) ที่เขาร่วมแสดงอยู่ด้วย (แสดงกับ Halle Berry และ Penélope Cruz) Levin คือเบื้องหลังกำลังใจคนสำคัญที่ทำให้เขาผ่านช่วงมืดหม่นจากการไร้ชื่อเสียงและติดยาเสพติดมาได้ Downey Jr. ขอเธอแต่งงานในปี 2005 และเข้าสู่การบำบัดยาเสพติดอย่างจริงจังที่เรียกว่า Family Therapy เขาทำสมาธิและเล่นโยคะ รวมถึงตั้งใจทำานโดยมีภรรยาและครอบครัวเป็นแรงบันดาลใจและเป็นเป้าหมายที่แนวแน่ จนในที่สุดเขาก็หายขาดจากการติดยา
- ก่อนหน้านี้เขาเคยแต่งงานมาแล้วกับนักแสดง Deborah Falconer และมีลูกชายหนึ่งคนชื่อ Indio Falconer Downey วัย 26 ปี ส่วนในยุค 80s นั้น Downey Jr. ยังเคยออกเดทกับนักแสดงสาว Sarah Jessica Parker จาก Sex and the City ด้วย
กับภรรยาคนแรกและแม่ของลูกชายคนเดียวของเขา Deborah Falconer
เคยออกเดทในยุค 80s กับ Sarah Jessica Parker
กับภรรยาคนปัจจุบัน Susan Levin ที่พบกันในกองถ่ายหนัง Gothika (2003)
ภาพยนตร์เรื่อง Gothika (2003) ที่เขาร่วมแสดงกับ Halle Berry
- ในปี 2005 ปีเดียว Downey Jr. ได้เล่นหนังกับผู้ที่เคยสวมบทบาทเป็น “แบตแมน” มาก่อนถึง 3 คน (ซึ่งในเวลาต่อมา Batman ก็เป็นตัวละครฮีโรที่ประสบความสำเร็จสูงสุดที่เคยสร้างหนังกันออกมาจากฝั่งดีซีคอมิก ส่วน Iron Man ก็เป็นเช่นกันในฝั่งมาร์เวล) นั่นคือ George Clooney ในหนังขาวดำ Good Night, and Good Luck, Val Kilmer ใน Kiss Kiss Bang Bang และ Michael Keaton ใน Game 6
Good Night, and Good Luck (2005)
Kiss Kiss Bang Bang (2005)
Game 6 (2005)
- Robert Downey Jr. โด่งดังจากหนังแฟรนไชส์นักสืบอีกเรื่องอย่าง Sherlock Holmes (2009-2011) ที่มีออกมา 2 ภาคแล้ว และภาค 3 กำลังจะตามมาปี 2021 ซึ่งถ้าย้อนดูแล้วจะเห็นว่า เขาเคยร่วมงานกับนักแสดงที่เคยรับบทเป็น “คุณหมอวัตสัน” ใน Sherlock Holmes เรื่องต่าง ๆ มาแล้วถึง 4 คนคือ Jude Law ในหนังของตัวเอง, Martin Freeman รับบทไว้ในฉบับซีรีส์ Sherlock (ร่วมงานกันมาแล้วใน Captain America: Civil War (2016)), Ben Kingsley รับบทไว้ใน Without a Clue (1988) (Kingsley เป็นตัวร้ายปลอม ๆ ใน Iron Man 3 (2013)) และ Robert Duvall รับบทไว้ใน The Seven-Per-Cent Solution (1976) (แสดงร่วมกับ Duvall ไว้ใน The Judge (2014))
Downey Jr. และ Jude Law ใน Sherlocks Holmes (2009)
Martin Freeman ในซีรีส์ Sherlocks (2010-2017)
Ben Kingsley ใน Without a Clue (1988)
Robert Duvall ใน The Seven-Per-Cent Solution (1976)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส