หลายคนคงมีโอกาสได้ชมหนังเรื่องใหม่ที่นำแสดงโดยพี่ Chris Hemsworth เจ้าของบทเทพเจ้าสายฟ้าธอร์ ที่ได้หวนกลับมาร่วมงานกับสองพี่น้อง Russo ผู้กำกับ Avengers: Endgame ที่มาอำนวยการสร้างหนังเรื่อง Extraction หรือชื่อเดิม Dhaka ที่อาจจะคุ้น ๆ ข่าวของหนัง เพราะยกกองมาถ่ายทำในประเทศไทยเมื่อปี 2018 แม้ในเรื่องจะบอกว่าเรื่องราวเกิดในเป็นประเทศบังกลาเทศก็ตาม
Hemsworth รับบทเป็น “ไทเลอร์ เรค” ทหารรับจ้างที่ไม่เกรงกลัวใคร เขาต้องใช้ฝีมือช่วยลูกชายของมาเฟียใหญ่ในแวดวงอาชญากรข้ามชาติ ที่ถูกลักพาตัวไปยังเมืองธากา ในประเทศบังกลาเทศระหว่างที่พ่อติดคุก สมทบด้วย David Harbour จาก Black Widow และ Stranger Things และ Derek Luke จากซีรีส์ 13 Reasons Why นอกจากนั้น ยังเป็นการกำกับเรื่องแรกของ Sam Hargrave ที่ได้มากำกับหนังใหญ่เป็นครั้งแรกหลังจากเป็นผู้กำกับคิวบู๊และผู้กำกับกองถ่ายย่อย อยู่เบื้องหลังหนังของ Marvel Studios มาแล้วทุกเรื่อง โดยเฉพาะ Avengers ทุกภาค (อ่านรีวิวฉบับเต็มเรื่องนี้ของ WTF ได้ที่นี่)
ผู้กำกับ Hargrave (คนที่มารับบทรับเชิญเป็นมือสไนเปอร์ เพื่อนพระเอกที่ชิงรีบตายตั้งแต่ต้นเรื่องคนนั้นแหละ) ตั้งใจกับการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ให้ออกมาสมจริงอย่างที่คอหนังหลายคนได้พิสูจน์ไปแล้ว กับฉากไล่ล่าแบบ Long-take 11 นาที เขาได้เล่าไว้ในคลิปของ The New York Times ถึงทักษะของการเคยเป็นทีมสตันท์มาก่อน ทำให้สามารถถือกล้องถ่ายทำแบบ handheld ติดสลิงที่ตัวเองแล้ววิ่งและกระโดดไปพร้อมกับนักแสดงในฉาก Long-take ต่าง ๆ ได้ นอกจากนั้นโลเคชันของหนังส่วนใหญ่ก็ยังถ่ายทำในประเทศไทย ได้แก่จังหวัดกรุงเทพมหานคร นครปฐม ราชบุรี และภูเก็ต
สื่ออย่าง The Standard ที่เป็นสื่อจากทั่วโลกเพียง 4 แห่งที่ได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์ Chris Hemsworth ถึงในกองถ่ายตอนที่มาถ่ายทำในประเทศไทยเมื่อปี 2018 ได้เล่าถึงการถ่ายทำไว้อย่างน่าสนใจ และยังให้ข้อมูลเบื้องหลังการถ่ายทำไว้ว่า
- ตอนแรก Extraction จะถ่ายที่เมืองโกลกาตา ในประเทศอินเดียด้วย แต่ติดปัญหาเรื่องการที่คนอินเดียจะมามุงดูจำนวนมาก เรื่องสภาพจราจร และกฎหมายการห้ามใช้ปืนในกองถ่าย จึงต้องหาโลเคชันใหม่เป็นประเทศอื่น
- สะพานที่ใช้ถ่ายฉากไคลแมกซ์ตอนท้ายเรื่องถ่ายทำที่สะพานลาดบัวขาว จังหวัดราชบุรี ซึ่งทีมงานต้องปิดสะพาน 4 สัปดาห์ Mary Barltrop ที่รับหน้าที่ Supervising Location Manager พร้อมทีมงานของเธอ ต้องทำการรีเสิร์ชหรือค้นหาสะพานที่เหมาะกับการถ่ายทำกว่า 72 แห่งทั่วประเทศไทยจนมาเจอสะพานแห่งนี้
- ตอนแรกหนังเรื่องนี้จะใช้ประเทศในทวีปอเมริกาใต้เป็นโลเคชันหลัก แต่ทางทีมงานรู้สึกว่าเคยเห็นมาบ่อยแล้วในหนังแอ็กชันเรื่องอื่นจึงมาเลือกใช้ประเทศอินเดีย บังกลาเทศ และไทย
นอกจากนั้น ยังน่าภูมิใจแทนทีมงานชาวไทยก็ได้มีโอกาสสัมผัสกับการทำงานร่วมกับกองถ่ายระดับโลกอีกครั้ง และได้ก็ยังได้ขึ้นชื่อช่วง End Credit ผู้ชมจะได้จะเห็นรายชื่อทีมงานคนไทยที่ร่วมงานในหนังเรื่องนี้ จุดสังเกตก็คือชื่อที่มีชื่อเล่นวงเล็บไว้ในตอนท้ายจะเป็นชื่อของคนไทย ใน Fanpage ของผู้กำกับเต๋อ-นวพล ธำรงค์รัตนฤทธิ์ได้สัมภาษณ์คุณติ๊ก เจ้าของเพจ “วันละภาพ” ทีมงานที่ได้ไปร่วมงานในการถ่ายทำหนังเรื่องนี้มาด้วย
เรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสนใจก็คือ คุณติ๊กเล่าว่า ในช่วงการถ่ายทำที่ประเทศไทย พี่ Chris อยากขอทีมงานไปเที่ยวตรอกข้าวสาร แต่ถ้าไปแบบปกติคงไม่มีอันได้เที่ยวแบบสงบ ๆ แน่ เขาจึงขอให้ทีมเมกอัปของกองถ่ายปลอมตัวโดยเอาวิกผมทรงเดดร็อกมาให้เขาใส่เพื่อให้คนแถวนั้นไม่สามารถจำเขาได้ และเขาก็เลยสามารถไปเดินข้าวสารอย่างที่ไม่มีใครจำได้ (สามารถตามกดเข้าไปอ่านและชมรูปอื่น ๆ ของทีมงานคนไทยได้ใน Facebook ส่วนตัวที่เปิดให้ชมแบบสาธารณะกันได้ด้านล่าง)
That’s a wrap for me!! Plenty of blood sweat and tears, couldn’t have done it without the dream team and all the incredible cast and crew. This film’s gonna be one hell of a ride, get ready 💪🤙👍 #SamHargrave @jasinboland 📷 @BobbyHanton pic.twitter.com/jyNGazpgRu
— Chris Hemsworth (@chrishemsworth) February 3, 2019
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส