Extraction หนังสุดฮิตทาง Netflix กำลังจะขึ้นแท่นหนังที่มีผู้ชมมากที่สุดใน 4 สัปดาห์แรก ด้วยตัวเลขผู้ชมกว่า 90 ล้านหลังคาเรือน ด้วยความสำเร็จของ Extraction ก็ยิ่งส่งชื่อให้ผู้กำกับ แซม ฮาเกรฟ กลายเป็นคนดังในฐานะผู้กำกับหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง แม้ว่า Extraction จะเป็นผลงานประเดิมของเขาในตำแหน่งผู้กำกับ จากแรงผลักดันของ โจและแอนโธนี รุสโซ 2 พี่น้องจาก The Avengers 2 ภาคล่าสุด ที่ได้ร่วมงานกับ แซม ฮาเกรฟ มาแล้วหลายเรื่องที่แซมรับผิดชอบในงานออกแบบฉากสตันท์ แล้วมองเห็นแววว่า แซม น่าจะมีประสบการณ์พอที่จะเลื่อนขั้นมาเป็นผู้กำกับได้ ซึ่ง แซม ฮาเกรฟ ก็ไม่ทำให้สองพี่น้องผิดหวัง
ด้วยความที่เป็นคนดังในช่วงเวลานี้ ทำให้หลาย ๆ สื่อ ได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ แซม ฮาเกรฟ ในงานสร้าง Extraction และประสบการณ์ที่ผ่านมาในหนังมาร์เวล ที่แซม ล้วนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังฉากแอ็กชันที่น่าตื่นตา ซึ่งเขารับผิดชอบหลากหลายหน้าที่ทั้ง ผู้ประสานงานสตันท์, ผู้ประสานงานต่อสู้, ผู้ประสานงานแอ็กชัน, ผู้ออกแบบท่าทางการต่อสู้, และสตันท์แมน ในหนังมาร์เวลหลายเรื่องเช่น Avengers: Endgame, Avengers: Infinity War, Avengers Assemble, Thor: Ragnarok และ Captain America: Civil War
และหนึ่งในคำถามที่น่าสนใจที่สุดก็คือ “ฉากแอ็กชันไหน ที่จัดเป็นงานที่ยากที่สุดที่เคยทำงานมา?”
แล้วคำตอบก็คือ Captain America: Civil War
“ใน Captain America: Civil War ผมออกแบบฉากสตันท์นี้ไว้ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของงานสร้างแล้ว มันเป็นฉากระเบิดที่แรงระเบิดกระแทกร่างกัปตันอเมริกาให้ลอยทะลุกระจกออกมา ร่างเขาตกลงมาบนกันสาดแล้วร่วงไปกระแทกรถบรรทุก จากนั้นถึงตกลงไปบนพื้นล่าง”
“ในสคริปต์น่ะเขียนบรรยายไว้แค่ มีระเบิด แล้วกัปตันอเมริกาก็ตกไปกระแทกพื้นแค่นั้น แต่ผมอ่านแล้วก็ เอ้! ผมจะทำฉากนี้ให้มันออกมาดูตื่นเต้นได้อย่างไรดี ผมจะต้องทำให้มันดูใหญ่โต คนดูแล้วรู้สึกว่ามันอันตรายจัง ต้องทำให้ดูสะใจสุด ๆ”
“ผมก็เลยใช้แรงบันดาลใจจากหนังแอ็กชันฮ่องกงหลาย ๆ เรื่อง ที่แทนที่นักแสดงจะร่วงตรง ๆ มากระแทกพื้น พวกเขามักจะหล่นลงมากระแทกนั่นนี่ระหว่างทางที่ตกลงมา มันทำให้ภาพออกมาดูผาดโผน และน่าตื่นตามากขึ้น”
แซม ฮาเกรฟ และทีมงานก็ช่วยกันจัดฉาก หาผ้าใบมาขึงเป็นกันสาด วางในมุมที่เหมาะ พวกเขาใช้โฟมแรงอัดหนาแน่นสูงมาใช้แทนโครงสร้างตึกในส่วนนี้ แล้วกัปตันอเมริกาที่เราเห็นในฉากเสี่ยงตายนี้ ก็คือ แซม ฮาเกรฟ สวมชุดเป็นกัปตันอเมริกาเองเลย
“ในตอนถ่ายทำฉากนี้ แสงกำลังจะหมดแล้วด้วย ฉะนั้นเราถ่ายได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น”
“ที่ผมต้องแสดงก็คือ ทิ้งร่างร่วงลงมากระแทกกันสาด ลงบนรถบรรทุก แล้วถึงลงบนพื้น ซึ่งผมต้องทำทุกขั้นตอนนี้ให้ออกมาสมบูรณ์ภายในครั้งเดียว แต่สุดท้ายมันก็ออกมาดูดีนะ และนั่นคือฉากที่ยากมาก แต่ยังไม่ถึงขั้นพึงพอใจสุด ๆ ที่ผมได้มอบให้กับมาร์เวล”
แต่งานที่เขาทำด้วยใจ ด้วยความทุ่มเทมาอย่างยาวนาน ก็ไม่ได้สูญเปล่า แต่อยู่ในสายตาของ โจและแอนโธนี รุสโซ สองพี่น้องผู้กำกับ ที่วันนี้กลายเป็นเจ้าของหนังที่ทำรายได้สูงที่สุดในจักรวาลมาร์เวล และของโลกภาพยนตร์ไปเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เล็งเห็นความสามารถของแซม ฮาเกรฟ ที่มีศักยภาพพอที่จะเป็นผู้กำกับฝีมือดีคนหนึ่งได้ ทั้งคู่จึงมอบหมายหน้าที่ผู้กำกับให้แซม ฮาเกรฟ ในหนังที่เป็นผลงานล่าสุดจากบริษัทของสองพี่น้อง ที่เขาทั้งคู่เป็นคนเขียนบทภาพยนตร์เองด้วย
“พี่น้องรุสโซ มาขอให้ผมกำกับหนังให้พวกเขา โอ้ นั่นมันบ้ามาก ผมก็สำนึกในบุญคุณของพวกเขาและโอกาสที่เขาหยิบยื่นให้ตลอดจากนี้ไป”
และแน่นอนเมื่อ แซม ฮาเกรฟ ผู้ที่มีประสบการณ์โชกโชนมาจากงานสตันท์ เมื่อมากำกับหนังของตัวเอง มันต้องไม่มีฉากเรียบง่ายหรอก ทำเอา คริส เฮมส์เวิร์ธ พระเอกของเรื่องถึงกับต้องเอ่ยปากว่า
“นับจนถึงวันนี้ ฉากแอ็กชันที่ยากที่สุดที่เขาเคยทำงานมาก็คือฉากในหนัง extraction นี่ล่ะ”