ปกติแล้วผู้กำกับภาพยนตร์แถวหน้าของฮอลลีวูดโดยเฉพาะในช่วง 30 ปีหลังมานี้ มักจะเติบโตมาจากการเป็นผู้กำกับโฆษณาและผู้กำกับมิวสิกวิดีโอ เพราะเป็นยุคเติบโตและบูมสุด ๆ ของวัฒนธรรมพอป และทั้งโฆษณาและมิวสิกวิดีโอก็เป็นแหล่งฝึกปรือวิชาชั้นดี หลายเรื่องก็มีขนาดยาวพอ ๆ กับจะเป็นหนังสั้นเลยทีเดียว ต่อมาในช่วง 10 ปีหลังนี้ ศาสตร์ของการเล่าเรื่องก็ขยับขยายไปถึงวงการเกมที่จะต้องมีการทำเป็น Trailer หรือตัวอย่างที่จะเป็นเรื่องราวขนาดสั้นเช่นเดียวกับหนัง วันนี้ What the Fact ขอนำเสนอ Trailer จากเกมดังที่คุณอาจยังไม่เคยรู้ว่าเป็นฝีมือของผู้กำกับชื่อดังของฮอลลีวูด
Need for Speed: The Run โดยผู้กำกับ Michael Bay
ผลงานกำกับของผู้กำกับจอมระเบิดภูเขาเผากระท่อม สร้างภาพเอฟเฟกต์ในฉากแอ็กชันได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ของ Michael Bay ที่มีผลงานฮิตระเบิดระดับโลกอย่างแฟรนไชส์ Transformers (2007- 2017, Armageddon (1999), Bad Boys 2 ภาค (1995-2003) และ 6 Underground (2019) น่าจะเหมาะด้วยประการทั้งปวงในการทำ Trailer ให้กับเกม หรือต้องเคยทำหนัง Trailer จากเกมก่อนมากำกับหนังแน่ ๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่า เขาเคยกำกับ Trailer เกมแค่เรื่องเดียวน นั่นคือ Need for Speed: The Run ที่จะเห็นรถแข่ง 18 คันขับผจญภัยหนีอันตรายต่าง ๆ ไปตามท้องถนนที่เปลี่ยนสถานที่ไป ดูแล้วก็นึกถึงฉากขับรถไล่ล่าในหนังหลาย ๆ เรื่องของ Bay
Dead Space โดยผู้กำกับ James Wan
สร้างชื่อมาจากหนังสยองขวัญอย่าง Saw (2004), Insidious (2010) และ The Conjuring (2010) ก่อนจะมาโด่งดังกับหนังเมนสตรีมอย่าง Furious 7 (2015) และ Aquaman (2018) จึงไม่แปลกที่ใคร ๆ ก็จะไว้ใจในฝีมือของผู้กำกับเชื้อสายมาเลเซียอย่าง James Wan รวมไปถึงวงการเกมที่เขาเคยมีโอกาสกำกับ Trailer ของเกม Dead Space ที่มีชื่อว่า Loved Ones ใน E3 2008 เกมนี้มีความคล้ายกับ Resident Evil 4 ซึ่งเขาก็ทำได้ดีกับวิธีการนำเสนอความสยองขวัญแบบใช้ลูกเล่นทางจิตวิทยา เน้นโชว์สัตว์ประหลาดที่น่าขยะแขยงและน่าหวาดกลัว สร้างบรรยากาศที่ชวนขนหัวลุกสมตรงกับภาพและหัวใจสำคัญที่เกม Dead Space ต้องการนำเสนอ
DC Universe Online / Halo 4 โดยผู้กำกับ Tim Miller
ผู้กำกับฝีมือดีที่กำลังเดินหน้าสร้างผลงานหนังฮิต ๆ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ทั้งหนังอย่าง Deadpool (2016) ภาคแรก และ Terminator: Dark Fate (2019) ที่เรื่องหลังแม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จทางรายได้ แต่ก็พิสูจน์ฝีมือได้ว่า เขาเอาอยู่กับหนังฟอร์มยักษ์ที่เต็มไปด้วยฉากแอ็กชันและเสปเชียลเอฟเฟกต์ โดยประสบการส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาเชี่ยวชาญในด้านนี้ ก็มาจากการทำ Trailer เกมนี่เอง ปี 2010 DC Universe Online ได้จ้าง Blur Studios ของเขาในการทำ Trailer การต่อสู้กันของเหล่าฮีโรและเหล่าร้ายของ DC ที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งอันเป็นจุดเริ่มต้นของเกม ซึ่งตลอด 6 นาทีของ Trailer ตัวนี้ก็ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นผู้กำกับดังในทุกวันนี้
ต่อมาอีก 2 ปี เขาก็ได้มีโอกาสกำกับ Trailer เกมดัง Halo 4 ในชื่อตอนว่า “Scanned” ที่โปรดิวซ์โดยสุดยอดผู้กำกับอีกคนอย่าง David Fincher ซึ่ง Trailer เกม Halo 3 นั้นก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงามไปแล้วด้วยฝีมือของผู้กำกับ Joseph Kosinski, Rupert Sanders และ Neil Blomkamp
(อ่านต่อหน้าถัดไป)
Resident Evil 2 โดยผู้กำกับ George A. Romero
เก๋ามาตั้งแต่รุ่นไหนในบรรดาผู้กำกับทั้งหมดของลิสต์นี้ ต้องยกให้เจ้าพ่อแห่งหนังซอมบี้ George A.Romero ผู้ล่วงลับ ผู้กำกับหนังอย่าง Night of the Living Dead (1968), Dawn of the Dead (1978), Day of the Dead (1985) ก็เคยกำกับ Trailer หนังเกมยุคบุกเบิก Resident Evil 2 ของ Capcom มาแล้ว โดยอาจไม่เหมือนกับเวอร์ชันภาพยนตร์ที่ Milla Jovovich แสดงนำเท่าไรนัก เพราะในเกมฉบับแรก ๆ นั้นไม่ได้เน้นที่ความบู๊เดือดเลือดพล่าน แต่จะเน้นไปที่ความสยองขวัญของเหล่าคนตายไม่ยอมตายที่ตัวละคร Leon S. Kennedy และ Claire Redfield ซึ่งกับเรื่องราวซอมบี้สยองแบบนี้ใครจะเหมาะไปกว่า A.Romero เขาเกือบจะได้กำกับหนังใหญ่ Resident Evil (2002) ด้วย แต่บทของเขาไม่ถูกใจทีมผู้สร้างและชวดโอกาสนั้นไป
Halo 3, Gears of War, DOOM, Destiny โดยผู้กำกับ Joseph Kosinski
เหมาแผงมาเลยคนนี้ที่มีผลงานเป็น Trailer เกมดังล้วน ๆ มาแล้วมากมาย ทั้ง Halo 3 ที่ชื่อว่า Starry Night ยังได้รับคำชื่นชมว่าเป็นสปอตโปรโมตเกมที่ดีที่สุดจนถึงตอนนี้ แม้จะยาวแค่ 1 นาทีแต่ก็เรียกความสนใจจากผู้ชมได้ตลอดทั้งสปอต, Gears of War กับ Trailer ที่ชื่อว่า Mad World, DOOM ที่เล่าเรื่องได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่ง Subtitle เลย และ Destiny ในตอนที่ชื่อว่า Become Legend เขาต่างได้รับคำชื่นชมจากคอเกมว่า สามารถนำเสนอสิ่งที่เกมเมอร์คาดหวังว่าจะเห็นในเกมมาใส่ไว้ใน Trailer ได้อย่างตรงจุด นั่นน่าจะส่งผลให้งานแรกในฮอลลีวูดของเขาคือหนังเกม Tron: Legacy (2010) ต่อมาก็ได้กำกับ Tom Cruise ในหนังไซไฟบรรยากาศอวกาศอย่าง Oblivion (2013) และในหนัง Top Gun 2: Maverick เข้าฉายปลายปีนี้
Halo 3 & Halo 3: ODST โดยผู้กำกับ Rupert Sanders
ผู้กำกับ Rupert Sanders อาจยังไม่ประสบความสำเร็จมากนักกับวงการภาพยนตร์ เพราะมีโอกาสกำกับหนังมาไม่กี่เรื่อง แจ้งเกิดกับ Snow White and the Huntsman (2012) ก่อนจะมีข่าวฉาวว่ากิ๊กกับ Kristen Stewart จนเมียออกโรง ค่ายหนังเลยบอกว่า ไม่ต้องกลับมากำกับภาค 2 แล้วคงจะดีกว่า ต่อมาไปกำกับ Ghost in the Shell (2017) ที่ดัดแปลงจากมังงะและแอนิเมชันเรื่องดังของญี่ปุ่นก็โดนข้อหาว่าฟอกขาวใช้นักแสดงฝรั่งมารับบทเป็นคนเอเชีย
แต่ตอนทำ Trailer เกมนั้น เขาประสบความสำเร็จจนถึงชนะ 2 รางวัล Golden Lions ที่เทศกาลเมืองคานส์ (ที่ไม่ได้มีแค่การประกวดหนังแต่มีงานโฆษณาด้วย) Halo 3 นั้นลงทุนสร้าง Trailer ไว้หลายชิ้น ตอนของ Sanders ชื่อว่า “The Life” ความยาว 2 นาทีที่เล่าถึงงานศพของเหล่าทหารหาญที่เเต็มไปด้วยความสูญเสีย ซึ่งเขาได้รับแรงบันดาลใจจากการชมฟุตเตจของทหารในสมรภูมิอัฟกานิสถาน และหนังรัสเซียเรื่อง Stalker และ Come and See
Halo 3 (Halo: Landfall Short Film) โดยผู้กำกับ Neill Blomkamp
เกือบจะได้เป็นผู้กำกับ Alien ภาคที่ 5 แล้วสำหรับ Neill Blomkamp ผู้กำกับสัญชาติแอฟริกาใต้ ที่ตอนแจ้งเกิดกับหนัง District 9 (2009) เรื่องราวของเอเลี่ยนที่ถูกกักกันในพื้นที่จำกัดโดยมนุษย์ สร้างความแปลกใหม่ให้กับงานด้านภาพ การเล่าเรื่อง และเป็นการโชว์วิสัยทัศน์ที่ทำให้เขาแจ้งเกิดทันที ทำให้เขาได้กำกับหนังอย่าง Elysium (2013) และ Chappie (2015) ที่ก็มีองค์ประกอบเป็นหุ่นยนต์หน้าตาไปในทำนองเดียวกัน
สำหรับผู้กำกับคนนี้อาจจะแปลกกว่าคนอื่น ตรงที่กำกับ District 9 แล้วถึงถูกเรียกตัวมากำกับ หนังสั้นของ เกม Halo ในชื่อตอนว่า Halo: Landfall ซึ่งเป็นความร่วมมือของ Microsoft, Universal และ Fox ถึงขนาดที่ผู้บริหาร Microsoft ออกโรงชมว่างานของ Blomkamp นั้นสุดยอด จนในเวลานั้น Peter Jackson ได้เลือกให้เขามากำกับไตรภาค The Hobbit (2012-2014) หลังจาก Guillermo del Toro ถอนตัว (แต่สุดท้าย Jackson ก็เลือกกำกับเองในที่สุด)
(อ่านต่อหน้าถัดไป)
Ghost Recon Wildlands โดยผู้กำกับ John McTiernan
ในยุค 80s-90s นั้นผู้กำกับหนังแอ็กชันตัวละครนำเป็นพระเอกสุดบู๊ที่ถูกเรียกใช้งานบ่อยที่สุด หนีไม่พ้น John McTiernan ที่เคยมีผลงานกำกับหนังดัง ๆ อย่าง Die Hard (1988) ของพระเอก Bruce Willis , Predator (1987) ของพระเอก Arnold Schwarzenegger , หนังสงครามสุดเข้มขัน The Hunt for Red October (1990) ก่อนที่หลัง ๆ จะเงียบหายไปไม่ค่อยได้ทำหนังแล้ว แต่ฝีมือการกำกับหนังก็ยังใช้ได้อยู่ พิสูจน์ได้ด้วย Trailer The Red Dot ของเกม Ghost Recon Wildlands ที่ยังคงเล่าง่ายได้ใจความ หนักแน่น แถมท้ายด้วยความกวนประสาทเล็ก ๆ แบบเดียวกับในหนัง Die Hard อย่างไรอย่างนั้น
Guitar Hero: World Tour โดยผู้กำกับ Bratt Ratner
Bratt Ratner ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นผู้กำกับสายขาย “ความบันเทิงแบบจัดหนัก” เพราะเขากำกับหนังอะไรก็ได้ให้ดูสนุกสุด ๆ เหตุผลของบทขอให้ลืมไปก่อน ผลงานของเขาก็เช่น ไตรภาค Rush Hour (1998-2007) ของเฉินหลงตอนบุกฮอลลีวูดใหม่ ๆ, Red Dragon (2002) เรื่องของ Hannibal Lector และ X-Men: The Last Stand (2006) ที่มากำกับแทน Bryan Singer ที่ถอนตัวไปกำกับ Superman Return (2006)
กับ Trailer เกมชิ้นนี้ที่อาจต้องเรียกว่าเป็นโฆษณาให้แฟน ๆ มาเล่นเกม Guitar Hero: World Tour โดยฉากในโฆษณาคล้าย ๆ ในหนัง Risky Business (1983) โดยทำออกมาเป็น 2 เวอร์ชัน แบบแรกคือให้ Heidi Klum นางแบบสาวในชุดชั้นในออกมาวาดลวดลายโชว์ดีดกีตาร์ ส่วนอีกเวอร์ชันที่สร้างความฮือฮา ก็คือการนำสุดยอดนักกีฬาดังอย่าง Alex Rodriguez, Kobe Bryant, Michael Phelps และ Tony Hawk มาทำแบบเดียวกันกับอีกแบบนั่นล่ะ
Dark Souls III โดยผู้กำกับ Eli Roth
Eli Roth ที่เป็นทั้งนักแสดงและผู้กำกับหนังสยองอย่าง Cabin Fever (2002), Hostel 2 ภาค (2005-2007) ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้กำกับหนังสายโหด และเขาก็เคยกำกับ Trailer ให้เกม Dark Souls III เป็นแอนิเมชันที่ใช้ชื่อว่า The Witches เรื่องราวของกลุ่มแม่มดกลุ่มหนึ่งได้เปลี่ยนทหารเป็นปิศาจแสนน่ากลัว Trailer ชิ้นนี้มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ มีความเห็นว่าเนื้อหาวิดีโอที่ไปทางแนวสยองขวัญ ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับจักรวาลของเกมที่เน้นเรื่องของการลงทัณฑ์และความทรมานเท่าไหร่ แม้คุณภาพงานแอนิเมชัน อาร์ตสไตล์ และการนำเสนอเนื้อหาความรุนแรงแบบจัดเต็ม ในสไตล์ที่ผู้กำกับ Eli Roth ทำกับหนังใหญ่จริง ๆ ก็ตาม
PS2 Commercial โดยผู้กำกับ David Lynch
เป็นรายชื่อที่ไม่นึกว่าจะติดมาอยู่ในลิสต์ของผู้กำกับดังที่เคยทำ Trailer เกมที่สุดในจำนวน 10 คนนี้ เพราะอย่างที่คอหนังเฉพาะทางรู้กันว่า David Lynch คือหนึ่งในเจ้าพ่อผู้กำกับนักทำหนังที่สุดติสท์ เซอร์เรียล และต้องปีนบันไดดูที่สุดคนหนึ่ง และห่างไกลจากการทำงานสายแมสแบบนี้ ซึ่งอาจจะเป็นความคิดที่ถูกของค่าย Sony (ที่ทำทั้งหนังและเกม) ที่เลือกวิสัยทัศน์ของ Lynch ที่เคยมีผลงานหนังใหญ่อย่าง Eraserhead (1977), Dune (1984) และซีรีส์อย่าง Twin Peaks (1990-1991) Lynch กำกับตัวอย่างเกมที่ใช้ชื่องานว่า ” Beyond human” และ “The Third Place” เนื้อหาโลกสมมติในจินตนาการเพื่อโปรโมต PlayStation 2 PS2 Commercial ในยุโรป ดูแล้วก็แปลกตาจาก Trailer เกมอื่น ๆ ไปเลยจริง ๆ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส