Release Date
27/08/2020
ผู้กำกับ
จอช บูน
ความยาว
98 นาที
Our score
6.7The New Mutants
จุดเด่น
- เรื่องราวที่ฉีกจาก X-Men กลุ่มหลัก ได้เห็นตัวละครใหม่ ๆ และการเล่าผ่านสายตาวัยรุ่นมีปัญหาก็มีข้อได้คิดหลายอย่าง
จุดสังเกต
- หนังผิดความคาดหวังไปมาก ไม่ค่อยลึกลับ ไม่ค่อยสยองขวัญขนาดที่ควรเป็น แถมความเชื่อมโยงในฐานะหนังซูเปอร์ฮีโรร่วมจักรวาล X-Men ก็แทบไม่มีอีก แฟนบอยคงโคตรเซ็ง
-
บท
6.5
-
โพรดักชัน
7.0
-
การแสดง
8.0
-
ความสนุก ความสยอง
6.5
-
ความคุ้มค่า
5.5
เรื่องย่อ: เรื่องราวของกลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์วัยรุ่นที่ได้รับการดูแลจากคุณหมอเรเยส ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องผจญภัยทั่วไปแล้วก็ยังต้องรับมือกับปัญหาว้าวุ่นแบบฉบับวัยรุ่น
ถือเป็นหนังเจ้าปัญหาอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าใครตามข่าวคงพอทราบว่าหนังถูกเลื่อนฉายมาแล้วหลายครั้งโดยไม่ได้เกี่ยวกับเทรนด์โควิด-19 แต่อย่างใด ทว่าเป็นเรื่องของตัวหนังเองที่ออกมาได้ไม่เป็นที่น่าพอใจของสตูดิโอเสียที ถึงขนาดมีกระแสช่วงหนึ่งว่าตัวหนังอาจไปลงสตรีมมิงหรือวิดีโอออนดีมานด์แทนกันเลยทีเดียว แถมพอดิสนีย์กับฟ็อกซ์ควบกิจการกันแล้ว แทนที่หนังจะได้แก้ไขตามที่มาร์เวลเห็นควร เหล่าดาราก็โตเกินจะไปถ่ายเพิ่มแล้ว เรียกว่าสุดปัญญาจะปรับปรุงแล้วนั่นเอง
ซึ่งวันนี้เมื่อตัวหนังลงฉายโรงก็คงบอกได้เพียงว่า เออ ค่ายคิดถูกแล้วล่ะที่อยากเอาไปฉายสตรีมมิงน่ะ เพราะไม่ว่าจะมองแง่ไหน มันก็คล้ายซีรีส์ตอนไพลอตเสียจริง ๆ
หนังเป็นความรับผิดชอบของผู้กำกับและมือเขียนบทอย่าง จอช บูน ที่เคยมีหนังแนวรักวัยรุ่นอย่าง The Fault in Our Stars (2014) เป็นเครดิตสำคัญ และเขาก็ได้นำจิตวิญญาณแบบวัยรุ่นมาขยายขึ้นเป็นหนังซูเปอร์ฮีโรตระกูล X-Men ที่แตกไลน์มาจากคอมิกชื่อเดียวกันเมื่อปี 1982 บอกเล่าเรื่องราวแนวก้าวผ่านวัยของลูกศิษย์วัยรุ่นของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ซาเวียร์ แต่โจทย์ที่ จอช บูน ได้รับนั้นกลับพิเศษขึ้นไปอีก เพราะค่ายหมายมั่นปั้นหนังให้เป็นแนวซูเปอร์ฮีโรสยองขวัญซึ่งตลาดขาดแคลนในเวลานั้นพอดี
ส่วนที่ดูดีอยู่ก็มีเรื่องของนักแสดงที่น่าสนใจ อย่าง ไมซี่ วิลเลี่ยมส์ (Game of Thrones) และ อันยา เทย์เลอร์-จอย (Glass) ที่คุ้นหน้าคุ้นตาคอหนังอยู่ นอกนั้นก็ถือว่ามีเสน่ห์และพอให้จำได้อยู่บ้างอย่าง ชาร์ลี ฮีตัน (Stranger Things) เฮนรี่ ซาก้า (13 Reasons Why) และตัวนำหลักอย่าง บลู ฮันต์ ส่วนอีกหนึ่งคนที่ช่วยแบกหนังก็คงยกให้ผู้ใหญ่หนึ่งเดียวในเรื่องอย่าง อลิซ บราก้า (Elysium) ในบทหมอเรเยสที่ต้องดูเทา ๆ ไม่ออกขาวดำชัดเจน ซึ่งทีมนักแสดงก็ถือว่าลงตัวดีในระดับหนึ่ง แม้ว่าด้วยคาแรกเตอร์ตัวละครไม่ช่วยให้เคมีลงตัวง่ายเลยก็ตาม
อีกหนึ่งสิ่งที่หนังให้แบบเกินคาดเหมือนกัน คือข้อคิดต่าง ๆ ในแง่ของวัยรุ่นปะทะวัยผู้ใหญ่ ความหวังดีของผู้ใหญ่ปะทะการกดขี่จำกัดความคิดเด็ก ซึ่งกลายเป็นปัญหาสากลขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในบ้านเรานี่ก็เห็นเป็นดราม่าอยู่เนือง ๆ ตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แถมเรื่องนี้ยังชวนให้นึกถึงสังคมบ้านเราหลาย ๆ อย่างแบบไม่ได้ตั้งใจเสียด้วย
แต่ปัญหาหลักที่นักแสดงช่วยไม่ได้ คือ เมื่อคุณเอาคนที่อาจถนัดเล่าความสัมพันธ์มิติด้านลึกของตัวละครวัยรุ่น ให้มาทำหนังแนวสยองขวัญ ซึ่งความหวังคือหนังต้องเรตผู้ใหญ่ ดาร์ก ๆ น่ากลัว ๆ กดดัน ๆ เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของแฟนบอยหนังซูเปอร์ฮีโร แล้วหนังมันมีศักยภาพไปถึงแค่หนังวัยรุ่นเน้นมิตรภาพงดงาม มันก็ไม่มีทางจะได้ใจคนดูอยู่แล้ว เมื่อ มันผิดฝาผิดฝั่ง มาแต่ต้น
หนังแสดงความอ่อนประสบการณ์ในแนวดาร์กอย่างชัดเจน ที่หนักสุดคือหนังหลอกล่อคนดูไม่ได้เลย ว่าไปแทบเฉลยพลอตสำคัญแบบเชย ๆ เลยด้วยซ้ำ เข้าใจว่าเดิมค่ายคงอยากเห็นเรื่องราวของ แดนี่ เด็กสาวหนึ่งเดียวที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ประหลาด แล้วตื่นอีกครั้งก็มาอยู่ในการดูแลของคุณหมอเรเยสผู้มีพลังม่านบาเรีย และเฝ้าคอยสั่งสอนเด็กกลายพันธุ์ที่ยังหลงทางให้เข้ารูปเข้ารอย ออกไปเป็น X-Men ที่มีคุณภาพ ทว่าเด็กแต่ละคนก็มีปัญหามีอดีตที่อยากลืมกันทั้งนั้น แถมความสัมพันธ์ระหว่างวัยรุ่นที่ต้องมาอยู่ที่เดียวกันก็ไม่ค่อยลงรอยเสียอีก แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดหลอกหลอนผู้อาศัยในสถาบันนี้ทุกคน เด็กทั้งหมดต้องเติบโตและร่วมมือกันเพื่อแก้ปริศนาสุดสยองนี้ไปให้ได้
รู้สึกมั้ยว่าปมสยองลึกลับมันควรอยู่ที่เหตุการณ์นี้เกิดได้อย่างไร ใครอยู่เบื้องหลัง การสงสัยกันและกันโดยเฉพาะเด็กที่ไม่แสดงพลังของตนเอง อะไรแบบนั้น ทว่าหนังกลับให้คำใบ้แบบโจ่งแจ้งแทบบอกข้างหูกันตั้งแต่แรก ๆ ทีเดียว แล้วปมปัญหาใด ๆ ทั้งหลายในเรื่องอย่างความสัมพันธ์ตัวละคร มันก็คลี่คลายแบบโลกสวยดีเสียเหลือเกิน ถ้าผู้ชมคาดหวังมาดูหนังวัยรุ่นดราม่าฟีลกู้ดมันคงโอเคล่ะ แต่เพราะไม่ได้หวังไว้แค่นั้น ทุกอย่างของหนังจึงดูหน่อมแน้มไปหมด ตั้งแต่บท โปรดักชันซีจีที่คุณภาพพอ ๆ กับซีรีส์เน็ตฟลิกซ์บางเรื่องเท่านั้นเอง ว่ากันตรง ๆ มันน่าจะเหมาะกับการให้ครอบครัวดูอยู่บ้านผ่านพวกสตรีมมิงเท่านั้นก็พอ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส