นีล เอช. มอริตซ์ เป็นผู้อำนวยการสร้างชื่อดังและอยู่ในแวดวงฮอลลีวูดมายาวนาน เขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหนังที่ประสบความสำเร็จมากกว่า 100 เรื่อง รวมถึงผลงานในยุคหลัง ๆ อย่างเช่น The Boys, Sonic the Hedgehog, Bloodshot และ Spenser Confidential และเป็นหนึ่งในทีมผู้อำนวยการสร้างของแฟรนไชส์ Fast ที่สานต่อมาถึงภาคที่ 9 ในวันนี้
ประเด็นบาดหมางระหว่าง นีล กับ ยูนิเวอร์แซล เริ่มเมื่อเดือนตุลาคม 2018 เมื่อนีลได้แต่งตั้งทีมกฏหมายขึ้นมาฟ้องร้อง ยูนิเวอร์แซล พิกเจอร์ ในคดีที่เขาอ้างว่าทางสตูดิโอได้ทำการ “ละเมิดสัญญา” ด้วยการถอดเขาออกจากทีมสร้าง Hobbs & Shaw ในระหว่างที่หนังกำลังเดินหน้าถ่ายทำ ทางนีลได้ยื่น 2 ข้อเสนอให้กับทางสตูดิโอ ทางแรกคือให้คืนตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างให้เขาอย่างเดิม หรือทางที่สองต้องชดเชยผลประโยชน์ที่เขาควรได้รับจากผลกำไรของหนังเป็นมูลค่าในหลัก “10 ล้านเหรียญ” ในเนื้อหาข่าวไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกว่าด้วยเหตุใดทางสตูดิโอถึงได้ตัดสินใจถอดชื่อของนีลออกจากทีมผู้อำนวยการสร้างของหนัง แต่ในเมื่องหนัง Hobbs & Shaw ประสบความสำเร็จอย่างมาก หนังกวาดรายได้ทั่วโลกไปมากถึง 759 ล้านเหรียญ นั่นหมายความว่าการที่นีลถูกถอดชื่อออกไปนั้น ทำให้เขาสูญเสียผลประโยชน์ร่วมจากกำไรของหนังที่เขาเคยมีส่วนร่วมไปโดยปริยาย
ซึ่งตัวแทนของ ยูนิเวอร์แซล พิกเจอร์ ได้ออกมาพูดถึงกรณีนี้ว่า
“นีล เอช. มอริตซ์ เปรียบได้กับส่วนสำคัญของครอบครัว Fast & Furious มาตั้งแต่ยุคเริ่มต้นซึ่งเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษมาแล้ว ขณะนี้ทั้งสตูดิโอและทางนีลเองก็กำลังมองหาทางคลี่คลายความบาดหมางที่เกี่ยวเนื่องกับหนัง Hobbs & Shaw นี้ด้วยกันอย่างฉันมิตร ทางเรายินดีอย่างมากที่จะผลักดันปัญหานี้ไว้เบื้องหลัง แล้วมุ่งมั่นด้วยกันกับอนาคตของแฟรนไชส์จะดีกว่า”
ฟังถ้อยคำจากฝั่งของ นีล เอช. มอริตซ์ กันบ้าง
“แฟรนไชส์ Fast & Furious เคยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความผูกพันในครอบครัวเสมอมา แต่โชคร้ายสักหน่อยที่สุดท้ายเราต้องมาขัดแย้งกันในครอบครัวกันเองแบบนี้ ผมยินดีอย่างมากที่จะได้กลับไปร่วมงานกับ ยูนิเวอร์แซล และครอบครัว Fast เพื่อจะได้สานต่อตำนาน Fast เพราะในแฟรนไชส์นี้จะยังมีหนังอีกหลายเรื่องตามออกมา ผมซาบซึ้งในความเป็นผู้นำในการทำงานเป็นทีมของยูนิเวอร์แซลเสมอมา จากนี้ไปทนายของผมก็ยังคอยที่จะสะสางเรื่องนี้อย่างยุติธรรมที่สุด”
ตอนนี้อยู่ในช่วงขั้นต้นที่ทั้งสองฝ่ายแต่งตั้งทีมกฏหมายมาฟ้องร้องกัน ถ้ามีผลคืบหน้าคดีความนี้ หรือมูลเหตุที่นีลและยูนิเวอร์แซลบาดหมางกัน เราจะรีบมารายงานความคืบหน้ากันต่อไป แต่ระหว่างนี้คอยนับวันถึงกำหนดฉายของ F9 ที่หนีวิกฤต โควิด-19 ไปเดือนเมษายน ปีหน้านู่นเลย และตอนนี้ทีมงานก็ได้เริ่มต้นโพรเจกต์ Fast & Furious 10 ที่จะเป็นภาคปิดท้ายตำนานกันแล้วด้วย ซึ่ง วิน ดีเซล ในฐานะผู้อำนวยการสร้างของหนังก็ออกมาเปรยแล้วว่าเขาจะแบ่งออกเป็น 2 ภาคต่อกัน ส่วน Hobbs & Shaw 2 ก็อยู่ในขั้นตอนเตรียมการสร้างแล้วเช่นกัน ไม่แค่นั้น วิน ดีเซล เองก็กำลังเตรียมภาคแยกที่จะมีตัวละครหญิงจากครอบครัว Fast มารับบทนำ