Release Date
22/10/2020
ความยาว
112 นาที
Our score
7.2หลวงพี่กะอีปอบ
จุดเด่น
- ส่วนผสมดี ๆ หลายอย่างทั้งแนวหนังแต่ละแยยที่แข็งแรงภายใต้เส้นเรื่องที่ซับซ้อนพอประมาณ และย่อยง่าย มีหลากรส นักแสดงที่ดี และการคารวะหนังยุค 2530 ที่ชวนคิดถึง โลเกชันสวยมาก
จุดสังเกต
- หนังยังไม่ค่อยเป็นเนื้อเดียวกันนัก ช่วงปูเรื่องดูธรรมดาไป จนค่อนเรื่องที่ผีปอบตัวร้ายเปิดตัวนั่นล่ะ ถึงจะสนุกมาก
-
บท
6.0
-
โพรดักชัน
7.5
-
การแสดง
8.5
-
ความสนุกตามแนวหนัง
7.5
-
ความคุ้มค่าการรับชม
6.5
เรื่องย่อ: เกิดคดีแปลกประหลาดเรื่อง ปอบอีหวึ่ง ขึ้นที่หมู่บ้านทุ่งหมาหอนอันไกลโพ้น เป็นเหตุให้ทางราชการตัดสินใจส่งนายตำรวจฝีมือดีอย่าง หมวดศัจธร เพื่อให้ไปดำเนินการสืบหาความจริงพร้อมกับ บักกึ่ม เพื่อนวัยเด็กของอีหวึ่งที่เข้าเมืองมาหวังจะเป็นตำรวจสักวัน แม้หมวดศัจธรจะไม่ค่อยเต็มใจกับการเดินทางครั้งนี้มากนัก เพราะข่าวลือที่เกิดขึ้นมีเรื่องของผีเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เขาก็จำใจต้องยอมตกปากรับคำ เพราะผู้บังคับบัญชาอย่างหม่อมบาง ยื่นคำขาดในการทำงานครั้งนี้
ผลงานชิ้นล่าสุดจาก เฉลิม วงศ์พิมพ์ ผู้กำกับหนังไทยขวัญใจคอหนังยุคหนึ่ง ด้วยผลงานสุดมันอย่าง 7 ประจัญบาน และ คนไฟบิน ซึ่งหลังจากหายไปนาน นับจากหนัง อีเห็ดสด เผด็จศึก เมื่อ 10 ปีก่อน เขาก็กลับมามีผลงานติดกันถึง 2 ปีซ้อน เริ่มด้วย The Exchange โจรปล้นโจร เมื่อปีก่อน และในปีนี้กับ หลวงพี่กะอีปอบ ซึ่งดูแตกต่างจากผลงานที่ผ่าน ๆ มาของเฉลิมอยู่ไม่น้อย
หลวงพี่กะอีปอบ แม้ชื่อจะดูเป็นหนังตลกผีสมัยนิยม แต่ทว่าด้วยบรรยากาศแบบหนัง ขุนพันธ์ โดยมี โรเบิร์ต สายควัน (ไพรฑูตย์ พุ่มรัตน์) รับบทมือปราบตัวเด่นอย่าง หมวดศัจธร ที่มีลูกไล่ตามสไตล์หนังคู่หูตำรวจอย่าง บักกึ่ม ที่รับบทโดย เบิ้ล ปทุมราช (อาทิตย์ สมน้อย) คอยปั่นเส้นเรื่องให้เดินหน้า
ด้วยเรื่องราวรักเขาข้างเดียวมาตั้งแต่เด็กที่มีต่อเพื่อนอย่าง อีหวึ่ง สาวสวยบ้านนอกที่ถูกลือว่าเป็นผีปอบ ซึ่งรับบทโดย ลาดา อาร์สยาม (อาภาภัทร สุขสวัสดิ์ชล) เพราะอีหวึ่งมอบหัวใจทั้งดวงให้แก่เพื่อนรุ่นเดียวกันอย่าง บักมิด ที่รับโดย ตูมตาม เดอะสตาร์ (ยุทธนา เปื้องกลาง) ผู้ไปเป็นจ่าทหารอยู่แดนไกล
หนังผสมผสานหลากหลายแนวทั้ง แอ็กชัน ลึกลับ สืบสวน ผี ตลก รัก มิวสิกคัล (มีร้องเพลงด้วย!) ด้วยกลุ่มตัวละครที่ไม่มาก แต่มีสีสันในตัวเอง อย่าง แก๊งตำรวจที่นอกจากมี หมวดศัจธรกับบักกึ่มเป็นตัวแทนสายตาผู้ชมแล้ว ยังมี จ่าแหนม ตำรวจที่โดนผีหลอกจนเป็นบ้า รับบทโดย ต้า เฟ็ดเฟ่ (กิตติศักดิ์ เวชประสาร) ที่มาทีไรก็สร้างสถานการณ์ฮาได้ทุกรอบ แล้วหนังยังเดินเรื่องให้ตำรวจไปผนวกกับแก๊งพระที่มี หลวงพ่อ ที่รับบทโดย น้าค่อม (อาคม ปรีดากุล) กับกุมารทองคู่กายที่วิ่งขโมยซีนอยู่ตลอดเรื่อง เพิ่มความมันเข้าไปอีก
นอกจากนี้เมื่อเนื้อหาเริ่มเฉลยเงื่อนปอบฆ่าคนในหมู่บ้าน หนังก็เสริมกลุ่มตัวละครเจ้าพ่ออย่าง โก เต็ก รับบทโดย นุ้ย เชิญยิ้ม (ชูเกียรติ เอี่ยมสุข) ประกบด้วย บอล เชิญยิ้ม (ชัชชัย จำเนียรกุล) มาเสริมเรื่องเข้าอีก และเซอร์ไพรส์ก็คงเป็นการมารับบทรับเชิญในช่วงท้ายของ สามารถ พยัคฆ์อรุณ ในบทคนเลี้ยงปอบด้วยนั่นเอง
เห็นอย่างนี้คงพอเดาได้ว่าหนังน่าจะมีกลิ่นแปลกตาจากหนังตระกูลปอบ หรือหนังผี-ตลกอื่น ๆ ไม่น้อย และน่าจะเปิดช่องให้เล่นมุกกันได้อย่างเมามัน เพราะนักแสดงแต่ละคนก็ฮาตัวกลั่นรับส่งมุกกันอย่างเคยชินอยู่แล้ว โดยเฉพาะแก๊ง บริษัทฮาไม่จำกัด อย่าง โรเบิร์ต น้าค่อม นุ้ย และบอล นั่นเอง
ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลลัพธ์นั้นน่าเสียดายอยู่ไม่น้อย เพราะเฉลิมผู้กำกับยึดเอาตามบทหนังมากเกินไป คือพอมองออกว่าบทหนังเขียนมาแบบคงฮาไม่น้อยตอนอ่าน แต่แทนที่จะได้มุกธรรมชาติ มุกสด อันเป็นของถนัดเหล่าตลกอาชีพมาเสริมให้หนังแกร่ง กลับกลายเป็นนักแสดงฝืนธรรมชาติมาเล่นแบบจังหวะไม่เข้ารูปเข้ารอย ทำให้ตลกแนวซิตคอมตามบทหนังก็ไปไม่สุด ส่วนแนวตลกแนวคาเฟ่ก็กลืนหาย ทำให้หนังตลกน้อยกว่าที่ควร
ตัวหนังยังมีความโบราณในตัว (ในทางคารวะ) ชวนให้นึกถึงหนังไทยยุค 2530 สมัย พันนา ฤทธิไกร หรือ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ยังเป็นพระเอกอย่าง ปลุกมันขึ้นมาฆ่า ที่ผีจะมาแบบดิบ ๆ การแต่งหน้าแบบโหด ๆ ในตอนที่ซีจียังไม่ระบาดเท่าปัจจุบัน
ในขณะเดียวกันกลยุทธ์การสู้รบปรบมือกับพวกผีและผู้มีอาคมแก่กล้าฝ่ายร้าย ก็ยังชวนให้นึกถึงหนังอย่าง ผีกัดอย่ากัดตอบ หรือ สยึมกึ๋ย ที่ต้องงัดสารพัดเครื่องมือเครื่องไม้มาฟาดฟัน ทั้งฮาทั้งลุ้น รวมถึงต้องทำเงื่อนไขยาก ๆ ตามตำราโบราณให้สำเร็จเป็นอาทิ ต้องยอมรับว่าถึงหนังจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็ช่วยเติมเต็มความต้องการดูหนังสไตล์เก่า ๆ นี้ ที่เคยเป็นของโปรดปรานของคอหนังไทยยุคหนึ่งได้อย่างดี
เรียกว่าใครโหยหาหนังไทยแนวนี้คงสมใจ และยิ่งเป็นแฟนคลับโรเบิร์ต สายควัน นี่คือหนังที่เขาเป็นพระเอกของแท้เรื่องสุดท้ายเลยก็ว่าได้
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส