Release Date
21/10/2020
ความยาว
123 นาที
Our score
8.6Rebecca
จุดเด่น
- ความพิถีพิถันในโพรดักชัน ที่สวยงามและสร้างบรรยากาศขับเน้นหัวใจของเรื่องได้น่าสนใจ นักแสดงมีเสน่ห์น่าจับตามองตลอด และการเล่าเรื่องหลากหลายรสในแต่ละองก์ที่ดูลื่นและเพลินทำให้ไม่ง่วงแม้จะเป็นสไตล์ดราม่าคลาสสิก
จุดสังเกต
- ช่วงหลังมีหนังแนวนี้มาใกล้ ๆ กัน อย่างเรื่องนี้ก็ใกล้เคียงกับ The Haunting of Bly Manor ก็อาจโดนทอนความสนใจลง แม้มองภาพรวมเรื่อง Rebecca จัดว่าคุณภาพสูงไม่น้อย และที่สำคัญหน้าหนังที่ชงมาทางหนังผีก็อาจทำบางคนที่อยากดูผีโฉ่งฉ่างผิดหวังได้
-
บท
9.0
-
โพรดักชัน
9.5
-
การแสดง
9.0
-
ความสนุกตามแนวหนัง
7.5
-
ความคุ้มค่าการรับชม
8.0
เรื่องย่อ คู่ข้าวใหม่ปลามันเดินทางมาถึงคฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูลฝ่ายชาย ณ ชายฝั่งที่มีลมกระโชกแรงของอังกฤษ ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะต้องรับมือกับเงาอดีตของภรรยาคนแรกที่ชื่อรีเบคกา ซึ่งยังทิ้งมรดกไว้ ณ ที่แห่งนี้แม้จะจากโลกไปเนิ่นนาน
ดาฟนี ดูมอริเออร์ (Daphne du Maurier) เป็นชื่อนักเขียนนวนิยายชาวอังกฤษผู้ประพันธ์งานชิ้นโบว์แดงเรื่อง Rebecca ซึ่งในสายนักอ่านคอคลาสสิกน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี แต่สำหรับใครที่ไม่คุ้นชื่อ คงต้องเฉลยอย่างสังเขปว่าเธอเป็นนักเขียนที่จัดว่าหัวก้าวหน้าในยุคของเธอ ด้วยการนำเสนอเรื่องราวที่มักพูดถึงการต่อสู้ระหว่างเพศ ภายใต้บรรยากาศลึกลับโบราณสไตล์กอธิก
และจุดเด่นในแง่การผูกปมปริศนาให้คนอ่านต้องติดตามไปจนจบ ดังที่มีคำอุทิศถึงเธอในโอกาสครบ 100 ปีชาตกาลดูมอริเออร์ทาง เดอะการ์เดี้ยน ว่า “ดูมอริเออร์คือนายหญิงผู้สร้างปริศนาอันใคร่ครวญดีแล้ว เธอไม่ปรารถนาให้ผู้อ่านอยู่สุข และคงต้องการไว้ซึ่งเงื่อนปมที่เธอผูกจวบจนกว่าเรื่องราวในหนังสือจะจบลง” หลายครั้งหลายคราเรื่องราวของเธอจึงมักจบลงด้วยโศกนาฏกรรมอันค้างเติ่งในใจผู้อ่าน หรือไม่เช่นนั้นก็จบลงอย่างการไร้คำอธิบายให้ปริศนาดำเนินเรื่อยไปในสมองของผู้อ่านเช่นกัน
ความโดดเด่นในผลงานของดูมอริเออร์ทำให้งานเขียนหลายชิ้นทั้งเรื่องสั้นและเรื่องยาว ผ่านการแปรรูปสู่ละครเวทีและสื่ออื่น ๆ หรือแม้แต่ภาพยนตร์เองก็เป็นสื่ออันโปรดปรานงานเขียนของเธอไม่ยิ่งหย่อนกัน โดยเฉพาะผู้กำกับระดับตำนานอย่าง อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก ก็เคยสร้างหนังจากแรงบันดาลใจในเรื่องสั้นของดูมอริเออร์ จนปรากฏเป็นเรื่อง The Birds (1963) และพิเศษสำหรับ Rebecca เองก็เคยเป็นหนึ่งในผลงานเข้าชิงออสการ์ของฮิตช์ค็อกในปี 1940 มาแล้วเช่นกัน
การมารับโจทย์ดัดแปลงผลงานนามกระเดื่องเช่นนี้ลงเน็ตฟลิกซ์ จึงไม่พ้นต้องเป็นผู้กำกับที่มีวิสัยทัศน์และรสนิยมดี ที่สำคัญต้องมีความกล้าสูง อย่าง เบน วีตลีย์ ผู้กำกับชาวอังกฤษที่เคยอาจหาญสร้างหนังจากนิยายที่ขึ้นชื่อว่าไม่อาจสร้างเป็นภาพยนตร์ได้ ของ เจ.จี. บัลลาร์ด อย่าง High-Rise เมื่อปี 2015 มาแล้ว โดยครั้งนี้เขายังได้ร่วมงานกับ เจน โกลด์แมน มือเขียนบทที่ผ่านงานดัง ๆ อย่าง Stardust (2007) Kick-Ass (2010) และ Kingsman ทั้ง 2 ภาคมาอีกด้วย
การร่วมงานกันครั้งนี้นับเป็นการใช้เคมีที่ต่างกันออกมาในทางที่ดี วีตลีย์มีวิสัยทัศน์การนำเสนอด้านศิลป์ที่ไม่ธรรมดา ช่วยให้ฉากหลังของคฤหาสน์โบราณริมทะเลอังกฤษเต็มไปด้วยความหลอกหลอนของอดีต อันเป็นหนึ่งในประเด็นหลักจากตัวหนังสือให้ออกมาจับต้องได้ผ่านสายตาผู้ชม ไม่ว่าจะภาพวาดเหล่าขุนนางโบราณ โถงทางเดินอันเปล่าเปลี่ยว ห้องลับที่ห้ามเข้า ตลอดจนผาริมทะเลที่ทั้งสวยงามและน่าหวาดหวั่นยามพายุฝนตั้งเค้า และที่สำคัญคือข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ล้วนปรากฏนามเจ้านายคนเก่าอย่าง รีเบคกา ราวว่าเธอไม่เคยตายจากไปไหน
ส่วนโกลด์แมนก็ใช้ความเข้าอกเข้าใจในฐานะนักเขียนที่มีผลงานดัง ๆ ที่ทราบดีว่าผู้ชมต้องการ ดูอะไร และเนรมิตฉากตอนต่าง ๆ ทั้งบทสนทนาและจังหวะจะโคนในการสวม-ถอดปริศนาต่าง ๆ ออกมาแต่ละองก์ได้น่าสนใจ
เริ่มแรกเราจะถูกดึงดูดด้วยรสหวานแบบคลาสสิกของสาวใช้นิรนามผู้อ่อนต่อโลก (ลิลี เจมส์ จาก Cinderella (2015) ที่ได้บังเอิญพบ แม็กซิม (อาร์มี แฮมเมอร์ จาก Call Me by Your Name (2017) พ่อหม้ายไฮโซที่มีข่าวซุบซิบเรื่องความผิดปกติหลังภรรยาคนก่อนของเขาตายลง จนเธอหลงรับคำขอแต่งงานของเขา โดยไม่รู้ว่าจะพบพานความน่ากลัวบางอย่างตามที่นายหญิงของเธอเคยทำนายไว้ว่าเธอรับมือกับการเป็นนายหญิงของคฤหาสน์โบราณนั้นไม่ไหวหรอก ทั้งพิธีรีตองแบบผู้ดี เหล่าบรรดาคนใช้ที่ซุบซิบนินทา และที่สำคัญข่าวลือแปลก ๆ ของบ้านหลังนั้น
โทนหนังค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นลึกลับเมื่อไม่มีใครในบ้านที่ดูต้อนรับเธอเลย ราวกับทุกคนซ่อนความลับของบ้านไว้ โดยเฉพาะหัวหน้าผู้รับใช้อย่าง คุณนายแดนเวอร์ส (คริสติน สก็อตต์ โธมัส ผู้เคยเข้าชิงดารานำหญิงออสการ์จาก The English Patient (1996) ที่กระทำราวกับเธอไม่มีตัวตน และตอกย้ำเสมอว่าคุณรีเบคกายังคงอยู่ในบ้านหลังนี้
ต้องยอมรับว่าเมื่อหนังวางปมของความสยองขวัญจากอดีตภรรยาแม็กซิมลง หนังก็เริ่มเผยคราบดราม่าที่เข้มข้น เชือดเฉือนกันระหว่างคนเป็นที่ดูอันตรายยิ่งกว่าวิญญาณจากอดีต และเปลี่ยนท่าทีเป็นหนังแนวสืบสวนเบา ๆ ก่อนจะแสดงร่างแท้จริงของการเป็นหนังโศกนาฏกรรมคลาสสิกที่ทั้งสวยงามและทิ้งตะกอนอารมณ์ให้ผู้ชมครุ่นคิดได้เรื่อยไปเช่นนั้น ว่า เราจะยึดถือคนผู้แสนรักไว้อย่างไร เมื่อกาลเวลาได้พรากชีวิตของเขาให้กลายเป็นอดีตลง แล้วสมควรหรือที่จะเอาภาพอดีตมาสวมทับคนในปัจจุบัน เพราะที่สุดแล้วไม่มีใครแทนกันได้อยู่ดี แม้สิ่งที่ดีของคนในอดีตนั้นจะยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส