Release Date
05/11/2020
LEAP ตบให้สนั่น / ค่าย มงคลภาพยนตร์ 2/ ความยาว 135 นาที
ผู้กำกับ : ปีเตอร์ ชาน (Peter Ho-Sun Chan) / นักแสดง : กงลี่, ฮวงปอ, วูแกง, เผิงหยู่ชาง, ไป่หลาง, จูถิงและนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติจีนตัวจริง
Our score
8.6[รีวิว] LEAP ตบให้สนั่น – บิลต์ให้คึกศึกแห่งศักดิ์ศรี
จุดเด่น
- ปีเตอร์ ชาน บิลต์อารมณ์คนดูแบบสั่งได้ ระวังจะส่งเสียงเชียร์หรือเสียน้ำตาไม่รู้ตัว
- กงลี่ รับบทเป็นหลางผิงได้น่าเชื่อถือมาก ๆ
- หนังมีกลิ่นอายโรแมนติกในช่วงแรกที่ทำได้กล่มกล่อมและน่าประทับใจมาก
- การแสดงของนักกีฬาทีมชาติไม่ขี้เหร่เลย
จุดสังเกต
- เสียดายที่หนังไม่ลงลึกความสัมพันธ์ระหว่างหลางผิงกับเจินจงเหอ
-
ความสมเหตุสมผลของบทภาพยนตร์
8.0
-
คุณภาพงานสร้าง
8.0
-
คุณภาพนักแสดง
9.0
-
ความสนุกตามแนวหนัง
9.0
-
ความคุ้มค่าบัตรชมภาพยนตร์
9.0
ห่างหายจากการนั่งเก้าอี้ผู้กำกับไปนานทีเดียวสำหรับ ปีเตอร์ ชาน ผู้กำกับชาวฮ่องกงอเมริกันเจ้าของผลงานขวัญใจคนไทยอย่างเถียนมีมี่ 365 วันรักเธอคนเดียว หรือ Comrades, almost a love story ที่พามนต์เพลงเติ้งลี่จวินและเรื่องราว รัก พบ พราก สร้างความประทับใจจนกลายเป็นหนังในดวงใจคอหนังหลายคนมาแล้ว
และหลังระหกระเหินทั้งโปรดิวซ์หนังและทดลองทำหนังแนวทางใหม่ ๆ ให้ตัวเองมานานในที่สุดเขาก็กลับมากับหนังกีฬาที่ดูเป็นของใหม่ ไม่เฉพาะหนังจีนแต่รวมถึงหนังเอเซียกับผลงานล่าสุดอย่าง LEAP หนังที่บันทึกช่วงชีวิตและความมุ่งมั่นของโค้ชหลางผิงและมิตรภาพของเธอกับเจินจงเหออดีตคู่ซ้อมที่ต้องมาเจอกันในรอบชิงชนะเลิศของโอลิมปิกปี 2008
โดยหนังจะเริ่มเรื่องด้วยบรรยากาศของการซ้อมวอลเลย์บอลชุดทีมชาติหญิงในยุค80s วันที่หลางผิง (รับบทโดย ไป่หลาง ลูกสาวตัวจริงของหลางผิง) ยังเป็นแค่ลูกชาวนาที่เข้ามาเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิง เด็กที่สุดในทีมชาติและต้องทุ่มเทอย่างหนักทั้งต้องยกน้ำหนักให้ได้ร้อยโลก่อนจะได้จับลูกและต้องฝึกตบลูกเป็นพันเป็นหมื่นกับโคhชจอมโหดอย่าง หยวนเหว่ยหมิน (วูแกง) แต่เธอก็ได้ เฉินจงเหอ (เผิงหยู่ชาง) คู่ซ้อมที่ผลักดันเธอและทีมจนคว้าชัยชนะการแข่งขันที่ญี่ปุ่น
จากนั้นหนังจะพาเราไปพบการแข่งขันอีก 2 ช่วงได้แก่ โอลิมปิกปี 2008 และ โอลิมปิกปี 2016 ที่หลางผิงได้กลับมาเจอกับเฉินจงเหออีกครั้งในฐานะโคhช 2 ชาติคู่แข่งที่ต้องมาเป็นกุนซือในศึกลูกยางครั้งประวัติศาสตร์และอีกช่วงคือเส้นทางที่หลางผิงได้กลับมารับใช้ชาติเพื่อปลุกปั้นนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงให้จีนคว้าชัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของโลกให้ได้โดยมีอนาคตของพวกเธอเป็นเดิมพัน
สิ่งหนึ่งที่ปีเตอร์ ชานยังคงทำได้ดีและแม่นยำมากคือจังหวะในการเร้าอารมณ์คนดูที่กดปุ่มถูกไปหมดอยากให้ฮึกเหิมตรงไหนหรือโมเมนต์ชวนน้ำตาเอ่อก็เหมือนสั่งได้ และต้องยอมรับว่าเรื่องราวไก่รองบ่อนคว้าชัยแบบนี้ไม่ค่อยมีมาให้เราดูกันมานานแล้ว การมาถึงของ LEAP เลยเป็นทั้งหนังกีฬาที่เราไม่ค่อยได้ดูกันในช่วงหลังและเป็นหนังดราม่าสู้คว้าชัยที่ไม่ได้สร้างกันบ่อย ๆ ผลลัพธ์มันเลยขายตัวมันเองได้เหมือนอาหารรสชาติแปลกใหม่ท่ามกลางของเดิม ๆ ในปัจจุบันไปโดยปริยาย
แต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าการที่หนังเลือกตัดสลับช่วงเวลาแบบก้าวกระโดดมันเลยทำให้เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างหลางผิงกับเฉินจงเหอดร็อปไปอย่างน่าเสียดาย เพราะต้องยอมรับเลยว่าเรื่องราวในองก์แรกที่เป็นไป่หลางลูกสาวของหลางผิงมาแสดงคู่กับเผิงหยู่ชางมันมีกลิ่นอายของ เถียนมีมี่ฯ อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวทั้งฉากซ้อมวอลเลย์บอลไปจนถึงกาแฟนำโชคที่อีกนิดจะกลายเป็นหนังรักอยู่แล้ว แต่หนังก็ถอยห่างและเลือกจะตัดสลับด้วยข้อมูลประหนึ่งสารคดีข่าวเพื่อหาเราข้ามช่วงเวลาไปยังตอนสำคัญที่หนังอยากจะเล่า
ยังดีที่การแสดงของกงลี่สามารถมาโอบอุ้มหนังไว้ได้ในช่วงกลางเรื่องไปจนจบ เธอทำให้เราเชื่อได้เลยว่าภาพที่เห็นตรงหน้าคือนักกีฬาที่ร่างกายบอบช้ำแต่หัวใจยังสู้เกินร้อยเสมอซึ่งนี่คือบารมีแบบที่นักแสดงน้อยคนนักจะสื่อสารออกมาให้คนดูรับรู้ได้ และต้องชมปีเตอร์ ชานอีกทีสำหรับงานกำกับนักแสดงมือสมัครเล่นแต่เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลตัวจริงอย่าง จูถิง ที่มาเล่นเป็นตัวเองและได้บทสำคัญซะด้วยซึ่งปีเตอร์ ชานก็ออกแบบการแสดงที่เหมาะกับนักแสดงที่เป็นนักวอลเลย์บอลทีมชาติแต่ละคนได้อย่างน่าอัศจรรย์ถึงขั้นบิลต์จนน้ำหูน้ำตาคนดูแตกตามพวกเธอซะอย่างงั้นเลยทีเดียว
สิ่งที่ทำให้ LEAP พิเศษนอกเหนือจากการเป็นหนังกีฬาแล้วคือการปลุกหัวใจคนดูให้ฮึกเหิมอย่างบ้าคลั่ง แม้จะมีสารชาตินิยมที่หนังจงใจสื่อสารแบบไม่เหนียมอายอยู่บ้างแต่ต้องยอมรับว่าในฉากซ้อมและฉากแข่งวอลเลย์บอลในหนังมันทำให้เราลืมความท้อแท้ต่อเหตุการณ์บ้านเมืองได้ชั่วขณะและเผลอใจเชียร์เหล่ามือตบลูกยางสาวจีนทำให้อดรีนาลีนพลุ่งพล่านดีเหมือนกันนะครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส