Release Date
05/11/2020
รักหนูมั้ย / ค่าย : เซิ้ง โปรดักชัน / ความยาว 128 นาที
ผู้กำกับ : ภูวเนตร สีชมพู / นักแสดง : ด้งเด้ง ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร ต้องเต ธิติ ศรีนวล ตาต้า ชาติชาย ชินศรี ยีนส์ ภัทร์ธีราภรณ์ สุโพธิ์
Our score
8.8[รีวิว] รักหนูมั้ย – เล่นตลกกับหัวใจ ท้าทายสังคม
จุดเด่น
- บทหนังท้าทายสังคมแต่เล่าได้อบอุ่นและมีข้อคิดดี ๆ
- การแสดงในภาพรวมออกมาดีมาก มีซีนที่โชว์ฝีมือนักแสดงอยู่เต็มไปหมด
- วิพากษ์โครงสร้างได้ดีมาก
- งานออกแบบงานสร้างทำได้ดีมาก แม้จะเป็นหนังเล็ก ๆ แต่รายละเอียดต่าง ๆ เสริมการเล่าเรื่องได้ดี
จุดสังเกต
-
ความลงตัวของบทภาพยนตร์
9.0
-
คุณภาพงานสร้าง
8.0
-
คุณภาพนักแสดง
9.0
-
ความสนุกตามแนวหนัง
9.0
-
ความคุ้มค่าบัตรชมภาพยนตร์
9.0
หลังเปิดตัวหนัง ไทบ้านเดอะซีรีส์ เมื่อ 3 ปีที่แล้วคงยากที่จะมองเห็นภาพหนังพูดอีสานที่เอาชีวิต ความรัก และความฝันของวัยรุ่นในตะวันออกเฉียงเหนือมาคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งคอมเมดี้ห่าม ๆ ดราม่าเรื่องชีวิต และโรแมนติกแบบหวานขม พร้อมด้วยนักแสดงนำชายหน้าตาบ้าน ๆ อย่าง ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร ในบทจาลอด หนุ่มอีสานบ้าน ๆ ผู้กุมหัวใจสาวสวยจนเกิดเป็นเรื่องรักสามเส้าขึ้น และยังดึงสายตาผู้ชมหนุ่ม ๆ ด้วยสาวสวยดีกรีดาวมหาวิทยาลัย
จากวันนั้นจนถึงพ.ศ.นี้ลำพังจักรวาล ไทบ้านเดอะซีรีส์ก็มีหนังออกมาอย่างต่อเนื่อง (นับเฉพาะหนังในชื่อ ไทบ้านเดอะซีรีส์ก็ 3 เรื่องแล้ว) และล่าสุดก็เพิ่งร่วมงานกับ BNK 48 ในชื่อ ไทบ้าน X BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ ฉายไปตอนต้นปีเป็นการขยับขยายเอาวัฒนธรรมอีสานมาผสมคลุกเคล้ากับวงการไอดอล และไม่นานเกินรอสัปดาห์นี้ช่วงเวลาดีต้นเดือนพฤศจิกายนก็ได้ฤกษ์ที่ รักหนูมั้ย หนังดรามาโรแมนติกฮา ๆ เคล้าน้ำตาและประเด็นหมิ่นเหม่อย่างการท้องในวัยรุ่นได้เข้าฉาย
จากความสนุกบนเตียงชั่วข้ามคืน พลอย (ยีนส์ ภัทร์ธีราภรณ์ สุโพธิ์) สาวไซด์ไลน์เกิดตั้งท้องจากการรับงานครั้งแรกกับ 3 หนุ่มได้แก่ ออฟ (ด้งเด้ง ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร) หนุ่มช่างไม้เด็กแนว จอห์น (ต้องเต ธิติ ศรีนวล) นักศึกษาวิทยาล้ยช่างศิลป์ขี้อาย และ กิว (ตาต้า ชาติชาย ชินศรี) หนุ่มไม่เอาถ่าน เพลย์บอยที่มาอาศัยบ้านจอห์นอยู่ และในระหว่างทางที่พวกเขากำลังหาคำตอบจากผล DNA ว่าใครเป็นพ่อเด็ก การมาถึงของเด็กน้อยและความรักของพวกเขาทั้ง 4 กำลังนิยามความหมายใหม่ของคำว่าครอบครัว
หนึ่งในข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนไปดู รักหนูมั้ย หนังไทยนอกจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์ ที่ชื่อสุดแสนจะเรียบง่ายและจริงใจ คือนี่เป็นงานเปิดซิงกำกับหนังเรื่องแรกของ โน่ ภูวเนตร สีชมพู ที่เคยปรากฎตัวในบทฝรั่งลูกอีสานจากไทบ้านเดอะซีรีส์มาก่อน และจากพื้นเพความรู้ด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ งานออกแบบที่เห็นในหนัง รักหนูมั้ย เลยไม่ธรรมดายิ่งได้รู้ถึงที่มาที่ไปกับความทะเยอทะยานถึงขั้นทิ้งฟุตเตจไป 6 คิวเพราะแบบบ้านไม่ได้ตามต้องการแล้วล่ะก็เรายิ่งต้องพินิจพิเคราะห์สัญญะที่ส่งผ่านพื้นที่ในบ้านที่เปรียบดังตัวละครสำคัญให้ดีแล้วล่ะ
ยิ่งหนังใช้พื้นที่บ้านหลังเดียวในการบอกเล่าเรื่องราวเกิน 90% ทำให้การเปลี่ยนแปลงของตัวละครจะสัมพันธ์กับบ้านไปด้วย ทุกอย่างถูกออกแบบอย่างเป็นเหตุเป็นผลทั้งห้องนอนที่กิวใช้ในกามกิจของตนกับสาวมากหน้าหลายตา หรือพื้นที่ตรงกลางที่ทั้ง 4 คนใช้เวลาร่วมกันทั้งกินข้าวไปจนถึงเลี้ยงลูกน้อย เราจะเห็นพื้นที่ที่เคยเป็นที่เกิดเหตุ (เรื่องคืนนั้นในตอนต้นเรื่อง) กลายเป็นผลลัพธ์ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวละครได้อย่างชัดเจน
แต่สิ่งที่มหัศจรรย์จริง ๆ ของหนังคือบทภาพยนตร์ที่ท้าทายบรรทัดฐานของสังคมเพราะความสัมพันธ์ระหว่างวัยรุ่นที่ท้องไม่พร้อมยิ่งเกิดกับไซด์ไลน์หน้าตาดีที่ขายบริการให้ผู้ชาย 3 คนในบ้านหลังเดียวกันย่อมดูเป็นเรื่องราวที่ไม่ปกติระดับป้าข้างบ้านได้ยินคงเอามือทาบอกแน่ ๆ แต่ทีละน้อยตัวหนังก็ค่อย ๆ ใช้เวลาของมันอย่างคุ้มค่าด้วยการถักทอเรื่องราวความสัมพันธ์ของตัวละครและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่มาพิสูจน์เส้นทางการเติบโตของตัวละครได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล
และที่เหนือชั้นกว่านั้นคือการที่บทหนังตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบที่สังคมมีต่อเยาวชนในปัจจุบันทางอ้อม เราจะเห็นฉากที่พ่อของพลอยมาที่บ้านและแสดงให้เห็นว่าผู้ใหญ่ในปัจจุบันไม่อาจพึ่งพาได้ขนาดไหน หรือกระทั่งป้าของจอห์นที่ไม่เคยกลับมาบ้านเลยก็เหมือนปล่อยให้หลานดูแลตัวเองแบบตามมีตามเกิด ดังนั้นความคิดที่เอ็กซ์ตรีมถึงขั้นเป็นพ่อร่วมกัน 3 คนเลยกลายเป็นตลกร้ายในตัวเองอยู่แล้ว
เพราะ จอห์น ออฟ และกิว ก็ถูกสถานการณ์บีบบังคับให้รับผิดชอบทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่พร้อมและแทบเอาตัวไม่รอด ที่เลวร้ายกว่านั้นหนังยังกล่าวถึงสังคมรอบนอกที่พวกเขาเป็นห่วงนักหนาว่าพลอยจะโดนครหาว่าเป็นเมียหลายผัวหรือพลอยเองก็ต้องจำทนเงียบเสียงเมื่อเจอคำพูดของกิวที่ตอกย้ำสถานะอาชีพขายบริการของเธอ นั่นเลยทำให้บ้านหนึ่งหลังถูกแทนภาพไปไกลถึงผลพวงจากสังคมไทยที่ปากว่ามือขยิบได้อย่างเห็นภาพชัดเจน
แต่ใช่ว่าตัวหนังเอาเรื่องหนัก ๆ มาเล่าแล้วจะไร้อารมณ์ขันนะครับ ตรงกันข้ามเลยหนังเอาอารมณ์ขันมาขับเคลื่อนเรื่องราวด้วยมุกที่ยิงกันแทบไม่เว้นซีน แต่จังหวะของมันก็สอดรับกับดรามาของเรื่องได้ลงตัวมากและการได้นักแสดงจากไทบ้าน เดอะซีรีส์มาถือเป็นอาวุธสำคัญในการยิงมุกที่เข้าเป้าและสร้างความผูกพันให้คนดูได้อย่างรวดเร็ว
งานนี้นักแสดงอย่าง ต้องเต ธิติ ศรีนวล จากที่เคยรับบทคนบ้าใน ไทบ้าน เดอะซีรีส์ ก็ต้องมารับบทหนุ่มช่างศิลป์เก็บความรู้สึกอย่างจอห์นได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งมุกตลกแบบสแลปสติ๊กหรือตลกตบโต๊ะที่ชงตลอดเรื่องแล้วยังช่วยเสริมความโรแมนติกดรามาให้เรื่องราวได้อย่างดี ส่วน ด้งเด้ง ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร ที่ดังจากบทจาลอดก็ต้องมาเป็นจอห์น ช่างไม้จอมปั่นที่มีแฟนเป็นสาวเหนือคนสวยก็มาในมาดเด็กแนวสุดปั่นทำให้หนังครื้นเครงได้เป็นอย่างดี
และที่ไม่ทำให้ผิดหวังเลยคือ ตาต้า ชาติชาย ชินศรี ที่เคยทำคนดูเสียน้ำตาจากบทเซียงใน ไทบ้าน เดอะซีรีส์ ก็ต้องมารับบท กิว หนุ่มไร้ความรับผิดชอบซึ่งบทก็เปิดโอกาสให้เราได้เห็นทั้งความห่ามและอารมณ์อบอุ่นที่ซ่อนอยู่ในการแสดงของเขาได้อย่างดี และที่ต้องปรบมือให้ไม่แพ้กันคือ ยีนส์ ภัทร์ธีราภรณ์ สุโพธิ์ นางเอกคนสวยที่คราวนี้เรียกได้ว่าเป็นหัวใจของเรื่องก็ว่าได้เธอสามารถทำให้บทไซด์ไลน์ที่ดูแรงด้วยเนื้อหาดูเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจและหนังก็ให้ฉากที่เธอได้โชว์ฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ คือฉากที่จอห์นซื้อปลาทองมาให้ที่เธอเรียกน้ำตาคนดูได้อย่างไร้ข้อกังขาจริง ๆ
สรุปแล้ว รักหนูมั้ย น่าจะเป็นหนังที่เหมาะมากที่พ่อแม่จะได้จูงลูกหลานที่เป็นวัยรุ่นไปดูเพื่อทำความเข้าใจทั้งมิติทางสังคมปัจจุบันที่เซ็กส์กับวัยรุ่นเป็นของคู่กัน รวมไปถึงการที่หนังพยายามถ่ายทอดเรื่องราวท้องไม่พร้อมแบบไม่มีการตัดสินผิดถูก แต่ให้เห็นผลจากการกระทำก็น่าจะทำให้น้อง ๆ หนู ๆ วัยรุ่นทั้งหลายได้พิเคราะห์ให้ดีก่อนจะไปหลับนอนกับใครได้อย่างไม่ยัดเยียด ที่สำคัญหนังตลก อบอุ่น และดูสนุกมากครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส