กำกับ/บทภาพยนตร์
เดวิด อี. ทัลเบิร์ต
เพลงประกอบภาพยนตร์
จอห์น เลเจนด์, ฟิลิป ลอว์เรนซ์ และเดวี่ นาธาน
ความยาวภาพยนตร์
2 ชม. 2 นาที
Our score
9.6[รีวิว] jingle jangle : a christmas journey ปลุกศรัทธาความเชื่อในตัวคุณ ด้วยมิวสิคัล
จุดเด่น
- การสื่อความหมายในภาพยนตร์ดีมาก ๆ มันคือภาพยนตร์ของการสร้างแรงบันดาลใจและบอกกับทุกคนว่า "จงมีความเชื่อ" ยืนยันหนักแน่นด้วยอีกว่า ความรักสามารถเยียวยาทุกสิ่ง
- ดูได้ทั้งครอบครัวแบบฟีลกู้ด แฝงข้อคิดที่เอาไปใช้ได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก
- อิ่มตา อิ่มหูกับมิวสิคัลดี ๆ ที่ดูซ้ำได้ ไม่เบื่อ
จุดสังเกต
- จุดบอดนิดเดียวคือ CG ที่ไม่เนียนในบางฉาก
- ใครมองหาภาพยนตร์สาวน้อยอัศจรรย์ที่จะมาผจญภัยกับคุณตา เรื่องนี้ไม่ใช่นะคะคุณจะเจอสิ่งนั้นน้อยมาก แต่มันคือภาพยนตร์มิวสิคัล เป็นความอัศจรรย์ในหัวใจเด็กที่สร้างแรงบันดาลใจ
-
พล็อตและบทภาพยนตร์
10.0
-
เพลงประกอบภาพยนตร์
10.0
-
คุณภาพนักแสดง
10.0
-
คุณภาพงานสร้าง
8.0
-
ความคุ้มค่าในการรับชม
10.0
JINGLE JANGLE : A CHRISTMAS JOURNEY (2020) ภาพยนตร์มิวสิคัล/แฟนตาซี ที่บอกเล่าเรื่องราวของความเชื่อที่หายไปของ เจอโรนิคัส แจงเกิ้ล (Forest Steven Whitaker) ช่างทำของเล่นในตำนานผู้ประดิษฐ์ของเล่นเจ๋ง ๆ แสนมหัศจรยย์แห่งเมืองคอบเบิลตัน เมืองที่เต็มไปด้วยความคึกคักและรอยยิ้มที่สดใส แต่เมื่อ กัสตาฟสัน (Keegan-Michael Key)ศิษย์เอกที่เขาไว้ใจขโมยสุดยอดสิ่งประดิษฐ์ของเขาไป ทำให้เขากลายเป็นคนที่หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างแม้แต่ความมั่นใจในตัวเอง จนกระทั่ง เจสสิก้า (Anika Noni Rose) ลูกสาวสุดที่รักของเขาได้ส่ง เจอร์นีย์ (Madalen Mills) หลานสาวที่สดใสและมีหัวใจรักในสิ่งประดิษฐ์ มาเยี่ยมเขาก่อนวันคสิตมาสต์ จนได้เข้ามาช่วยเยียวยาแผลเก่าและปลุกความอัศจรรย์ในตัวเขาขึ้นมาอีกครั้ง
ความไว้ใจ ที่นำมาซึ่งความสูญเสีย
เมื่อเราให้ความรักและความไว้ใจใครสักคนมาก ๆ ขอให้เผื่อใจไว้ เพราะเขาอาจเป็นตัวการทำลายความสุขของเราไปชั่วพริบตา ซึ่งแน่นอนว่าเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขากลายเป็นคนแบบนั้นโดยไม่รู้ตัว เจอโรนิคัส เป็นนักประดิษฐ์ของเล่นที่โด่งดังคับเมือง ข้างกายเขานอกจากจะมีภรรยาและลูกสาวที่น่ารักเป็นกำลังใจเขายังมี กัสตาฟสัน ศิษย์เอกฝีมือดีที่ศรัทธาในตัวเขา เฝ้าคอยคำแนะนำจากเขา แต่!! เมื่อกัสตาฟสันปล่อยให้ความโลภ ความน้อยเนื้อต่ำใจเข้ามามีอำนาจ จนหลงเชื่อคำยุยงของเจ้าสิ่งประดิษฐ์และขโมยทุกอย่างไปจากเจอโรนิคัส จนไปสร้างอาณาจักรของตัวเองจากสิ่งที่ขโมยมา
เจ้าหุ่นตัวเล็กร่างสะโอดสะองตัวนี้มันพูดได้ค่ะ เจอโรนิคัสประดิษฐ์มันขึ้นมาพร้อมกับใส่ความคิดคล้ายมนุษย์ให้มันด้วย มันยุยงให้กัสตาฟสันทรยศอาจารย์ตัวเอง “เราไม่ได้ขโมยแต่เราแค่ยืมแล้วไม่คืนแค่นั้นเอง” เจ้าหุ่นตัวนี้มันบอกแบบนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังบอกเราว่า เมื่อเราเข้าข้างความอยากของตัวเองจนหลงลืมแม้กระทั่งความผิดชอบชั่วดี เราจะตกเป็นเหยื่อของความชั่วร้ายอย่างเต็มใจ
นอกจากความบันเทิงยังแฝงข้อคิดเต็มไปหมด
ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมาะกับการดูด้วยกันทั้งครอบครัวเอามาก ๆ นอกจากความบันเทิงที่จะได้จากภาพยนตร์แน่ ๆ แล้ว เพราะมันเป็นมิวสิคัลแฟนตาซี ดูง่ายดูเพลินแล้วยังแฝงข้อคิดที่ผู้ปกครองสามารถสอนเด็ก ๆ ให้เข้าใจได้ง่ายดายเลยทีเดียว มากกว่านั้นยังเตือนตัวเองได้อีกด้วย บริบทของภาพยนตร์สื่อออกมาอย่างชัดเจนไว้เลยว่า มันคือเรื่องของการถูกล่อลวงความคิดที่ความคิดฝ่ายต่ำก็มักจะมาในรูปแบบของความชอบธรรม เรื่องของความเชื่อความมั่นใจในตัวเอง ที่ต้องอาศัยความรักความศรัทธาเป็นเครื่องเยียวยา
มีบทพูดตอนหนึ่งของคุณนายจอห์นสตัน สตรีไปรษณีย์บอกว่า “เจอโรนิคัส ฉันรู้จักการสูญเสียดี แต่เวทมนตร์ก็ไม่ได้อยู่แค่สิ่งที่เราสูญเสียไป มันอยู่ในสิ่งที่เรายังเหลืออยู่ด้วย” ประโยคสั้น ๆ เพียงแค่นี้มันสร้างกำลังใจได้ดีมากนะคะ สำหรับคนที่ล้มและกำลังชั่งใจว่าเขาจะลุกขึ้นใหม่อีกครั้งหรือนั่งอยู่กับที่ให้เวลาผ่านไป
แค่ฟังเพลงก็คุ้มมากแล้ว
ความเป็นมิวสิคัล แน่นอนที่เพลงเป็นส่วนประกอบสำคัญสุด ๆ เรื่องนี้ร้องเต้นได้เพลินหูเพลินตากันเลยทีเดียว เป็นมิวสิคัลสีสันสดใส แต่ความคุ้มมันอยู่ที่เสียงเพลงจากนักร้อง นักแสดงในเรื่องและนักร้องไทยของเรานี่แหละ แถมยังแปลเนื้อร้องเป็นไทยซะด้วย เรื่องนี้ดิฉันดูสองรอบค่ะ ความยาว 2 ชั่วโมง 2 นาที ก็คูณสองเข้าไปเพราะตั้งใจจะฟังเพลงล้วน ๆ Magic Man G ที่ร้องโดย Keegan-Michael Key ฉบับภาษาไทยได้ คิง-พิเชษฐ์ บัวขำ จาก เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ซีซั่นที่ 1 มาร้องเพลงนี้ แล้วก็ว้าวมาก ๆ กับเสียงของ นก-พริมาภา กรโรจนชวิน ที่มาร้องเพลง Miles and Miles ในบทของคุณนายจอห์นสตัน
และอีกหลาย ๆ คนทั้ง แก้ม-วิชญาณี , โน้ต-ศรัณย์ , เก๋-อรรคพล , มัชฌิมา มีบำรุง , โกสินทร์ ป้อมเปี่ยม, ชิดชนก มัญชุรัตน์ เพลินหูมาก ๆ มีความสุข แนะนำสำหรับแฟนภาพยนตร์สายมิวสิคัลถ้ามีเวลานะคะ ดูทั้งภาษาต้นฉบับและพากย์ภาษาไทย ได้อรรถรสแตกต่างกันแบบอิ่ม ๆ
ขอเพียงมีความเชื่อ ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้
กุญแจสำคัญที่ภาพยนตร์ตั้งใจจะบอกก็คือ “ขอเพียงมีความเชื่อ ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้” เชื่อว่าจะทำได้แล้วมันจะเป็นไปได้ ภาพยนตร์สื่อเรื่องความเชื่อกับความจริงที่ทับซ้อนกันอยู่ ผ่านการเล่าเรื่องของยายที่กำลังเล่าเรื่องราวแต่หนหลังให้หลานสองคนได้ฟัง เป็นภาพความทรงจำผ่านสต็อปโมชันแทนตัวละครต่าง ๆ ทำให้ภาพยนตร์เป็นแฟนตาซีที่เข้าถึงได้ทุกวัยไปอีก
ความเชื่ออาจมองไม่เห็นได้ด้วยตา แต่สามารถมองเห็นด้วยใจที่เชื่อมั่นและมันจะเป็นแรงผลักให้เราสามารถสร้างอะไรที่ยิ่งใหญ่ เกินกว่าที่เราจะคาดถึงได้เสมอ เหมือนกับที่เจอโรนิคัสล้มลงกับความผิดหวังจนความเชื่อหดหาย แต่เขากลับฟื้นคืนมาใหม่เมื่อมีใครสักคน นำความรักความศรัทธามาปลุกความเชื่อนั้น จนในที่สุดก็สร้างสิ่งอัศจรรย์ให้ใครหลาย ๆ คนได้จดจำ
หน้าหนังอาจดูเหมือนเป็นเรื่องของหนูน้อยอัจฉริยะที่จะมาผจญภัยกับคุณตา มีนิดหน่อยค่ะพอกล้อมแกล้ม น่ารักน่าหยิกและเห็นถึงความรักความอบอุ่นของตากับหลาน แต่เพียงแค่นั้นก็ถือเป็นใจความหลักของเรื่องได้เลย คือการปลุกความมั่นใจ การให้เนื้อหาไปที่เรื่องความของเชื่อ ความไว้ใจกับความจริงที่ว่า สิ่งที่เราเห็นว่าดีสมบูรณ์แบบอาจมีจุดบกพร่องซ่อนอยู่เสมอ เหมือนเจ้าหุ่นเจ้าเล่ห์ตัวนั้น…คริสมาสต์นี้มีสิ่งอัศจรรย์รออยู่ แน่ ๆ เลย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส