[รีวิว] Monster Hunter – แย้ชีวะปะทะจา พนม

Release Date

30/12/2020

Monster Hunter

ความยาว 104 นาที

ผู้กำกับ

Paul W.S. Anderson

นักแสดง

จา พนม รอน เพิร์ลแมน มิล่า โจโซวิช

[รีวิว] Monster Hunter – แย้ชีวะปะทะจา พนม
Our score
7.3

[รีวิว] Monster Hunter – แย้ชีวะปะทะจา พนม

จุดเด่น

  1. หนังมีงานสร้างที่ได้มาตรฐานมากที่สุดในปีนี้ เป็นแอ็กชันแฟนตาซีที่ทำให้โรงหนังได้ส่งท้ายปีกับหนังฟอร์มยักษ์จริง ๆ
  2. พี่จา พนม เด่นมากและเป็นหนึ่งในข้อดีของหนังเลย
  3. หนังพยายามเซอร์วิสแฟนเกมให้มากที่สุดและยังดึงเสน่ห์ให้คนที่ไม่รู้จักเกมมาก่อนได้สนใจอยากไปเล่นเกมได้อีกด้วย
  4. สเปเชียลเอฟเฟกต์โดยรวมถือเป็นหนังที่ CG ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของปีนี้

จุดสังเกต

  1. หนังไม่ได้เคารพต้นฉบับอย่างเกมเท่าไหร่ดังนั้นทำใจก่อนดูได้เลย
  2. การดำเนินเรื่องก็คือคล้ายกับเอาสูตรของ Resident Evil มาดัดแปลงให้เข้ากับหนังเรื่องใหม่
  • ความลงตัวของบทภาพยนตร์

    6.0

  • คุณภาพงานสร้าง

    8.5

  • คุณภาพนักแสดง

    6.5

  • ความสนุกตามแนวหนัง

    8.0

  • ความคุ้มค่าบัตรชมภาพยนตร์

    7.5

หลังจบจากซีรีส์หนัง Resident Evil ก็แทบจะนับหนังที่สร้างจากวิดีโอเกมแล้วประสบความสำเร็จได้ยากเหลือเกิน และด้วยว่าหลัง Resident Evil The Final Chapter เมื่อปี 2016 พอล ดับเบิลยูเอส แอนเดอร์สัน และ มิลลา โจโววิช ก็ยังไม่มีผลงานร่วมกันจนกระทั่งไม่นานมานี้ก็ประกาศว่าพวกเขาและทีมงาน Resident Evil ได้ตกลงหยิบเกมคลาสสิกของ CAPCOM อย่าง Monster Hunter มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ โดยมี จา พนม ยีรัม นักแสดงสายบู๊ชาวไทยในบทนำร่วมกับเจ๊มิลลาภรรยาบักพอล

สนับสนุนข้อมูลโดย Major Cineplex

ตัวหนังเริ่มเรื่องด้วยซีนโลกคู่ขนานอันมืดหม่นเมื่อเรือเดินทะลทรายต้องมีอันอัปปางกลางทะเลทรายจากการโจมตีของอสูรร้ายแล้วหนังก็ตัดสลับไปที่ทหารหน่วยรบพิเศษนำโดยอาร์ทีมิส (มิลลา โยโววิช) ที่พาลูกน้องมาค้นหาทหารที่หายตัวไปก่อนหน้านี้แต่โดยไม่ทันตั้งตัวพวกเขาก็ถูกคลื่นไฟฟ้าลึกลับดูดพวกเขาไปยังอีกมิติและต้องเผชิญกับอสูรร้ายที่คร่าชีวิตพวกเขาไปทีละคนเหลือไว้เพียงอาร์ทีมิสที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดจนเธอได้พบกับฮันเตอร์ (โทนี จา) และทั้งคู่ก็ร่วมกันต่อกรกับอสูรร้ายเพื่อเอาชีวิตรอดให้จงได้

ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงล่ะนะเชื่อว่าหลายคนสงสัยว่า Monster Hunter ซื่อสัตย์กับเกมแค่ไหนก็ตอบได้เลยว่า Resident Evil เคยยำฉบับเกมไว้ยังไง Monster Hunter ก็ไม่ต่างกันเนื่องจากเกมกับหนังการเล่าเรื่องอาจใกล้เคียงกันแต่ก็ไม่อาจเอามาทาบกันสนิทได้ ดังนั้นผู้กำกับอย่างพอล ดับเบิลยูเอส แอนเดอร์สันก็เลยเอาต้องเอาสูตรของหนัง Predator (1987) มายำรวมกับซีนแอ็กชันแบบซีรีส์ Game of Thrones ผสมความเว่อร์วังภาพสโลว์โมชันแบบ Resident Evil อื้อหือสุดท้ายออกมาจับฉ่ายมากครับ ฮ่าาาาา

WHAT THE FACT รีวิว Monster Hunter
Milla Jovovich stars in Screen Gems and Constantin Films MONSTER HUNTER.

คือที่ต้องบอกไว้เนิ่น ๆ แบบนี้ไม่ใช่อะไรนะครับคือเชื่อเลยว่าแค่ 10 นาทีแรกหนังมันก็เลือกคนดูแล้วครับว่ารับได้ไหมถ้าต้องดูอะไรมั่วซั่วแบบนี้ ถ้ายังไม่เห็นภาพลองย้อนกลับไปอ่านเรื่องย่อที่เราเขียนใหม่นะครับที่เห็นผมเขียนว่าเริ่มด้วยเรืออัปปางกลางทะเลทรายน่ะ หนังไม่แม้แต่จะอธิบายนะครับว่าในเรือเนี่ยมีใครบ้างและแต่ละตัวจะรอดจนอยู่ในเรื่องไหม แล้วภาพก็เฟดไปเลยทิ้งคนดูให้งงเต็กว่าเพิ่งดูอะไรไปหว่า ฮ่าาาาา

และไม่เกินอึดใจในเมื่อโปสเตอร์บอกไว้แล้วว่ามีมิลลา โยโววิช AKA Mia Phu Kum Kub (เมียผู้กำกับอ่ะแหละ จะเขียนเป็นคาราโอเกะเพื่อ ?) หนังก็เลยเปลี่ยนเกียร์ไปเล่าเรื่องทหารกลุ่มหนึ่งที่มีเจ๊มิลลา โยโววิชที่เป็นผู้บังคับบัญชานาม อาร์ทีมิสซึ่งหนังลากยาวไปกับฉากเล่นมุกระหว่างสหายลายพรางที่พูดถึงวีรกรรมของเจ๊อาร์ทีมิสและส่องกล้องหาคนหาย..เล่นมุก…ส่องกล้อง..หาคนหาย…เวียนวนอยู่ร่วม 10 นาทีกว่าไอ้แสงประหลาดจะมาช่วยชีวิตผู้ชมและพาพวกมันไปเจอมอนสเตอร์มุดดินเสียที

และหลายคนคิดว่าจากนี้หนังจะให้เราเห็นการเอาชีวิตรอดของเหล่าทหารหาญและเล่นดราม่าชีวิตครอบครัวเหมือนที่หนังปูไว้ปรากฎหนังใช้เวลาช่วงมอนสเตอร์กำจัดพวกเขาสั้่นกว่าไอ้ตอนทัวร์ทะเลทรายส่องกล้องซะอิ๊ก..ฮ่าาาาาา แต่เดชาบุญเหมือนพอล ดับเบิลยูเอส แอนเดอร์สัน แกก็คงกลัวบาปแหละเลยรีบพาเจ๊มิลลาเมียคนสวยไปพะบู๊กับพี่จา พนมของเราซักที

WHAT THE FACT รีวิว Monster Hunter

แล้วก็อัดซีนแอ็กชันตื่นตาตื่นใจทั้งมิลลาซัดจาพนม (จนคนดูเหนื่อย) ไปจนถึงฉากวิ่งหนีมอนสเตอร์ซักพักข้ามฟากไปรวมพลมาไฝ่ว์กับมอนสเตอร์ตุ้บตั้บ ๆ จนหนังจบน่ะแหละ ซึ่งภาพรวมแล้วถ้าถามว่าหากคุณต้องการหาหนังแอ็กชันซัดมอนสเตอร์ตัวยักษ์ตูมตาม Monster Hunter ก็คงตอบโจทย์ได้ไม่ยากน่ะแหละเพราะด้วยคุณภาพของงานสเปเชียลเอฟเฟกต์ที่ทำได้ไม่ขี้เหร่เลยและน่าจะเป็นหนังฟอร์มยักษ์ไม่กี่เรื่องของปีนี้ที่รู้สึกเลยว่าซีนแอ็กชันแฟนตาซีดูใหญ่และทำได้ถึงใจจริง ๆ

ส่วนสาวกแฟนเกมต้นฉบับอันนี้ต้องทำใจล่ะเพราะนอกจากชื่อมอนสเตอร์ คอสตูมของพี่จา พนมและตัวละคร NPC (ตัวละครในเกมที่ไม่ได้ถูกบังคับโดยผู้เล่น) อย่างแมวพ่อครัวแล้วหนังก็เหมือนผิดกลิ่นจากเกมไปสิ้นเชิงดังนั้นเราอาจจะต้องเรียกหนังอย่าง Monster Hunter เป็นเหมือนเรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจจากเกมซะมากกว่าซึ่งข้อดีก็คือมันน่าจะช่วยให้คนไม่เคยเล่นเกมอยากหาเกมมาเล่นมากขึ้นและเห็นเสน่ห์ของเกมตำนานเกมนี้ได้ไม่ยากเลยครับ

แต่กระนั้นสิ่งที่น่าจะทำให้ผู้ชมได้รับความบันเทิงได้เต็มที่จริง ๆ ก็คือการมีอยู่ของพี่จา พนมนี่แหละครับเพราะต่อให้หนังเอาพี่จาเรามาแต่งตัวประหลาดแถมให้สวดมนต์ด้วยภาษามั่ว ๆ จนดูตลกแต่ซีนแอ็กชันต้องยอมรับว่าแกเท่จริง ๆ นั่นแหละและดูแล้วเชื่อเลยว่าหากมอนสเตอร์ดุ ๆ บุกโลกแค่มีพี่จาอยู่เราก็น่าจะปลอดภัยแน่ ๆ ด้วยสกิลการโดดระดับชอลิ้วเฮียงผสมนักโดดสูงโอลิมปิกและคมดาบยักษ์ของแกซึ่งก็ถือว่าน่าภูมิใจที่คนไทยของเรากลายเป็นหนึ่งในข้อดีของหนังได้ขนาดนี้นะครับ

หนังเข้าฉาย 30 ธันวาคมทุกโรงภาพยนตร์นะครับ

WHAT THE FACT รีวิว Monster Hunter
กดที่ภาพเพื่อเช็กรอบฉายและซื้อบัตรชมภาพยนตร์

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส