จักรวาลหนังดีซีคอมิกอยู่ภายใต้ร่มเงาของสตูดิโอใหญ่อย่าง วอเนอร์ บราเธอร์ ที่ได้ชื่อว่าเจ้ากี้เจ้าการกับงานสร้างหนังแต่ละเรื่องมากสุด สร้างความระอากับบรรดาผู้กำกับแต่ละคน ถึงขนาดเปลี่ยนทิศทางไปเลยก็หลายเรื่อง และผลลัพธ์มักออกมาน่าผิดหวัง ทำให้หนังซูเปอร์ฮีโรจากฝั่งดีซีจึงยังตามหลังมาร์เวลอยู่หลายก้าว
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่าหลายครั้งไอเดียจากทางผู้บริหารก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป อย่างเช่น Justice League เวอร์ชันแรกที่ แช็ก ชไนเดอร์ ยังนั่งเก้าอี้ผู้กำกับอยู่นั้น ผลงานออกมาไม่เป็นที่พอใจของผู้บริหารวอเนอร์ ก็เลยไล่เขาออกไป แล้วเอา จอส วีดอน มาสานงานต่อ เราก็ได้เห็นกันแล้วว่าผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งปีหน้าเราก็จะได้ดู Justice League ในวิสัยทัศน์เดิมของ แซ็ก ชไนเดอร์ กันในรูปแบบมินิซีรีส์
หรืออย่าง Suicide Squad อีกหนึ่งหนังคว่ำในตำนานของดีซีคอมิก ผลงานของผู้กำกับ เดวิด เอเยอร์ ที่ตั้งใจให้หนังออกมาเป็นดราม่าจริงจังแต่ก็ขัดอกขัดใจสตูดิโอหนักหนา ถึงขั้นสตูดิโอโดดลงมาควบคุมการตัดต่อหนังใหม่หมด เพราะต้องการให้หนังออกมาเป็นแอ็กชันคอมมีดี้ในรูปแบบเดียวกับ Deadpool
อีกตัวอย่างที่ผู้กำกับดื้อด้านไม่ยอมอ่อนข้อให้สตูดิโอก็คือ Joker ของท็อดด์ ฟิลลิป ที่ทำหนังออกมาดาร์กสุดใจ แต่ก็ขัดใจวอเนอร์อย่างแรงเช่นกัน ทำให้สตูดิโอตัดงบต้นทุนการถ่ายทำก็แล้ว สุดท้ายประกาศจะยกเลิกโพรเจกต์ แต่ท็อดด์ก็ดึงดันต่อสู้จนปิดกล้องได้ แล้วผลลัพธ์ก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า วิสัยทัศน์ของผู้กำกับหรือสตูดิโอ อันไหนถูกต้องกว่ากัน
ในวันนี้ Wonder Woman 1984 หนังซูเปอร์ฮีโรเรื่องล่าสุดจากฝั่งดีซีก็ได้ฤกษ์ลงโรงฉายไปแล้ว ผู้กำกับแพตตี้ เจนกินส์ เองก็ได้ออกมาเล่าความยากลำบากในขั้นตอนถ่ายทำ ที่ต้องต่อสู้กับอำนาจของผู้บริหารจากสตูดิโอวอเนอร์ที่มาก้าวก่ายในระหว่างงานถ่ายทำอีกแล้ว จนถึงขั้นที่แพตตี้เผยว่าเธอแทบจะถอดใจไปกลางคันแล้ว
“สิ่งที่ยากที่สุดในการทำหนังก็คือการควบคุมให้หนังเดินหน้าไปตามทิศทางที่เราวางไว้ในหัวโดยจะต้องไม่ถอดใจไปเสียก่อน สิ่งที่ทำให้ฉันทำหนังให้จบมาได้คือฉันเชื่อมั่นในสคริปต์ที่ฉันคิดว่ามันเยี่ยมยอดมาก ฉันไม่รู้หรอกว่าคนอื่นจะทำอย่างไรกันถ้าเจออำนาจเข้ามาวุ่นวายเปลี่ยนนู่นนี่ เค้าจะยังมุ่งหน้าแผนเดิมกันได้อยู่ไหม แต่สำหรับฉันน่ะไม่ ฉันไม่ใช่คนที่เชื่อกับแผนการของสตูดิโอ ฉันหวังว่าเขาจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับฉันเสียที ถ้ามันจะออกมาแย่ก็ต้องยอมรับไปด้วยกัน ไม่งั้นคุณก็ต้องแก้สคริปต์ให้พอใจซะก่อนที่หนังจะเปิดกล้อง”
“เอาจริง ๆ สตูดิโอทำฉันแทบบ้า เพราะว่าเราเขียนบทกันอย่างประณีตมาก แล้วแต่ละวันที่งานเขียนบทเดินหน้าไป เราก็มั่นอกมั่นใจกับบทที่เราเขียนออกมามาก ๆ เราก็มีศรัทธากับทีมงานทุกคนที่ทำงานมาด้วยกันตามแผนการที่วางไว้ ฉันมองแล้วว่าแผนการนี้มันเวิร์กมาก ฉันอยากจะบอกว่าตอนนั้นมันเป็นความรู้สึกที่ดีมากสำหรับฉัน กับการที่เฝ้ารออะไรสักอย่างมายาวนานแล้วได้เห็นมันเริ่มเป็นรูปเป็นร่างเสียที แต่พอการถ่ายทำมันเดินมาได้ครึ่งทาง ผู้บริหารสตูดิโอก็โผล่มาบอกว่า ‘ผมไม่เห็นรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย’ ฉันก็รีบอธิบายว่า ‘คุณอย่าเพิ่งมาตัดสินผลงานอะไรตอนนี้สิ เรายังไม่ได้ใส่ซีจีลงไปเลย ใช่ภาพมันออกจะดูแย่ ๆ หน่อยนะ แต่รอก่อนสิ’ การที่ฉันพาโพรเจกต์นี้ผ่านพ้นไปได้ มันช่างเป็นความรู้สึกที่โดดเดี่ยวมาก”
วันนี้ Wonder Woman 1984 เข้าฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเราไปเรียบร้อย ได้ดูกันก่อนอเมริกา ที่จะลงโรงฉายแล้วสตรีมมิงทาง HBO MAX พร้อมกันในวันที่ 25 ธันวาคม หนังได้เสียงตอบรับดีจากนักวิจารณ์ ได้คะแนนในเว็บ rottentomatoes ไปสูงถึง 87% จากนักวิจารณ์ที่ร่วมลงคะแนน 99 คน