[รีวิว] Asphalt Burning: อารมณ์เหมือนเจอหนังโคตรบันเทิงในกระบะหนังลดราคาของเน็ตฟลิกซ์

Release Date

02/01/2021

ความยาว

100 นาที

Our score

8.5

Asphalt Burning

จุดเด่น

1. หนังครอบครัว เน้นตลกโม้ ๆ ที่มีฉากแข่งรถมันระเบิด ดูเพลินมาก

จุดสังเกต

1. หนังภาค 3 ที่ย้อมแมวเปลี่ยนชื่อมาลงเน็ตฟลิกซ์เสมือนภาคแรก แอบงง ๆ นิดหน่อย โชคดีที่ดูรู้เรื่องแม้ไม่เคยดูภาคเก่า

• บท

  7.5

• โพรดักชัน

  7.0

• การแสดง

  7.0

• ความสนุกตามแนวหนัง

  10.0

• ความคุ้มค่าการรับชม

  10.0

เรื่องย่อ รอย ตำนานนักซิ่งบนถนนแห่งนอร์เวย์ กำลังวางมือจากวงการนักซิ่งและเข้าพิธีแต่งงาน ทว่าในวันงานเขาถูกคนที่ไม่รู้จักซิ่งชนะและชิงตัวเจ้าสาวไป นี่คือเรื่องราวการเดินทางข้ามไปฝั่งเยอรมนีกับพวกพ้องสุดกวนเพื่อทวงคืนเจ้าสาวของเขา

จัดว่าเป็นของดีที่หลงในกระบะหนังของเน็ตฟลิกซ์จริง ๆ สำหรับ Asphalt Burning หนังสัญชาตินอร์เวย์ ที่เพิ่งออกฉายในบ้านเกิดไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนย้ายมาลงเน็ตฟลิกซ์รับปีใหม่เลย

ก่อนอื่นต้องบอกว่า หนังเรื่องนี้จริงแล้วมีชื่อว่า Børning 3 ใช่ครับ มันคือหนังภาค 3 ของตระกูล Børning หรือ Burning เข้าไปแล้ว แต่โชคดีว่าหนังไม่ต้องไปดูภาคก่อนหน้ามาก่อนก็ยังเข้าใจได้ แต่จะให้ดีแค่รู้เรื่องย่อภาคก่อน ๆ กับดูตัวอย่างหนังทั้ง 2 ภาคก็เพียงพอแล้ว (หรือจะไม่ดูเลยก็ได้)

เล่าแบบรวบรัด Børning เล่าเรื่องของ รอย นักขับรถซิ่งบนท้องถนน ซึ่งแน่นอนว่าผิดกฎหมาย นึกอารมณ์หนัง Fast and Furious ได้เลย ในภาคแรกเขาลงแข่งซิ่งแบบทางไกล 2,000 กิโลเมตรตัดข้ามนอร์เวย์ โดยคู่แข่งคือขาซิ่งหัวโล้นนาม ทีที ซึ่งกลายมาเป็นเพื่อนกันในภาคหลัง และยังต้องหนีการไล่ล่าจากตำรวจโคตรระห่ำอย่าง เมิร์ก ไปด้วย แต่ไม่แค่นั้นเขายังต้องคอยเลี้ยงลูกสาวกำลังโตสุดป่วนที่ชื่อ นีน่า และรับมือคู่หูช่างเครื่องสุดกวนอย่าง ดอฟเฟน และอัจฉริยะออทิสติกอย่าง นีเบกเกน อีกด้วย

เรื่องราวฟีลกู้ดครอบครัวเฮฮาที่มีฉากแข่งรถโคตรมัน จึงประสบความสำเร็จในตารางบ็อกซ์ออฟฟิศของนอร์เวย์อย่างสวยงามจนมีภาค 2 ออกมา เมื่อรอยออกจากคุกจากความผิดในภาคแรก เขาตั้งใจหันหลังให้วงการนักแข่งแต่ก็ต้องกลับมาลงแข่งขันวิ่งทางไกลกลางทุ่งหิมะในรัสเซีย (ที่ภาพอลังจากภาคแรกขึ้นไปอีก) เพราะแฟนหนุ่มของนีน่าลากลูกสาวของรอยไปลงแข่งด้วยนั่นเอง ภารกิจคุณพ่อขาซิ่งที่ต้องปรับความเข้าใจกับลูกสาวจึงต้องกลับมาอีกครั้ง

และใน Asphalt Burning จะเล่าเรื่องของรอยที่กำลังแต่งงานกับ ซิลเวีย สาวที่เขามีเจ้าตัวน้อยนาม เชลบี้ ด้วยกัน ทว่าในงานแต่งนี้เขากลับถูก โรบิน อดีตแฟนของซิลเวียมาปั่นหัวและดริฟต์ขึ้นเขาแซงไปชิงตัวเจ้าสาวไป รอยจึงต้องเดินทางข้ามประเทศไปเยอรมนีพร้อมกับนีนา ทีที และคู่หูดอฟเฟนกับนีเบกกา เพื่อท้าแข่งทวงคืนแฟนสาว และระหว่างทางก็ยังเจอสมาชิกใหม่เพิ่มความป่วนที่ชื่อรอยเหมือนกัน

ซึ่งอุปสรรคใหญ่อีกประการคือความลังเลใจว่าเขาอยากแต่งงานจริง ๆ หรือยังอาลัยการแข่งรถอยู่ ทั้งต้องปรับความเข้าใจกับซิลเวียที่เข้าใจผิดจากสถานการณ์แนวซิตคอมเช่นการที่บังเอิญมีคนชื่อ รอย ซ้ำหลายคนที่ชวนให้เข้าใจผิดเป็นต้น และปัญหาใหญ่สุดคือรถฟอร์ดมัสแตงของรอยจะเอาชนะพอร์เชของโรบินได้อย่างไร? ยังไม่นับการกลับมาไล่จับขาซิ่งด้วยรถบัสนักท่องเที่ยวของเมิร์กยอดตำรวจอีก สรุปมัน+เถิดเทิง

จัดเป็นหนังที่น่าจะถูกคนมองข้าม แต่ขอบอกว่าบันเทิงมาก การเขียนบทที่มีรายละเอียดเยอะซับซ้อนกำลังดี แม้เส้นเรื่องหลักจะดูเรียบง่ายแต่ก็คิดสถานการณ์นู่นนี่มาเสริมได้เก่ง ที่สำคัญมันไม่มีฉากไหนที่หลุดออกทะเลเลย มันตบกลับมาช่วยเส้นเรื่องหลักได้อร่อยอีกด้วย ยิ่งบรรดาความโม้นี่ มันมาก สนุกมาก นึกว่าโม้แค่นี้ฮาแล้ว ฉากต่อไปยังจะเอาหนักข้อกว่าเดิม โดยเฉพาะการหนีตำรวจในเยอรมนีที่ต้องขับรถบินข้ามแม่น้ำกันอย่างบ้าระห่ำ ได้ใจมาก

เสน่ห์อีกอย่างคือบรรดาฉากหลังที่หลากหลาย เริ่มเรื่องนอร์เวย์โชว์ถนนคดเคี้ยวกลางหุบเขาสูงใหญ่สวยแปลกตา กลางเรื่องโชว์ความอลหม่านของบ้านเมืองในเยอรมนี แถมด้วยแก๊งซิ่งเจ้าถิ่นที่โคตรจะเยอรมนีแมนมาก ๆ แล้วปิดท้ายด้วยสนามแข่งรถมืออาชีพที่เปลี่ยนบรรยากาศของการแข่งบนท้องถนนมาโชว์การอัดกันแบบรถกรังปรีซ์ คือเซอร์วิสแฟนเยอะมาก

ข้อเสียของหนังที่มี หลัก ๆ ก็คงเป็นเรื่องที่เป็นหนังภาค 3 แล้วไม่ค่อยมีจังหวะการปูตัวละครเท่าไหร่ ถ้ามองข้ามช่วงต้นหนังว่าใครเป็นใครบ้างไปได้สักสิบนาที ที่เหลือคือเริ่มปรับตัวได้ถึงจะเพลิน ยิ่งถ้าเริ่มผูกพันกับตัวละครแล้วด้วยนะ จะยิ่งรักหนังเรื่องนี้ไปเลย เพราะมันเต็มไปด้วยตัวดีที่แสบป่วนและตัวร้ายที่น่ารัก เกลียดตัวไหนไม่ลงจริง ๆ เป็นหนังที่ฮาอบอุ่นใจดีมาก

สรุป เป็นหนังที่ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรกับมัน แต่ดูสนุกและคลายเครียดมาก เทียบเหมือนเจอหนังเกรดบีที่โคตรดีหลงอยู่ในกองกระบะหนังขายเลหลังเลยล่ะ อารมณ์นี้

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส