นอกจากเสียงชื่นชมกับความสมบูรณ์ของเรื่องราวและวิสัยทัศน์แล้ว ‘Zack Snyder’s Justice League’ ยังสร้างความฉงนให้กับผู้ชมด้วยสัดส่วนภาพแปลกตาและความยาวของหนังบนเอชบีโอ โก (HBO GO) ก็ดันขึ้นแค่ 3 ชั่วโมง 50 นาทีเสียด้วย Beartai Buzz จึงอาสาหาคำตอบมาให้ทุกคนแล้ว
ทำไมภาพไม่เต็มจอ ?
ย้อนกลับไปในงานจัสทิซ คอน (Justice Con) วันที่ 26 กรกฎาคมปีก่อน แซ็ก สไนเดอร์ (Zack Snyder) ได้ประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนว่าความตั้งใจแรกของเขาคือการนำหนัง ‘Justice League’ ของเขาฉายบนจอไอแมกซ์ (IMAX) ซึ่งเขาได้ไอเดียในการทำสัดส่วนภาพ 1.33:1 นี้จากการกลับไปดู ‘Batman v Superman’ ฉากที่ถ่ายด้วยกล้องไอแมกซ์แล้วประทับใจมากถึงกับเอ่ยว่า “ผมหลงใหลกับสัดส่วนภาพจัตุรัสขนาดยักษ์”
แต่ไม่ใช่แค่ความเอาแต่ใจตามประสาผู้กำกับเท่านั้นสไนเดอร์ยังสามารถให้เหตุผลในเชิงลึกได้อีก “เมื่อเราจะถ่ายทอดความเป็นซูเปอร์ฮีโรผมคิดว่าการเห็นภาพในแนวดิ่งย่อมถ่ายทอดรูปลักษณ์ได้มากกว่า แม้ซูเปอร์แมนตอนบินอาจจะเหมาะแก่การชมเป็นภาพแนวนอนแต่เวลาส่วนใหญ่ที่เขายืนนั่นย่อมเหมาะกับภาพที่เป็นแนวดิ่งมากกว่า”
ซึ่งทางเอชบีโอ แม็กซ์ (HBO MAX) ก็ตั้งใจรักษาความคิดสร้างสรรค์ด้านงานภาพของสไนเดอร์ด้วยการขึ้นคำอธิบายไว้ก่อนหนังเริ่มด้วยข้อความว่าหนังเรื่องนี้ถูกนำเสนอภาพในอัตราส่วน 1.33:1 เพื่อรักษาไว้ซึ่งความคิดสร้างสรรค์ตามวิสัยทัศน์ของ แซ็ก สไนเดอร์ ซึ่งข้อมูลดังที่กล่าวมาก็ได้รับการยืนยันจาก ฟาเบียน แวกเนอร์ (Fabian Wagner) ผู้กำกับภาพของหนังว่าอัตราส่วนภาพดังกล่าวเป็นการตัดสินใจของสไนเดอร์แต่แรกเริ่มจริง
และแน่นอนว่าการที่หนัง ‘Justice League’ ออกฉายในปี 2017 ด้วยสัดส่วนภาพ 1.78:1 ย่อมหมายถึงการปู้ยี้ปู้ยำคอนเซปต์ทั้งหมดที่สไนเดอร์ได้วางไว้ตั้งแต่ต้นทั้งการครอปตัดภาพบนล่างและมุมมองของฮีโร แต่กระนั้นเมื่อมันเดินทางมาสู่การฉายผ่านระบบสตรีมมิงและเมื่อรับชมด้วยโทรทัศน์ในปัจจุบันที่เป็นแบบไวด์สกรีน (Widescreen) เลยทำให้เราไม่คุ้นเคยเหมือนอัตราส่วน 2.39:1 และ 1.85:1 ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่เราคุ้นสายตามากกว่า แต่สมมติมันได้ไปฉายโรงธรรมดาก็เป็นไปได้ที่โรงหนังจะปิดม่าน 2 ด้านของจอเพื่อปกปิดขอบดำซ้ายขวาบนจอเพื่อลดความไม่สบายตาครับ
ความยาวหนังทำไมไม่ถึง 4 ชั่วโมง 2 นาทีบน HBO GO ?
แม้ข้อมูลจะระบุว่าหนังยาวถึง 242 นาทีหรือร่วม 4 ชั่วโมง 2 นาทีแต่เมื่อผู้ชมหลายแห่งทั่วโลกเปิดชมหนังทางแอป HBO GO กลับเห็นแถบขึ้น 3 ชั่วโมง 50 นาทีแทน ซึ่งตรงนี้คงต้องกลับไปที่การถ่ายทำของ ‘Justice League’ ที่ใช้ฟิล์ม 35 มม.ถ่ายด้วยความเร็ว 24 เฟรมต่อ 1 วินาทีซึ่งเปรียบง่าย ๆ ว่าใน 1 วินาทีเราจะได้เห็นภาพนิ่ง 24 ภาพต่อเนื่องกันจนเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหว
และเมื่อหนังได้ลง HBO MAX ทางโทรทัศน์ในอเมริกาปัจจัยเรื่องเฟรมเรตหรือเรียกอย่างง่าย ๆ ว่าความเร็วในการฉายภาพจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสั้นยาวของหนังกล่าวคือการแพร่ภาพของโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกาจะเป็นระบบ NTSC (The National Television System Committee) ซึ่งจะแพร่ภาพที่ความเร็วประมาณ 23.976 เฟรมต่อวินาทีซึ่งใกล้เคียงกับการถ่ายทำภาพยนตร์ทั่วไปที่สุดทำให้ความยาวของหนังทั้งเรื่องเมื่อฉายด้วยความเร็วดังกล่าวเลยออกมา 4 ชั่วโมง 2 นาทีพอดี
แต่สำหรับเมืองไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลกจะแพร่ภาพในระบบ PAL (Phase Alternating Line) ที่จะแพร่ภาพที่ความเร็ว 25 เฟรมต่อ 1 วินาทีซึ่งมีผลทำให้หนังฉายได้เร็วขึ้น 10 – 12 นาทีเลยเป็นผลให้คนไทยได้ชม ‘Zack Snyder’s Justice League’ ที่ความยาว 3 ชั่วโมง 50 นาทีดังที่กล่าวไปแล้วนั่นเอง
อ้างอิง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส