ทั้งที่รู้ข้างหน้าคือปากเหว ถ้าหากยิ่งฝืนพุ่งไปร่างกายคงเละแหลกเหลว…
ตั้งแต่เทรลเลอร์ออกมาจนก่อนดูยอมรับว่าดูแคลนหนังเรื่องนี้ไว้พอสมควร ด้วยเหตุผลอย่างว่า
- มันเคยมีสารคดีเนื่องเดียวกันได้รับออสการ์ไปเมื่อปี 2008 เรื่อง Man on Wire ซึ่งทำออกมาได้ดีมาก จากเรื่องจริงเดียวกันยังไงๆ หนังคนแสดงมันก็ไม่ดีเท่าหนังสารคดีได้หรอก
- โอ่ย แค่เนื้อหาว่าคนกลุ่มหนึ่งพยายามจะเดินไต่ลวดข้ามระหว่างตึกเวิร์ลเทรด มันจะเอามาทำหนังยาวตั้งสองชั่วโมงได้ไง จะไปเอาไรมายืดได้ขนาดนั้น
- คงเอามาขายพวกอเมริกันชนรำลึกถึงตึกเวิร์ลเทรดล่ะ คนไทยบ้านๆอย่างเราคงไม่อินล่ะ
เอาเป็นว่ามีหลายสาเหตุเลยที่ทำให้คิดว่าไปหาหนังสารคดี Man on Wire มาดูแทนน่าจะดีกว่า ….จนกระทั่งหนังเข้า เอ่ะคะแนนเมืองนอกไหงดีจัง อืมจะว่าไปหรือไม่ควรปรามาสผู้กำกับใหญ่อย่าง Robert Zemeckis กันนะ ว่างๆลองไปเสี่ยงดูหน่อยละกันคงไม่อะไร ถือว่าซ้อมก่อนดูหนังสารคดีนั่นด้วย
ผลปรากฏว่านั่งเกร็งมือจิกเบาะ (ซึ่งรู้เนื้อหาเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่แล้วล่ะนะ รู้ทั้งรู้ก็ลุ้นอยู่ดี) ได้ยินเสียงกลั้นลมหายใจอย่างลุ้นสุดชีวิตและเผลอร้องด้วยความหวาดเสียวจากเพื่อนร่วมโรงเป็นระยะๆ
และที่สำคัญเลยคือ ทำให้ตัวเองรู้สึกถึงคำว่ามนต์มายาของภาพยนตร์อีกครั้ง
ต้องยอมรับว่าแม้จะไม่ชอบการเอาตัวละครมาเล่าเรื่องอย่างที่หนังทำ แต่การที่ผู้สร้างแต่งเติมและเลือกเฟ้นภาพได้หลากหลายกว่าสารคดีที่ใช้ภาพของจริง โดยเฉพาะพวกภาพมุมกดลงไปเห็นพื้นห่างออกไปเป็นร้อยๆเมตรนี่ (เวอร์ชั่น IMAX 3D นี่คงสำแดงพลังเสียวสุดๆเลย) มันก็สร้างพลังให้เราลุ้นทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าเรื่องจริงไอ้ตัวเอกนี่มันรอดแน่ๆ (ซึ่งส่วนหนึ่งต้องให้เครดิตกับเรื่องจริงที่เหมือนกับนิยายและสนุกมากๆอยู่แล้วด้วย-โคตรเมจิกโมเม้นท์แบบไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นถี่ๆกันในเวลาแค่ข้ามคืน)
การแสดงและแคสติ้งนักแสดงทำได้ดี โจเซฟเล่นเป็นหนุ่มนักไต่ลวดชาวฝรั่งเศสอย่าง ฟิลิป เปอติต ที่ใฝ่ฝันจะเดินข้ามตึกคู่ที่สูงสุดในโลกในปี 1974 อย่างเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ได้อย่างแนบเนียน ด้วยการดัดสำเนียงสไตล์คนฝรั่งเศสได้อย่างกลมกลืน ถ้าจะติก็เรื่องความล้นของการแสดงของโจเซฟที่ออกไปทางมิวสิคอลหรือบรอดเวย์มากไปหน่อย (ไม่รู้เป็นความตั้งใจของผู้สร้างไหมนะ) แต่ก็พอก้อมแก้มๆไปได้ว่าเขาเป็นนักแสดงข้างถนนคงไม่แปลกถ้าจะติดวิธีการแสดงออกแบบละครใบ้มา ส่วนตัวละครอื่นๆเอาไปเทียบกับตัวจริงก็ถือว่าใกล้เคียงและเล่นได้พอดีน่าเชื่อถือ
หนังเล่าได้สนุกตั้งแต่ที่มาที่ไปของฟิลิปตั้งแต่เด็ก การค่อยๆเก็บเลเวลและสร้างปาร์ตี้เพื่อไปทำภารกิจก็น่าสนใจ และแฝงคำสอนดีๆรวมถึงอารมณ์ฟีลกู้ดซาบซึ้ง หยอดมุกพอขบขัน และเพลิดเพลินดูสนุกจนหนังจบ เรียกว่าเอาอยู่ทั้งๆที่อย่างที่บอกส่วนสำคัญจริงๆมันแค่จะเดินข้ามตึกนั่นล่ะจะมีอะไรมากมายได้ไง แต่หนังก็ทำให้มีอะไรได้ (ซึ่งก็ต้องไปขอบคุณเรื่องจริงอีกครั้งอย่างที่บอก เว่อยังกะนิยายสุดๆ)
สรุป หนังเล่าสนุก คนชอบแนวดราม่าเรื่องจริง สร้างแรงบันดาลใจว่าคนเราสร้างปาฏิหาริย์ได้อย่าย่อท้ออย่าละฝัน อะไรแนวๆนี้น่าจะไม่ควรพลาด คนทั่วๆไปคิดว่าดูได้สนุกเช่นกัน ใครดูแล้วควรไปหาหนังสารคดีเรื่อง Man on Wire ดูร่วมด้วยอย่างยิ่งยวด แล้วจะเห็นว่าชีวิตจริงยิ่งกว่าละครนี่มันจริงๆนะ