“เจ้าชายน้อย”หรือชื่อฝรั่งเศสต้นฉบับว่า “le petie prince” เป็นวรรณกรรมเยาวชน ในเชิงเสียดสีสังคม ผลงานประพันธ์ของ อ็องตวน เดอ แซ็งแตกซูว์เปรี (ไหนอ่านทวนชื่อให้ฟังซิ) ออกจำหน่ายครั้งแรกในปี 1943 หนังสือได้รับความนิยมจนถูกแปลไป 190 ภาษา มียอดจำหน่ายทั่วโลกถึง 80 ล้านเล่ม ขึ้นแท่นวรรณกรรมอมตะ ถูกดัดแปลงไปเป็นสื่อในหลายรูปแบบทั้งการ์ตูน ละครเวที และภาพยนตร์หลายเวอร์ชั่น เวอร์ชั่นล่าสุดในปีนี้ เป็นผลงานของบริษัทการ์ตูนในฝรั่งเศส ที่ดึงเอาดาราฮอลลีวู้ดนับสิบมาพากย์เสียง ถือว่าผู้สร้างมีพาวเวอร์พอดูในการดึงดาราแนวหน้ามาร่วมงานได้ แม้บางตัวละครจะออกมาแค่ไม่กี่นาทีเอง มีทั้ง เจฟฟ์ บริดเจ็ส,มาริยง โกติยาร์ด,ราเชล แม็คอดัมส์,พอล จิอาแมตติ,เบนิซิโอ เดลโตโร,เจมส์ ฟรานโค่ และ พอล รัดด์ หนูน้อย แม็คเคนซี ฟอย มาพากย์เสียงเด็กสาว ตัวละครหลักของเรื่องได้น่ารักมาก
“เจ้าชายน้อย” ต้นฉบับเป็นเรื่องราวแฟนตาซีในโลกสมมติ เจ้าชายน้อยอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเขาหน่อยเดียวเอง วันหนึ่งเจ้าชายน้อยก็เกาะฝูงนกอพยพไปเยี่ยมผู้คนในแต่ละดาว ได้เจอทั้งพระราชา นักธุรกิจ คนดูก็ได้รับข้อคิดที่แทรกอยู่ในบทสนทนา ที่ผู้เขียนจงใจสื่อในเชิงกระทบกระเทียบสังคมมนุษย์ เป็นข้อคิดที่ไม่ล้าสมัยแม้จะเขียนมากว่า 70 ปีแล้ว ในเวอร์ชั่นปี 2015 นี้ เรื่องราวถูกดัดแปลงให้ตัวเอกเป็นเด็กหญิงวัย 9 ขวบ เธออาศัยอยู่กับแม่จอมเจ้ากี้เจ้าการ เธอเติบโตมาในสังคมแก่งแย่งชิงดี แม่จึงหมายมั่นปั้นมือหวังให้เธอได้เป็นชนชั้นผู้นำในสังคม เคี่ยวเข็ญให้เธอมุ่งมั่นในการเรียนให้ได้เข้าเรียนในโรงเรียนชั้นนำ แต่แล้วเด็กหญิงก็ได้รู้จักกับชายแก่ข้างบ้าน ชายแก่ได้เล่าเรื่องราวอดีตวัยหนุ่มที่เคยเป็นนักบินแล้วได้ไปรู้จักกับเจ้าชายน้อย สาวน้อยสนใจในตัวตนเจ้าชายน้อยจนถลำลึก ขัดคำสั่งแม่ ไม่สนใจในเรื่องเรียน และวางแผนจะออกผจญภัยไปตามหาเจ้าชายน้อยด้วยตัวเธอเอง
หนังถูกสร้างโดยบริษัทอนิเมชั่น สัญชาติฝรั่งเศส สร้างภาพลักษณ์ตัวละครออกมาได้น่ารัก ลงรายละเอียดแม้กระทั่งจุดเล็กๆ น้อยๆ ในฉากหลัง ภาพออกมาสวยงามจนเสมือนจริง สร้างเอกลักษณ์ของตัวเองได้และดูแปลกต่างจากภาพการ์ตูนของฮอลลีวู้ด หนังใช้โทนสีคุมบรรยากาศเรื่องออกมาอย่างเห็นได้ชัด บ้านเมืองในเรื่องรวมถึงเสื้อผ้าล้วนเป็นสีเทาขาวทั้งสิ้น ให้ดูว่าโลกมนุษย์เต็มไปด้วยความจำเจขาดสีสัน แต่พอผ่านรั้วบ้านของคุณปู่นักบินล้วนเต็มไปด้วยความสดชื่อของต้นไม้แสงแดด และสีสันจากบรรดาของเล่นและแม้แต่ชุดเหลืองสดของคุณปู่นักบินเอง พอเป็นเรื่องราวของโลกเจ้าชายน้อยหนังเปลี่ยนแนวมาสร้างภาพด้วย โมเดลกระดาษ แล้วถ่ายทำด้วยเทคนิคสต๊อปโมชั่น เป็นภาพที่ผ่านการสร้างสรรค์ออกมาได้แปลกตาและสวยงามน่าชื่นชมในความอุตสาหะของทีมงาน
หนังเหมาะสำหรับคนที่เป็นแฟนหนังสือ “เจ้าชายน้อย” เท่านั้น เพราะหนังอัดแน่นไปด้วยสาระปรัชญาผ่านภาพและบทสนทนาที่แฝงข้อคิดที่ต้องตีความตามไปตลอด คนที่เคยอ่านจะเข้าถึง “สาร” และเข้าใจได้ดีกว่าเมื่อมาดูเวอร์ชั่นภาพยนตร์ หนังมีความเป็นแฟนตาซีมากผสานโลกในจินตนาการกับโลกจริงแบบไม่มีรอยต่อและไม่มีคำอธิบาย
ห้ามพาเด็กไปดูเด็ดขาด
เพราะนอกจากจะต้องตีความให้ตัวเองเข้าใจแล้วไม่งั้นต้องคิดคำมาอธิบายลูกหลานอีก หนังขยายความจากหนังสืออย่างเคารพ และไม่ได้มุ่งเน้นความบันเทิงนะครับ บรรยากาศ 100 นาทีในโรงหนังเงียบกริ๊บ ไม่มีแม้แต่มุกเดียวที่จะใส่ลงมาให้คนดูได้หัวเราะไปกับหนังเลย ตรงๆ ก็คือไม่ใช่”หนังสนุก” ไม่ได้สร้างมาเอาใจตลาด แต่กลับกันนี่เป็นหนังที่นักวิจารณ์ชื่นชมและทุกสื่อพร้อมใจกันเทคะแนนเต็มให้เหตุเพราะคุณค่าสาระที่อยู่ในตัวหนัง หนังใช้ทุนสร้างไป 77 ล้านเหรียญ ออกฉายในฝรั่งเศสตั้งแต่ กรกฎาคม แล้วทยอยฉายไปทีละประเทศ ค่อยๆ เก็บเล็กผสมน้อยจนได้ 50 กว่าล้านละ พอเข้าฉายในอเมริกาคงได้ทุนคืนล่ะมั้ง