american ultra เป็นชื่อโครงการของ CIA ที่เอานักโทษสถานเบามาฝึกให้เป็นนักฆ่า แต่โครงการโดนล้มเลิก ไมค์ โฮเวลล์ หนึ่งในนักโทษที่ประสบความสำเร็จที่สุดโดนล้างสมองแล้วส่งไปใช้ชีวิตตามปรกติ เอเดรียน เยตส์ ผู้บริหารคนใหม่ของ CIA ต้องการถอนรากถอนโคนโครงการนี้ ด้วยการส่งหน่วยสังหารไปกำจัด ไมค์
แมกซ์ แลนดิส มือเขียนบทหน้าใหม่ ที่เคยมีผลงานดังอย่าง chronicle (2012) เขียนเรื่องราวของ ไมค์ โดยมีแรงบันดาลใจมาจากสายลับ เจสัน บอร์น แต่เป็น บอร์น เวอร์ชั่นขี้ยาเพราะตัวไมค์ นี่เป็นพนักงานประจำมินิมาร์ทในเวสต์เวอร์จิเนีย ที่ใช้เวลาว่างเขียนการ์ตูนแล้วก็ดูดปุ๊นมึน ๆ ทั้งวัน เจสซี่ ตั้งใจกับบทนี้เลยไปอาศัยอยู่กับญาติของเขาที่ชอบดูดปุ๊นเพื่อศึกษาอากัปกิริยาท่าทาง หนังยังแฝงความเคารพหนัง บอร์น ด้วยการตั้งชื่อเมืองว่า ไลแมน ตามชื่อผู้กำกับ ดั๊ก ไลแมน จาก The Bourne Identity (2002)
เริ่มเรื่องมาได้ครึ่งชั่วโมง ความลับตัวตนของไมค์ ก็ถูกเปิดเผยทักษะนักฆ่าถูกปลดปล่อยออกมาป้องกันตัว แต่ความทรงจำยังไม่คืน ส่วนสนุกของหนังก็คือ ทักษะการฆ่าแบบโหด ๆ ของ ไมค์เนี่ยละ ที่ประยุกต์สิ่งของรอบตัวมาเป็นอาวุธได้หมดแม้กระทั่งช้อนกินข้าว แล้ววิธีการฆ่าก็ค่อนข้างโหดยิงใส่แสกหน้า อีโต้สับหัว ค้อนทุบกบาล แต่ภาพไม่โหดนะให้เห็นแค่เลือดกระฉูด จากนั้นหนังก็เดินหน้าแบบแอ็คชั่นจัดหนัก สาดกระสุนกันว่อน ระเบิดตูมตาม แถมหยอดมุกเรี่ยไร่รายทางพอหัวเราะได้ตามธีมหนังที่ตั้งใจให้เป็นคอมมีดี้แต่ก็ไม่ถึงกับมีมุกแรง ๆ แต่หนังที่มาตามฟอร์มนี้ก็เดินเรื่องจาก 1 ไป 2 แค่นั้นเป็นพล็อตที่เรารู้ตอนจบกันอยู่แล้วว่าลงเอยยังไง แต่ก็เสพเรื่องราวระหว่างทางไปได้เรื่อย ๆ ไม่ถึงกับง่วง น่าเบื่อ
เจสซี ไอเซนเบิร์ก ดูเหมาะกับบท เป็นขี้ยาที่ดูป้อแป้ไร้พิษสงแต่กลับแฝงความเป็นนักฆ่าจอมโหดอยู่ภายใน เจสซี่ เล่นฉากต่อสู้ดูคล่องแคล่วรุนแรงดี เรื่องนี้ต้องชื่นชม โรเบิร์ต อลอนโซ ผู้รับผิดชอบออกแบบท่าต่อสู้ผู้มีประสบการณ์งานสตั๊นท์มาถึง 132 เรื่อง
คริสเต็น สจ๊วต มีฉากโชว์สวยเยอะมาก โชว์โทรมก็เยอะหัวกระเซิงเลือดท่วมร่างอยู่ครึ่งเรื่อง ก็ดีที่ได้เห็นน้องคริสเต็น ในบทบาทอื่น ๆ ที่เราติดภาพงัวเงียทั้งเรื่องจาก twilight บ้าง นอกจากนี้ยังมี โทเฟอร์ เกรซ และ จอห์น ลีไกวเซโม มาสมทบ วอลตัน ก๊อกกินส์ ดาราตัวประกอบหน้าคุ้นจากหลายเรื่องมารับบท ลาฟเตอร์ นักฆ่าโรคจิตที่เปิดตัวมาเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่น คาแรคเตอร์โดดเด่น ดูร้ายและเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากังวลสำหรับ ไมค์ เสียดายที่หนังไม่ใส่นักฆ่าตัวประหลาดแบบนี้มาเยอะ ๆ หน่อยให้เป็นการบ้านยาก ๆ ของไมค์ ที่จะปราบพวกนี้
หนังดูได้เพลิน ๆ ไม่แย่ แต่ก็ไม่ถึงขั้นเชียร์ว่า”ต้องดู” แต่ก็ยังแปลกใจนะว่าทำไมหนังถึงเจ๊งได้เละเทะขนาดนี้ หนังออกฉายตั้งแต่ สิงหาคม ทุน 28 ล้าน ได้กลับมาแค่ 15 ล้านเอง