เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมาทาง beartai Buzz ได้รับเกียรติจากเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) สัมภาษณ์ 2 นักแสดงฮอลลีวูดแถวหน้าทั้ง กัล กาด็อต (Gal Gadot) และ ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) ถึง ‘Red Notice’ ภาพยนตร์แอ็กชัน โจรกรรมเรื่องล่าสุดทางเน็ตฟลิกซ์ที่จะได้ลงจอให้ชมกันวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ แต่เบื้องหลังการทำงานจะมีอะไรสนุก ๆ บ้างและพวกเขาจะเอาตัวละครจากหนังเรื่องไหนมาครอสโอเวอร์ไปดูกันเลย
พวกคุณได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ในหนังเรื่องนี้ไหม
กัล กาด็อต: ฉันเคยเต้นรำในหนังมาก่อนนะคะแต่ไม่เคยแบบเต้นไปด้วยแล้วมีบทพูดด้วย ซึ่งคราวนี้ฉันต้องทำทั้งสองอย่างเลยรู้สึกว่ามันท้าทายมากเลยละค่ะ (เสียงดเวยน์ จอห์นสันหัวเราะ) แม้จะเหนื่อยจนหอบทุกครั้งแต่มันสนุกมากเลยค่ะ
ดเวย์น จอห์นสัน: ส่วนผมไม่เคยเต้นรำจริงจังมาก่อนครับ พอ รอว์สัน มาร์แชล เธอร์เบอร์ ผู้กำกับและเขียนบทของเราต้องการสร้างฉากเต้นรำที่สวยงามระหว่างผมกับกัล ให้มีทั้งความเซ็กซี่ มีเสน่ห์และเห็นเคมีีระหว่างตัวละคร ในขณะเดียวกันก็ต้องทำให้เห็นเจตนาของตัวละครผมที่อยากจับเธอเข้าคุกด้วย เหมือนคนดีคนเลวอยู่ด้วยกันแต่ ในกรณีนี้คือพระเอกกับสาวแสบที่ต้องมาเต้นรำด้วยกันเหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะบึ้มได้ตลอด มันเลยเจ๋งมาก เพราะผมไม่เคยเต้นรำมาก่อนและผมมีคู่เต้นที่สุดยอดมากอย่างกัล
กาด็อต: เช่นกันค่ะ
จอห์นสัน: มันยอดเยี่ยมมากครับ
‘Red Notice’ มีทั้งนักมวยปล้ำ ซูเปอร์ฮีโรดีซี และซูเปอร์ฮีโรมาร์เวล ซึ่งดูเป็นทีมที่เจ๋งมากเวลาอยู่ในหนัง แต่สำหรับพวกคุณแล้วอะไรคือพลังที่ขับเคลื่อนให้ทีมของพวกคุณทำงานในหนังได้อย่างเข้าขา
กาด็อต: ความสนุกล้วน ๆ ค่ะ (หัวเราะดังลั่น) ความท้าทายทัี่สุดในการทำงานของฉันคือทำยังไงก็ได้ให้ไม่ต้องเทคเยอะที่สุดค่ะ อย่างไรอัน โอ้ไรอัน (เสียงดเวย์น จอห์นสันหัวเราะ) เขาหาทางด้นสดมุกตลกต่าง ๆ จนเรากลั้นหัวเราะไม่ได้เลยค่ะ มันสนุกมากจริง ๆ
จอห์นสััน: เหมือนกันครับ อันนี้ผมยอมรับผิดด้วยเช่นกัน ไรอันเป็นคนที่แน่วแน่ในการแสดงมาก ๆ เขาแทบไม่หลุดจากคาแรกเตอร์เลย แต่ผมกับกัลนี่….
กาด็อต: เรานี่หลุดหัวเราะยาว ๆ เลยค่ะ (หัวเราะ)
จอห์นสัน: พวกเราหลุดฮากันลั่นแล้วต้องเทคตลอดเลยครับ หลายเทคด้วย
ในเอกสารเบื้่องหลังงานสร้าง (Production Note) บอกว่าพวกคุณตอบตกลงรับบททันที ช่วยแชร์กับเราหน่อยได้ไหมว่าคุณถูกใจอะไรในหนังเรื่องนี้
กาด็อต: ฉันรักในเรื่องราวและทีมงานในหนังเรื่องนี้มากค่ะ อย่างฉันกับดเวย์นเคยเจอกันเมื่อ 10 ปีที่แล้วจากแฟรนไชส์หนัง ‘Fast and Furious’ และหาโอกาสกลับมาร่วมงานกันเสมอ แล้วหนังเรื่องนี้ก็เหมาะเจาะมากค่ะ และรอว์สัน มาร์แชล เธอร์เบอร์ ก็เป็นผู้กำกับที่ยอดเยี่ยมมาก เขาเขียนบทหนังที่ทั้งน่าตื่นเต้น เปี่ยมอารมณ์ขัน เต็มไปด้วยลูกล่อลูกชนหักมุมไปมาฉันอ่านแล้วชอบมากค่ะ
จอห์นสัน: เช่นกันครับ รอว์สันมาพิตช์ไอเดียนี้กับผม (ในฐานะโปรดิวเซอร์) และกัลด้วย ไอเดียของเขาที่นำมาเสนอมันยอดเยี่ยมมาก ผมเลยตอบตกลงและแน่นอนว่าผมอยากร่วมงานกับกัลอีกครั้ง และในปัจจุบันเธอก็เป็นนักแสดงแถวหน้าคนนึงของฮอลลีวูดเหมือนที่เธอเคยตั้งเป้าหมายเมื่อ 10 ปีก่อนใน ‘Fast and Furious’ ที่เราทำงานด้วยกัน
กาด็อต: ฉันพูดถูกใช่ไหมละ (หัวเราะ)
จอห์นสัน: เอาจริงผมจำไม่ได้ว่าเธอพูดคำไหนออกมาเป๊ะ ๆ หรอกนะครับ (หัวเราะ)
กาด็อต: โอ๊ยตลกจัง (หัวเราะ)
จอห์นสัน: นั่นล่ะครับ แล้วเราก็อยู่ตรงจุดนี้ด้วยกัน (ทั้งคู่หัวเราะกันลั่น)
มีฉากแอ็กชันฉากไหนที่คุณรู้สึกว่ามันท้าทายบ้างไหมและมีใครบาดเจ็บบ้างหรือเปล่า
กาด็อต: โอ้ไม่..
จอห์นสัน: จริง ๆ กัลได้แผลจากมีดปาดเนยครับเลือดกระฉูดเลยล่ะ
กาด็อต: จริง ๆ แล้วมันเป็นเหตุสุดวิสัยที่เราทำตัวเองบาดเจ็บน่ะค่ะ แต่ก็ใช่ค่ะมีอุบัติเหตุในกองถ่ายฉันเสียเลือดเยอะมากแต่ฉันก็ผ่านมันมาได้ เป็นตอนที่ฉันเตะกุญแจมือแล้วสองหนุ่ม (จอห์นสันกับเรย์โนลด์ส) กำลังฟัดกันในฉากปรากฎว่ามันบาดหัวแม่เท้าฉันเป็นแผลเลยค่ะ แต่มันได้ผลนะ ภาพออกมาสวยสดงดงามเลยแหละ
จอห์นสัน: ใช่ เลือดนองเต็มพื้นเลย พวกเราต้องกลั้นหัวเราะกันใหญ่เลย (ทั้งคู่หัวเราะดังลั่น)
กาด็อต: ฉันเตะสวยใช่ไหมล่ะ
ทุกครั้งที่พวกคุณปรากฎตัวบนจอพวกคุณดูมีรัศมีของความเป็นซุปเปอร์สตาร์อยู่เต็ม ๆ ทีนี้เมื่อต้องมารับบทบาทในหนังคุณจัดการกับความเป็นซูเปอร์สตาร์ของคุณกับคาแรกเตอร์ที่ได้รับยังไง และคาดหวังไหมว่างานแต่ละงานจะส่งผลกับชื่อเสียงของตัวเอง
จอห์นสัน: ผมอาจจะตีความคำถามของคุณในแง่ของความกดดันในการทำงานนะครับ ซึ่งมันก็แล้วแต่ทางที่เราเลือกครับ เพราะไม่ว่าสคริปต์เป็นยังไงคุณต้องรู้สึกรักมันเก็บมันไปฝันหรือมีแพชชันที่อยากจะตื่นขึ้นมาทำงานให้ได้ ผมฟังที่คุณถามแล้วรู้สึกว่าคำถามมันมีแง่มุมที่น่าสนใจนะครับ เป็นคำถามที่ฉลาดแต่เวลาตอบต้องคิดเยอะเลย ผมกับกัลโชคดีที่ได้แสดงบทที่เป็นไอคอนมาก ๆ นับเป็นพรอันประเสริฐในชีวิตเลย อย่างเช่น วันเดอร์วูเมนที่ทั้งมีความหมายและเป็นภาพจำซึ่งมันหาบทที่เหนือกว่านี้ได้ยากเราเลยต้องหาบทอื่นมาท้าทายตัวเองครับ
กาด็อต: ฉันเห็นด้วยกับดเวย์นนะคะ ฉันขอน้อมนำคำสอนของปราชญ์อาวุโสท่านนี้ (หัวเราะ) ฉันเห็นด้วยเรื่องทางเลือกของนักแสดง และอีกอย่างคือการที่พยายามจะไม่นึกถึงแต่ความสำเร็จของมันแต่ให้เชื่อในกระบวนการทำงาน เชื่อว่างานที่ทำต้องออกมาดี เป้าหมายของพวกเราคือสร้างความบันเทิงและความสุขให้ผู้ชมค่ะ หรือเป็นแรงบันดาลใจให้คนดูสิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เป็นแรงผลักดันของฉันค่ะ
หากจะมีตัวละครจากหนังเรื่องอื่นมาครอสโอเวอร์กับ ‘Red Notice’ คุณคิดว่าควรเป็นตัวละครไหน
กาด็อต: ออสติน พาวเวอร์ ค่ะ
จอห์นสัน: ก็ดีนะ
กาด็อต: (หัวเราะ) มันขึ้นอยู่กับโทนหนังที่เราจะทำค่ะ ถ้าเป็นหนังตลกก็ควรเป็นออสติน พาวเวอร์ แต่ถ้าจะไปทางดราม่าระทึกขวัญฉันนึกถึงเจมส์ บอนด์อาจจะเป็นรุ่นเก่าไปเลยค่ะ (หันไปถามจอห์นสัน) แล้วคุณล่ะ
จอห์นสัน: หากเราได้ทำ ‘Red Notice’ ภาค 2 ในโทนเดิม ผมว่าจะเอา เควิน ฮาร์ต (Kevin Hart) มาอยู่ในหนังครับ ผมจะได้ฆ่าเขาตั้งแต่ 2 นาทีแรก (หัวเราะ)
กาด็อต: เห็นมั้ยสื่อฮาตรึมเลย เรามาถูกทางแล้วดเวย์น (หัวเราะ)
อยากให้ทั้งคู่เล่าถึงประสบการณ์ความประทับใจ ไม่ว่าจะระหว่างถ่ายทำหรือฉากที่ลืมไม่ลง
กาด็อต: อาจจะไม่ใช่ฉากในหนังหรือเบื้องหลังการถ่ายทำแต่เป็นการได้ถ่ายหนังกับดเวย์นเป็นเรื่องแรกและเป็นช่วงที่เกิดโรคระบาดค่ะ และเราเป็นหนึ่งในหนังเรื่องแรก ๆ ที่ได้มีโอกาสกลับมาถ่ายทำในสถานที่จริง ก่อนจะได้ฉีดวัคซีนและมีมาตรการต่าง ๆ ออกมา ซึ่งมันทำให้เห็นถึงความตั้งใจ ความใส่ใจ ที่ทุกคนมีให้กับงานทั้งนักแสดงและทีมงานที่ต้องกลับมาเสี่ยงทำงานในขณะที่โรคระบาดยังอยู่เหนือความเข้าใจของเรามันทำให้ฉันซาบซึ้งใจมากค่ะ ทำให้เห็นถึงความตั้งใจและความรักในศิลปะการเล่าเรื่องผ่านภาพยนตร์ที่ทุกคนจับมือกันสร้างหนังเรื่องนี้จนออกมาเสร็จสมบูรณ์ค่ะ
จอห์นสัน: โควิดสร้างความท้าทายให้ทุกคนจริง ๆ ครับ มันทำให้การทำงานเปลี่ยนไปและเราต้องปรับตัว การได้เห็นคนนับพันคนพร้อมใจกันสร้างหนังดี ๆ ด้วยกันและพาหนังออกมาสู่สายตาผู้ชม ดังนั้นการได้มานั่งตรงนี้พร้อมหนังที่เสร็จสมบูรณ์เลยกลายเป็นช่วงเวลาท่ี่น่าตื่นเต้นมากครับ
‘Red Notice’ จะพร้อมให้รับชมพร้อมกันวันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายนนี้ทางเน็ตฟลิกซ์
เครดิตภาพ: Getty Images for NETFLIX
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส