หลังจากมาร์เวลและโซนี่ปล่อยตัวอย่าง Spider-Man: No Way Home เวอร์ชันล่าสุด ฉบับเต็มยาว 3 นาที ออกมาได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็สร้างเสียงฮือฮาไปทั่วโลก โดยเฉพาะแฟน ๆ เดนตายของมาร์เวล ที่ตื่นเต้นกับพล็อตของภาคนี้ที่ว่าด้วยการรวมพหุลจักรวาล หรือ Multiverse ด้วยการดึงเอาวายร้ายจากจักรวาลก่อน ๆ ทั้งไตรภาคของ โทบี้ แม็กไกวร์ และ 2 ภาคของ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ นับว่าเป็นไอเดียแปลกใหม่ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล
จากที่เคยติดตามข่าวบวกกับการคาดเดากันว่าภาคนี้จะมีวายร้ายในอดีตตัวไหนโผล่มาบ้าง ในตัวอย่างนี้ก็เผยให้เห็นกันแบบชัดเจนไปเลย ไม่ต้องคาดเดากันอีกต่อไป ว่าจะมีทั้ง ดอกเตอร์ อ็อกโทพัส, อิเล็กโตร, แซนด์แมน, ลิซาร์ด และกรีนก็อบลิน วายร้ายดาหน้ากันมา 5 ตัวแล้วลำพังสไปเดอร์แมนเพียงคนเดียวจะรับมือไหวหรือ ทำเอาหลายคนปักใจเชื่อว่ามาร์เวลและโซนี่ยังเผยความลับไม่หมด เพราะเพียงแค่ฉากสั้น ๆ แวบ ๆ ไม่กี่วินาทีบนตัวอย่างก็ทิ้งเบาะแสให้เชื่อได้ว่าเราน่าจะได้เห็น สไปดี้เวอร์ชันโทบี้ แม็กไกวร์ และ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ มาเซอร์ไพรส์อย่างแน่นอน แม้ว่าทั้งคู่จะยืนกรานปฏิเสธแล้วว่าไม่มีส่วนร่วมใด ๆ ใน Spider-Man: No Way Home เอาละ เรามาวิเคราะห์เจาะลึกกันไปแต่ละจุดในตัวอย่างหนังเวอร์ชันนี้ ว่าแต่ละจุดนั้นเห็นพ้องต้องกันหรือไม่ หรืออาจจะมีบางส่วนบางตอนที่คลาดสายตากันไป
Doctor Octopus
อัลเฟรด โมลินา (Alfred Molina) กลับมาในบท ดร.ออตโต อ็อกทาเวียส หรือ Doc Ock หลังจากเคยรับบทนี้ใน Spider-Man 2 เมื่อปี 2004 นั่นคือ 17 ปีที่แล้ว วันนี้โมลินาอายุ 68 ปีแล้ว แต่ก็ยังมาด้วยภาพลักษณ์เหมือนเดิมเป๊ะ ในจำนวนตัวร้ายที่โผล่มาให้เห็นในตัวอย่างนี้ เห็นได้ชัดเลยว่า Doc Ock นั่นมีบทบาทมากสุด ได้ปะทะกับสไปเดอร์-แมน หลายครั้ง แล้วยังมีบทสนทนาอีกด้วย ซึ่งบางคำพูดก็เผยให้เรารู้ว่า Doc Ock นั้นได้หลุดมาในจักรวาลนี้โดยบังเอิญ แล้วเขาก็ยังเข้าใจว่าที่เขาต่อสู้อยู่ด้วยนั้นคือสไปเดอร์-แมน เวอร์ชัน โทบี้ แม็กไกวร์ จากจักรวาลเดิมของเขา
เทคโนโลยีของสตาร์ค
สิ่งที่สะดุดตาและเห็นได้ชัดในตัวอย่างนี้ก็คือ หนวดปลาหมึกของ Doc Ock ที่แตกต่างไปจากเดิม เพราะรอบนี้กลับมีสีแดงคาด แฟน ๆ ของมาร์เวลต่างรู้เอกลักษณ์ข้อนี้ดีว่า อุปกรณ์ อาวุธ กลไกต่าง ๆ ที่เป็นผลผลิตของ สตาร์ค เทคโนโลยีนั้น จะมีเอกลักษณ์ก็คือสีแดง ซึ่งก็พอคาดเดาได้ว่า Doc Ock อาจจะได้รับเทคโนโลยีจากสตาร์คมาด้วยวิธีการที่ไม่ชอบธรรม และนำมาอัปเกรดให้กับชุดหนวดปลาหมึกของเขา เรื่องนี้มีเหตุผลสนับสนุน เราต้องอ้างอิงไปถึงทีวีซีรีส์ Armor Wars ที่มาร์เวลประกาศไปเมื่อปีที่แล้วว่าจะสร้างเพื่อสตรีมทาง Disney+ และให้ ดอน ชีเดล (Don Cheadle) กลับมาเป็น เจมส์ โรดส์ บทเดิมของเขา ในเรื่องนี้ โทนี่ สตาร์ค ล่วงรู้มาว่ามีวายร้ายได้ลักลอบขโมยเทคโนโลยีของสตาร์คออกไป และนำไปเพิ่มพลังความสามารถให้กับเกราะของเหล่าวายร้าย เจมส์ โรดส์ ในนาม War Machine จึงได้รับมอบหมายให้สะสางปัญหานี้ ก็เป็นไปได้ว่า หนวดปลาหมึกสีแดงของ Doc Ock อาจจะใส่เข้ามาเพื่อปูทางไปสู่เรื่องราวของ Armor War ก็เป็นได้
Green Goblin
ในตัวอย่างเวอร์ชันแรกนั้น เราไม่ได้เห็นหน้าตาของ กรีนก็อบลิน ได้ยินแต่เสียงหัวเราะอันเป็นเอกลักษณ์ และลูกระเบิดเขียว (pumpkin bomb) ของเขา แต่ในตัวอย่างเวอร์ชันนี้ ทุกคนก็ได้เห็นกรีนก็อบลินตัวเป็น ๆ ขี่เจ็ทร่อนให้เห็นกันจะ ๆ ไปเลย แต่เราก็เห็นได้เห็นเพียงกรีนก็อบลินในชุดเกราะเต็มยศ และเครดิตใน IMDB ที่ลงไว้ว่า วิลเล็ม เดโฟ (Willem Dafoe) กรีนก็อบลินคนแรกจาก Spider-Man (2002) กลับมารับบทเดิมนี้ แต่เราก็ยังไม่เห็นหน้าค่าตาของเดโฟในตัวอย่างทั้งสองเวอร์ชัน ก็เผื่อใจไว้ มาร์เวล-โซนี่อาจจะทำเซอร์ไพรส์ ว่าบุคคลที่อยู่เบื้องหลังชุดกรีนก็อบลินเป็น เดน ดีฮาน (Dane Dehaan) หรือ เจมส์ ฟรานโค (James Franco) ก็เป็นได้
Electro
รายนี้ไม่มีเซอร์ไพรส์แล้วล่ะ เห็นหน้ากันแวบ ๆ ไปแล้วในตัวอย่างว่าเป็น เจมี่ ฟอกซ์ (Jamie Foxx) กลับมาในบท แมกซ์ ดิลลอน หรือ อิเล็กโตร และเป็นบทที่นักแสดงดีกรีออสการ์อย่างเขาน่าจะเคยคิดเสียใจบ้างล่ะที่ตัดสินใจมารับบทนี้ และที่เห็นได้ชัดก็คือ อิเล็กโตรกลับมารอบนี้ มาในรูปโฉมใหม่ ไม่ได้เป็นอิเล็กโตรตัวสีฟ้าใส่ฮูดอย่างใน The Amazing Spider-Man 2 (2014) แล้ว แต่มาในหน้าตาเดิม ๆ ของ แมกซ์ ดิลลอน และสวมชุดที่มีสายรัดประจุไฟฟ้ารอบตัว และพันรอบแขนขา
Sandman และ Lizard
วายร้ายอีกสองรายที่มีบทบาทน้อยมากในตัวอย่างนี้ โผล่มาไม่กี่วินาที และเห็นไกล ๆ ในมุมกว้าง แม้ว่าก่อนหน้านี้หลายแหล่งข่าวยืนยันว่า โธมัส เฮย์เด็น เชิร์ช 9Thomas Hayden Church) กลับมารับบทเป็น ฟลินต์ มาร์โก หรือแซนด์แมน และ รีส ไอฟาน (Rhys Ifans) กลับมารับบทเป็น เคอร์ติส คอนเนอร์ หรือลิซาร์ด แต่เราก็ยังไม่เห็นหน้าตาของ 2 คนนี้ในตัวอย่าง และไม่มีชื่อของ 2 คนนี้อยู่ในเครดิตหนังบน IMDB อีกด้วย ก็ไม่แน่ว่าในตัวอย่างเวอร์ชันต่อไป เราจะได้เห็นหน้าของเชิร์ชและไอฟานหรือไม่ หรือจะเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดเผยนักแสดงคนไหนที่เราคาดไม่ถึงมาก่อน แต่อย่างหนึ่งที่ยืนยันได้ก็คือ การรวมพหุจักรวาลของดอกเตอร์สเตรงจ์ในครั้งนี้นั้น อยู่นอกเหนือกฏความตาย เพราะว่าทั้งแซนด์แมนและลิซาร์ดนั้นก็ถูกสไปเดอร์-แมน สังหารไปแล้วในจักรวาลดั้งเดิม
หลายเสียงยืนยัน…มีสไปเดอร์-แมน มากกว่า 1 คน
เรื่องนี้ไม่ต้องสนเลยว่า มาร์เวลและโซนี่จะแถลงว่าอย่างไร รวมไปถึงตัวโทบี้ แม็กไกวร์ และแอนดรูว์ การ์ฟิลด์ ทั้งคู่ต่างก็ยืนยันว่าพวกเขาไม่มีส่วนร่วมในหนัง Spider-Man: No Way Home แต่ถ้าวิเคราะห์ถึงข่าวลือก่อนหน้านี้ ว่าภาคนี้ที่มีเนื้อหาว่าด้วยการรวมพหุจักรวาล ซึ่งเมื่อตัวอย่างเปิดเผยออกมาแล้วเนื้อเรื่องก็เป็นไปตามนั้นจริง แต่ในเมื่อผลของการรวมพหุจักรวาล ทำไมจะนำมาซึ่งเหล่าวายร้ายเท่านั้นล่ะ คิดตามแล้วมันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
และเมื่อตัวอย่างฉบับยาวนี้ปล่อยออกมา ในช่วงท้ายที่เป็นฉากต่อสู้ สไปเดอร์-แมน ทะยานเข้าใส่ 3 วายร้าย ซึ่งฉากนี้ละที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่ามันผิดปรกติแบบไม่ต้องเป็นเซียนหนังก็เดาได้ว่า มาร์เวลใช้ซีจีลบสไปเดอร์แมนโทบี้และแอนดรูว์ออกไป เพราะในฉากนี้สไปเดอร์-แมน พุ่งตรงเข้าหาแซนด์แมนที่อยู่ตรงกลาง ส่วนอิเล็กโตรและลิซาร์ดนั้น ตัวหนึ่งอยู่ระดับบน อีกตัวอยู่ระดับล่าง แล้วทั้ง 2 รายนี้กำลังพุ่งเข้าหาใครล่ะ แต่ถ้าเป็นไปตามที่คิด วายร้าย 3 กำลังประจันหน้าเข้าสไปเดอร์-แมนทั้งสาม มันต้องอย่างนี้สิถึงจะลงตัว ยิ่งในตัวอย่าเวอร์ชันสากล มาร์เวลก็ยังหลุดฉากนี้ที่ลิซาร์ด โดนซัดหน้าหงายโดยใครก็ไม่รู้ที่มองไม่เห็น
แต่เอาเถอะ ในฐานะผู้ชมเราก็ขอชื่นชมมาร์เวลในเรื่องการปิดความลับได้อยู่หมัดจริง ๆ ไม่มีภาพโทบี้ แม็กไกวร์และแอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เล็ดลอดออกมาจากกองถ่าย รวมถึงทอม ฮอลแลนด์ รอบนี้ก็ใช้ความผิดพลาดเป็นบทเรียน ไม่หลุดความลับออกมาอีกแล้ว เขาอยากปิดก็ปล่อยเขาปิดไป เดือนหน้าก็รู้คำตอบแล้วว่าเป็นไปอย่างที่คาดเดาไหม พอเห็นสไปดี้-โทบี้ และสไปดี้-แอนดรูว์ ก็ทำตกอกตกใจหน่อยก็แล้วกัน
แมรี่ เจน ร่วงหล่นจากที่สูง
ต้องถือว่าสไปเดอร์-แมน เป็นซูเปอร์ฮีโรที่สะเพร่าที่สุด ดูจากที่สไปเดอร์-แมนทั้งสามเวอร์ชันนี้ต่างก็พลาดทำคนรักร่วงจากที่สูงเสมอ ใน Spider Man (2002) แมรี่ เจน ก็เคยร่วงหล่นจากระเบียง แต่โชคดีที่สไปเดอร์-แมน โผลงมาคว้าตัวไว้ได้ทัน แต่เกว็น สเตซี่ ใน The Amazing Spider-Man 2 (2014) กลับไม่โชคดีอย่างนั้น การเสียชีวิตของเธอกลายเป็นฉากจำที่ช็อกคนดูอย่างมากฉากหนึ่งในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล จนมาถึง แมรี่ เจน ในเวอร์ชันของเซนดายา (Zendaya) ในภาคนี้เราก็จะได้เห็นฉากเธอร่วงหล่นจากที่สูงอีกเช่นกัน นับเป็นการคารวะฉากควรค่าแก่การจดจำจากสไปเดอร์-แมน เวอร์ชันก่อน ๆ ซึ่งถ่ายทอดเหตุการณ์สำคัญนี้มาจากเวอร์ชันคอมิกอีกที แต่เราเชื่อว่าแมรี่ เจนเวอร์ชันนี้น่าจะรอดนะ มาร์เวลไม่น่าจะใจร้ายกับคนดูซ้ำแล้วซ้ำอีกหรอกนะ
โล่ของกัปตันอเมริกา
ฉากที่สไปเดอร์แมนต้องต่อสู้กับบรรดาวายร้ายที่ดาหน้ามาพร้อมกันนี่ น่าจะเป็นฉากไคลแมกซ์ท้ายเรื่อง ที่ไปตะลุมบอนก็บนอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ตามเหตุการณ์ในเรื่องนั้นกำลังอยู่ในระหว่างบูรณะ สังเกตได้จากสแลนและนั่งร้านตั้งอยู่รายล้อม แต่ถ้าวิเคราะห์เจาะลึกลงไปอีก จะสังเกตเห็นได้ว่าในการซ่อมแซมเทพีเสรีภาพครั้งนี้ ทางการได้มีการปรับแต่งภาพลักษณ์ให้เทพีเสรีภาพถือโล่ของกัปตันอเมริกาขนาดยักษ์ไว้ด้วย เพื่อเป็นการปลุกใจให้ชาวอเมริกันและชาวโลกให้แข็งแกร่งขึ้นพร้อมรับอุปสรรคที่จะต้องเผชิญหลังจากผ่านวิกฤตการณ์ Avengers: Endgame และยังเป็นการสดุดีให้กับวีรกรรมของกัปตันอเมริกาอีกด้วย
สไปเดอร์-แมน ชุดดำ
เป็นอีกปริศนาที่โผล่มาใหม่ในตัวอย่างชุดนี้ การที่สไปเดอร์-แมน ใส่ชุดดำรอบนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเวนอม เพราะไม่มีการเอ่ยถึงเวนอมในภาคนี้ ถ้าวายร้ายมาครบ 6 ตัว ภาคนี้ก็คงจะเป็น Sinister Six ไปแล้ว มีเหตุผลใดเป็นไปได้อีกถึงการมาของชุดดำนี้ ก็น่าจะเกี่ยวข้องกับกล่องลึกลับที่เราเห็นในตัวอย่างว่า สไปเดอร์-แมน พยายามจะช่วงชิงจากดอกเตอร์สเตรงจ์ และกล่องวิเศษนี้น่าจะมีมนตร์ขลังอะไรสักอย่างส่งผลให้ชุดสไปเดอร์-แมน เปลี่ยนเป็นสีดำและทรงพลังมากขึ้นพอจะต่อกรกับบรรดาวายร้ายจากจักรวาลอื่น แนวทางนี้พอเป็นไปได้มากสุด เพราะลองสังเกตดี ๆ บนชุดนี้มีอักขระโบราณอยู่ด้วย
ยังมีเงื่อนงำอีกมากใน Spider-Man: No Way Home เพราะน่าจะเป็นภาคที่มาร์เวลวางรากฐานเชื่อมโยงไปยังหนังและซีรีส์อีกหลายเรื่อง คริสต์มาสนี้ไปลุ้นคำตอบด้วยกันครับ