เมื่อพูดถึงภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเกม เชื่อว่าหลายคนต้องเอามือกุมหัวส่ายหน้าด้วยความไม่พอใจ เพราะแทบจะไม่มีภาพยนตร์ที่สร้างจากเกมที่ทำออกมาได้ดีถูกใจแฟน ๆ เลย ซึ่งความว่าไม่ดีนั้นยังถือว่าโอเคเมื่อเทียบกับคำว่าแย่ ที่เรียกว่าไม่มีความดีงามน่าสนใจเลย ซึ่งหนึ่งในภาพยนตร์ที่สร้างจากเกมที่แฟนเกมต่างลงความเห็นว่าแย่มาก ๆ หนึ่งในนั้นก็คือภาพยนตร์เรื่อง ‘Final Fantasy The Spirits Within’ ภาพยนตร์ CG ชื่อเดียวกับเกมยอดนิยมในยุคนนั้นอย่าง ‘Final Fantasy’ ที่มี ฮิโรโนบุ ซากากุจิ (Hironobu Sakaguchi) บิดาผู้ให้กำเนิดเกมนี้มาเป็นผู้กำกับ ที่แฟน ๆ ในยุคนั้นต่างเชื่อมือในผลงานเพราะเนื้อเรื่องในซีรีส์ ‘Final Fantasy’ นั้นก็สนุกจนหลายคนคาดหวัง แต่เมื่อภาพยนตร์ถูกออกฉายสิ่งที่คาดหวังก็ทิ้งดิ่งลงเหว เรามาย้อนดูเรื่องราวต่าง ๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้กันว่าทำไม ‘Final Fantasy The Spirits Within’ ถึงได้ถูกตราหน้าว่าแย่ในสายตาคนเล่นเกมทั่วโลก ส่วนใครที่ไม่รู้จักก็มาทำความรู้จักภาพยนตร์เรื่องนี้ไปพร้อมกันเลย
ทำความรู้จักภาพยนตร์ Final Fantasy The Spirits Within
ก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับภาพยนตร์ ‘Final Fantasy The Spirits Within’ กัน โดยเริ่มจากตัวเกมซีรีส์ ‘Final Fantasy’ ที่ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนเกมทั่วโลก ในความสนุกของระบบการเล่นและเนื้อเรื่องที่สุดแสนประทับใจ จนทาง ฮิโรโนบุ ซากากุจิ (Hironobu Sakaguchi) ผู้ให้กำเนิดเกมซีรีส์ ‘Final Fantasy’ มั่นอกมั่นใจชื่อเสียงของเกมตัวเอง จนคิดการใหญ่กับการสร้างภาพยนตร์จากคอมพิวเตอร์กราฟิกทั้งเรื่องขึ้นมา พร้อมกับก่อตั้ง ‘Square Pictures’ เพื่อรองรับการสร้างการเคลื่อนไหวของมนุษย์ผ่านคอมพิวเตอร์กราฟิกในภาพยนตร์ ตัวเรื่องได้ผู้มีฝีมือมากมายมาร่วมงานสร้างสุดยิ่งใหญ่ ที่ใช้เวลากว่า 4 ปีกับทีมงานกว่า 200 ชีวิตในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยทางซากากุจิบอกว่านี่คือจิตวิญญาณของ ‘Final Fantasy’ ที่แท้จริง ที่เขาอยากสื่อออกมาตั้งแต่เริ่มทำเกมซีรีส์นี้ ตัวภาพยนตร์ฉายรอบปฐมทัศน์ในลอสแองเจลิสเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2001 ก่อนจะเข้าฉายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมปีเดียวกัน โดยทาง ‘Square’ มั่นอกมั่นใจว่าแฟน ๆ ต้องตอบรับภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะมันคือ ‘Final Fantasy’ ที่หลายคนรู้จัก แต่ผลที่ตอบกลับมาก็เป็นทางลบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคำวิจารณ์ไปจนถึงรายได้ที่ขายทุนแบบยับเยิน
เรื่องราวของ Final Fantasy The Spirits Within
ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาต่อไปเรามาทำความรู้จักกับเนื้อเรื่องโดยย่อของ ‘Final Fantasy The Spirits Within’ กัน ซึ่งใครที่อยากจะไปหามาดูก็สามารถรู้เรื่องราวในส่วนนี้ได้ โดยเราจะไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญในภาพยนตร์ เพราะเรื่องนี้มีเนื้อหาค่อนข้างลึกและต้องใช้ปรัชญาความคิดและวิเคราะห์พอควรในการตีความ ใครที่คิดจะดูก็เตรียมสมองให้โล่งก่อนดู เรื่องราวของ ‘Final Fantasy The Spirits Within’ จะกล่าวถึงอนาคตปี 2065 โลกถูกคุกคามด้วยสิ่งมีชีวิตปริศนาที่เรียกว่า ‘Phantoms’ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหนและไม่มีทางต่อกรกับมันได้ เพราะมันไม่มีตัวตนแถมยังกลืนกินวิญญาณเพียงแค่โดนมันโจมตีนิดเดียวคนนั้นก็จะถูกดูดวิญญาณไปทันที มนุษย์ที่เหลือรอดก็สร้างเกราะป้องกันและอยู่อย่างแออัด ขณะที่ อากิ รอสส์ (Aki Ross) หญิงสาวที่ทำการทดลองกับ ‘Phantoms’ และถูกมันกลืนกินแต่ยังรอดชีวิตจึงหาทางกำจัดพวกมัน ซึ่งสิ่งที่จะกำจัดมันได้คือการรวบรวมวิญญาณทั้ง 8 ที่หลบซ่อนอยู่ในสิ่งมีชีวิตต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งคลื่นพลังงานที่ได้จะลบล้างพวก ‘Phantoms’ ให้หายไปจนหมด การเดินทางฝ่าอันตรายตามหาวิญญาณทั้ง 8 จึงเริ่มขึ้น กับที่มาที่ไปของเหล่า ‘Phantoms’ ว่าเกิดขึ้นมาอย่างไร แล้วเรื่องราวจะจบลงตรงไหนก็ไปหาดูกันได้
ความทะเยอทะยานผิดที่ผิดทาง
ด้วยความมั่นอกมั่นใจเต็มที่ทั้งผู้บริหาร ‘Square’ กับตัวซากากุจิที่เชื่อว่าแฟนเกม ‘Final Fantasy’ ต้องแห่กันมาดูภาพยนตร์เรื่องนี้ จนกลายเป็นการสร้างกระแสปากต่อปากจนสามารถดึงคนที่ไม่รู้จักภาพยนตร์ให้มาดูได้ เพราะแม้คุณจะไม่เคยเล่นเกมซีรีส์ ‘Final Fantasy’ มาก่อนก็สามารถดูภาพยนตร์ ‘Final Fantasy The Spirits Within’ ได้ และเมื่อดูจบคุณจะเข้าใจถึงแก่นแท้ซึ่งเป็นจิตวิญญาณของเกมนี้ ซึ่งทาง ‘Square’ ทุ่มเงินไปกว่า 137 ล้านดอลลาร์พร้อมกับการต่อยอดเพื่อสร้างภาคต่อ และผลักดันให้ตัวละครอากิ รอสส์เป็นนักแสดงคอมพิวเตอร์กราฟิกเสมือนจริงคนแรกของโลก ที่ทำเหมือนเธอคือนักแสดงที่มีตัวตนจริง ๆ ที่จะไปมีบทบาทในเกมและภาพยนตร์ซีรีส์อื่น ๆ ของค่าย ‘Square Pictures’ ในอนาคต แถมด้วยการวางจำหน่าย ‘Final Fantasy X’ ในเดือนเดียวกันที่ช่วยดันกระแสภาพยนตร์ แต่แล้วความทะเยอทะยานนั้นก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะตัวภาพยนตร์ทำรายได้ทั่วโลกไปเพียง 85 ล้านเหรียญทั่วโลก และจากข้อมูลบอกว่ายอด 137 ล้านดอลลาร์นั้นเป็นแค่ค่าทุนสร้างเท่านั้น ซึ่งงบประมาณที่ถูกใช้ไปจริง ๆ ต้องถูกบวกเพิ่มไปอีก 50 ล้านดอลลาร์กับค่าโฆษณาโปรโมตอีก สรุปแล้วทาง ‘Square’ ขาดทุนไปมากกว่า 187 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถ้าภาพยนตร์จะได้กำไรก็ต่อเมื่อยอดรายได้ทำเกินครึ่งของทุนสร้าง ที่ต้องได้ 280 ล้านเหรียญถึงจะคุ้มทุน (แค่คุ้มทุนยังไม่ได้กำไร) แต่นี่ยังไม่เท่าทุนสร้างเลยเรียกว่าขาดทุนครั้งยิ่งใหญ่ของวงการภาพยนตร์เลยทีเดียว
การควบรวมกิจการระหว่าง Square และ Enix เกิดขึ้นเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้
ต่อเนื่องจากหัวข้อที่แล้ว หลังจากที่ภาพยนตร์ ‘Final Fantasy The Spirits Within’ ขาดทุนครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ทั้งวงการเกมและภาพยนตร์ ทาง ‘Square’ ซึ่งขาดทุนอย่างหนักจนแทบจะล้มละลาย ก็ได้ทาง ‘Sony’ ต้องมาช่วยซื้อหุ้นเพื่อให้ค่ายยังอยู่ได้ ซ้ำร้ายด้วยเกมใหม่ ๆ ของตนก็มียอดขายไม่สู้ดีแม้จะนำภาคหลักอย่าง ‘Final Fantasy XI’ มาวางจำหน่าย แต่ด้วยระบบการเล่นที่เป็นแบบออนไลน์ 100% จึงทำให้ยอดขายซ้ำเติมทาง ‘Square’ ไปอีก จนสุดท้ายเมื่อไม่มีทางเลือก ‘Square’ จึงต้องร่วมทุนกับค่าย ‘Enix’ ซึ่งเปรียบเหมือนคู่แข่งของตนเพื่อให้บริษัทยังอยู่ต่อ จนเราได้เห็นค่าย ‘Square Enix’ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2003 โดยการควบรวมกันครั้งนี้ผู้ถือหุ้นในบริษัท ‘Square’ ได้รับส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นสัดส่วน 0.81 ส่วนทาง ‘Enix’ ได้รับในอัตรา 1:1 ถ้าไม่ได้ ‘Sony’ และ ‘Enix’ เราคงไม่เห็นเกม ‘Final Fantasy’ อีกก็ได้ หรืออาจจะเห็นชื่อเกมนี้ไปอยู่ค่ายเกมอื่นก็ได้ใครจะรู้
จิตวิญญาณที่ขาดหายไปจาก Final Fantasy The Spirits Within
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนที่ยังไม่เคยดูภาพยนตร์ ‘Final Fantasy The Spirits Within’ อาจจะสงสัยว่าเรื่องนี้มันไม่ดีตรงไหน ทำไมแฟน ๆ ที่ได้ดูต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่สนุกก็ต้องบอกว่าทุกตรง เริ่มจากเนื้อเรื่องที่เปิดมาจนจบเรื่องไม่มีอะไรที่เป็น ‘Final Fantasy’ เลย ให้แปะชื่ออื่นแล้วบอกไม่ใช่ ‘Final Fantasy’ ก็ไม่มีใครรู้ เพราะสิ่งที่คุณรู้จักเกี่ยวกับ ‘Final Fantasy’ คือโลกอนาคตผสมเครื่องจักรเวทมนตร์ต่าง ๆ รวมถึงมนตร์เรียกอสูร ตัวละครอาชีพต่าง ๆ การเดินทางปกป้องโลกที่สนุกเร้าใจ ไปจนถึงเจ้านกเหลืองตัวละครคู่บุญของซีรีส์ ทุกสิ่งที่กว่ามานั้นไม่มีในภาพยนตร์เรื่องนี้เลย นอกจากตัวละครที่ชื่อ ซิด (Sid) แถมตัวเรื่องก็ดำเนินไปช้าไม่มีความตื่นเต้น คำพูดเต็มไปด้วยปรัชญาแง่คิดและเนื้อหาที่วนไปวนมา แถมกราฟิกตัวละครก็ดูแข็งสีหน้าไร้อารมณ์ทั้งที่ใช้คนจริง ๆ มาเป็นต้นแบบ แถมดูไปจนจบยังไม่รู้เลยว่าเนื้อเรื่องต้องการสื่ออะไรและจบลงตรงไหน แถมฉากเนื้อเรื่องภายในภาพยนตร์ก็ไม่ได้ถ่ายทำยาก ให้คนจริง ๆ มาเล่นจะดูดีกว่าแถมงบประมาณไม่บานปลายด้วย ทั้งที่คนสร้างบอกว่านี่คือจิตวิญญาณของ ‘Final Fantasy’ แต่คนเล่นเกมกลับไม่สามารถรับรู้ถึงจิตวิญญาณของ ‘Final Fantasy’ ในภาพยนตร์เรื่องนี้เลย
คะแนนจากนักวิจารณ์
10 ปากว่าไม่เท่าลองดู คราวนี้มาดูคะแนนวิจารณ์จากคนที่ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ผ่านทาง 2 สำนักรีวิวภาพยนตร์ที่น่าเชื่อถืออย่าง ‘Rotten Tomatoes’ ให้มะเขือเน่าที่ 44% ส่วนฝั่งคนดูให้เททิ้ง 48% ซึ่งส่วนมากจะมองในแง่ของความจำเจของเนื้อเรื่องที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ แม้จะมองในแง่ของภาพยนตร์ทั่วไป ยิ่งถ้ามองในแง่ของเกมยิ่งติดลบ แต่เสียงส่วนมากก็ชื่นชมในแง่ของกราฟิกพื้นผิวแววตา ที่แสดงออกมาได้ละเอียดแม้จะดูแข็ง แต่เมื่อเทียบกับกราฟิกในยุคนั้น ‘Final Fantasy The Spirits Within’ ถือว่ากินขาดไปไกลมาก ๆ ขณะที่ ‘Metacritic’ ก็ให้คะแนนฝั่ง ‘Metascore’ ที่ 49 คะแนนเต็ม 100 จากนักวิจารณ์ 28 สำนักทั่วโลก ส่วนฝั่งคนดูจากคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 6.2 เต็ม 10 กับความคาดหวังของแฟน ๆ ที่เมื่อพูดถึง ‘Final Fantasy’ เราจะต้องคิดถึงการเดินทางอันยิ่งใหญ่การต่อสู้ที่สนุก ไม่ใช่ภาพยนตร์เชิงปรัชญาอิงวิทยาศาสตร์ ขณะที่บางส่วนก็ชื่นชมความล้ำลึกของตัวเนื้อหาที่ลึกซึ้ง แต่มันก็มากเกินไปสำหรับผู้ที่ต้องการความบันเทิง ยิ่งแปะชื่อ ‘Final Fantasy’ นั่นยิ่งทำให้แฟนเกมคาดหวังความสนุกที่ไม่มีในภาพยนตร์เรื่องนี้เลย
ต้นแบบแรงบันดาลใจของเกม Mass Effect มาจากภาพยนตร์ Final Fantasy The Spirits Within
ในส่วนนี้คือเกร็ดเล็ก ๆ ที่หลายคนอาจจะไม่ทราบมาก่อน ว่าเกม ‘Mass Effect’ ที่เรารู้จักนั้น ได้ต้นแบบและแรงบันดาลใจอิทธิพลสำคัญมาจากภาพยนตร์ ‘Final Fantasy The Spirits Within’ โดยทางผู้กำกับศิลป์ เดเร็ค วัตต์ส (Derek Watts) ได้ให้สัมภาษณ์กับ ‘Xbox World 360’ ว่า “ทางทีมงานได้อ้างอิงต้นแบบหลาย ๆ อย่างจากภาพยนตร์ ‘Final Fantasy The Spirits Within’ มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นเฮลิคอปเตอร์โจมตีตัวละครมนุษย์ต่างดาว ไปจนถึงหน้าจอ GUI ที่เรืองแสงในเกม ก็อ้างอิงมาจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ขนาดที่ว่าให้ทีมงานไปนั่งดูภาพยนตร์เรื่องนี้หลายรอบเพื่อค้นหาสิ่งที่น่าสนใจเพื่อเอามาใช้ในเกมของเรา” ซึ่งเมื่อไล่ดูจริง ๆ หลายส่วนในเกม ‘Mass Effect’ ก็เหมือนในภาพยนตร์ ‘Final Fantasy The Spirits Within’ จริง ๆ
Hironobu Sakaguchi หลังภาพยนตร์ขาดทุน
ปิดท้ายกับเรื่องราวของฮิโรโนบุ ซาคากุจิผู้สร้างความเจริญให้กับบริษัทจนเกือบล้มละลาย เขาจึงขอชดใช้ความผิดด้วยการลาออกจากบริษัท ต้องวางมือจากซีรีส์ลูกรักอย่าง ‘Final Fantasy’ ไปก่อตั้งสตูดิโออิสระชื่อ ‘Mistwalker’ ในปี 2004 ด้วยบุญเก่าที่ยังขายได้ในฐานะผู้ให้กำเนิด ‘Final Fantasy’ เราจึงได้เห็นเกมที่สานต่อจิตวิญญาณ ‘Final Fantasy’ อย่างเกม ‘Lost Odyssey’ ที่ถ้ามองผ่าน ๆ จะคิดว่านี่คือ ‘Final Fantasy’ เลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีผลงานขึ้นหิ้งอีกเกมอย่าง ‘Blue Dragon’ ที่รูปแบบการเล่นก็ยังคงอ้างอิงมาจาก ‘Final Fantasy’ ส่วนผลงานล่าสุดตอนนี้ซาคากุจิก็ยังคงอยู่ในวงการเกมแบบเงียบ ๆ และทำเกมลงบนมือถือ (เกมล่าสุดคือ Fantasian ซึ่งเป็นงานที่ดีมาก ได้รางวัลเกมมือถือยอดเยี่ยมแห่งปี 2021 จาก Thailand Game Show ด้วย) โดยที่ไม่มีการอ้างชื่อกินบุญเก่าอย่างผู้ให้กำเนิด ‘Final Fantasy’ อีกแล้ว และทิ้ง ‘Final Fantasy The Spirits Within’ ให้เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตต่อไป
ก็จบกันไปแล้วกับการย้อนอดีตดูเรื่องราวของภาพยนตร์ ‘Final Fantasy The Spirits Within’ ผ่านเรื่องราวมุมมองต่าง ๆ ที่เราหยิบยกมานำเสนอ เพื่อให้คนที่ยังไม่เคยดูได้ทราบว่าตัวภาพยนตร์นั้นมีความทะเยอทะยาน และมั่นใจในชื่อชั้นของ ‘Final Fantasy’ มากจนเกินไป ซึ่งถ้าตัวภาพยนตร์ลดเนื้อเรื่องที่สมจริงและใส่ความเป็น ‘Final Fantasy’ อย่างในเกมลงไป ตัวภาพยนตร์จะสนุกน่าสนใจกว่านี้หลายเท่า เหมือนอย่างที่ ‘Final Fantasy VII Advent Children’ ที่ปล่อยให้ชมในปี 2005 ถ้าทำแบบนั้นตั้งแต่ทีแรกก็คงไม่ต้องมานั่งเสียใจอยู่ตอนนี้แน่นอน ซึ่งถ้าใครสนใจและอยากรู้ว่ามันเป็นจริงอย่างที่คนอื่นว่ามาไหมก็ไปหาชมกันได้ แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมแฟนเกม ‘Final Fantasy’ ถึงสาปส่งเรื่องนี้กัน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส