มาร์เวลเพิ่งปล่อยตัวอย่างใหม่ Doctor Strange in the Multiverse of Madness ภาค 2 ของหมอแปลกมาเมื่อเช้านี้ ในตัวอย่างความยาว 2 นาทีนิด ๆ นี้เริ่มเปิดเผยตัวละครใหม่ ๆ ให้เราเห็นมากมาย
โปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล
รายที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากสุดก็คือ บุคคลลึกลับที่เราเห็นแค่ไม่กี่วินาที เป็นเงาดำ ๆ ไกล ๆ และอีกแวบหนึ่งที่เป็นมุมจากด้านหลัง แต่ด้วยศีรษะล้านอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้หลายคนคาดเดากันว่าน่าจะเป็น ศจ.ชาร์ล เซเวียร์ หรือฉายา Professor X อาจารย์ใหญ่จากโรงเรียนมนุษย์กลายพันธุ์นั่นเอง เพราะถ้าสิ่งที่ทุกคนคาดเดาเป็นจริง นี่คือก้าวสำคัญของมาร์เวลที่เป็นการเปิดตัว X-Men เข้าสู่จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล หลังจากดิสนีย์เข้าซื้อฟอกซ์มาตั้งแต่ปี 2019 แล้ว แฟน ๆ มาร์เวลต่างก็รอคอยว่าเมื่อไหร่นะถึงจะได้เห็นเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ปรากฏตัวในจักรวาลมาร์เวลเสียที
การปรากฏตัวในครั้งนี้ของชาร์ล เซเวียร์ ก็ยังคงเป็น แพตทริก สจวร์ต (Patrick Stewart) นักแสดงคนเดิมที่รับบทบาทนี้มาตั้งแต่ปี 2000 นู่นแล้วใน X-Men ภาคแรก และก็ยังคงกลับมารับบทเดิม แม้ว่าในแฟรนไชส์ X-Men ดั้งเดิมตอนที่ยังอยู่กับฟอกซ์นั้น เซเวียร์ก็ตายไปแล้วใน Logan (2017) ส่วนเซเวียร์ที่เราเห็นแวบ ๆ ในตัวอย่างนี้ สวมผ้าคลุมสีดำ ชุดเดิมที่เขาเคยสวมใน Days of Future Past (2014) แม้ว่าเซเวียร์จะมาในภาพลักษณ์ที่คุ้นตา แต่อย่าลืมสิว่านี่เรากำลังพูดถึงหนังที่ว่าด้วย ‘พหุจักรวาล’ (Multiverse) ฉะนั้น ศจ.ชาร์ล เซเวียร์ น่าจะมาในเวอร์ชันที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะเขาน่าจะมาในฐานะสามาชิกของกลุ่มอิลลูมินาติ (the Illuminati)
การวิเคราะห์ในจุดนี้ อ้างอิงจากภาพช่วงหนึ่งที่เห็น ดร.สเตรนจ์ ตกอยู่ในฐานะนักโทษ ถูกหุ่นยนต์ล้อมหล้าล้อมหลังคุมตัวมาในโถงใหญ่เพื่อรับการไต่สวนในคดีที่เขาทำผิดเกี่ยวกับเวลาและจักรวาล ซึ่งกลุ่มที่ทำหน้าที่ดูแลควบคุมความเรียบร้อยของพหุจักรวาลก็คือกลุ่มอิลลูมินาตินั่นเอง จักรวาลมาร์เวลนั้นมีการรวมกลุ่มของเหล่าฮีโรยิบย่อยมากมาย แต่กลุ่มอิลลูมินาติ ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญ และเหล่าสมาชิกก็ล้วนระดับหัวกะทิที่คอยทำหน้าที่ปกป้องความผาสุกของโลกมนุษย์เรา แต่ถ้าเป็นไปตามนี้จริง ภารกิจแรกของอิลลูมินาติใน Multiverse of Madness นี้ ไม่เพียงแค่ดูแลแค่โลกเราเท่านั้น แต่ต้องรับภาระดูแลระดับจักรวาลกันเลย
เหล่าตัวละครรับเชิญอื่น ๆ น่าจะมีใครอีก
วิเคราะห์กันต่อไป อย่างที่กล่าวมา อิลลูมินาติ คือกลุ่มของฮีโรมาร์เวล นั่นแปลว่าเราไม่น่าจะได้เห็นเพียงแค่ ศจ.ชาร์ล เซเวียร์ คนเดียว เราอาจจะได้เห็นสมาชิกของอิลลูมินาติคนอื่น ๆ อีกด้วย อ้างอิงจากเหล่าโดรนที่ทำหน้าที่ควบคุมตัว ดอกเตอร์สเตรนจ์ นั้น การที่มีเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องไม่ใช่ฝีมือของเซเวียร์เองเป็นแน่ ฉะนั้นบุคคลที่น่าจะอยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีเหล่านี้ อาจจะเป็น โทนี่ สตาร์ก หรือไม่ก็ บรู๊ซ แบนเนอร์ ก็เป็นได้
เราได้เห็นฉากสั้น ๆ ที่เป็นการปะทะกันระหว่าง กัปตันมาร์เวล และ สคาร์เล็ต วิตช์ แต่เราเห็นแค่เกราะภายนอกจึงไม่รู้ได้ว่าภายใต้เกราะนั้นจะเป็น แครอล เดนเวอร์ หรือว่า โมนิกา แรมโบ กันแน่ ในเวอร์ชันหนังสือการ์ตูนนั้น แต่จากที่เรารู้กันแน่ ๆ แล้วว่า ตัวละครสำคัญในเรื่องนี้คือ สคาร์เล็ต วิตช์ แล้วเนื้อหาของ Multiverse of Madness ก็เชื่อมโยงกับ WandaVision ซึ่งโมนิกา แรมโบ ก็เป็นหนึ่งในตัวละครในซีรีส์ฮิตเรื่องนี้ ฉะนั้นการที่เราจะได้เห็น Captain Marvel ในเวอร์ชันของ โมนิกา แรมโบ จึงเป็นไปได้มากกว่า
วิเคราะห์กันต่อไปถึงโปสเตอร์ล่าสุดของ Multiverse of Madness เราได้เห็นโล่ไวเบรเนียมปรากฏอยู่บนโปสเตอร์ด้วย ซึ่งโล่นี้เป็นของ Captain Carter ซึ่งเปิดตัวไปแล้วในซีรีส์ What If…? แล้วในซีรีส์เรื่องนี้นั้น เพ็กกี้ คาร์เตอร์ หรือ Captain Carter ก็ได้เข้าร่วมกลุ่มอิลลูมินาติด้วย จึงแนะนำว่าก่อนที่จะชม Multiverse of Madness นั้น ควรจะหาโอกาสรับชมซีรีส์ What If…? ทาง Disney+ กันซะก่อน
เราพอจะสังเกตได้ว่าใน Multiverse of Madness นั้น ดอกเตอร์สเตรนจ์ต้องรับมือกับวิกฤตการณ์พหุจักรวาล เหมือนกับที่เขาเคยรับมือมาแล้วใน Spider-Man: No Way Home ผิดกันที่ว่าในเรื่องที่แล้วนั้น เขาไปแก้ปัญหาให้ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ แต่รอบนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นปัญหาที่เขาสร้างขึ้นมาเอง แล้วต้องรับมือเอง แก้ไขเอง จุดนี้วิเคราะห์จากการที่เราได้เห็น หว่องตะโกนต่อว่าสเตรนจ์ที่ไม่เชื่อฟังสิ่งที่เขาเคยเตือนไว้ หรือไม่ก็นี่อาจจะเป็นหายนะที่สืบเนื่องต่อจากสิ่งที่เขาก่อไว้ใน No Way Home แล้วปัญหายังไม่จบแต่กลับบานปลายขึ้นก็เป็นได้ ทำให้เขาต้องดั้นด้นไปขอความช่วยเหลือจาก Scarlet Witch และ America Chavez อีกหนึ่งซูเปอร์ฮีโรหน้าใหม่ ที่ได้รับการเปิดตัวในเรื่องนี้ รับบทโดย โซชิตล์ โกเมซ (Xochitl Gomez) America Chavez นั้นมีความสามารถพิเศษ สามารถกระโดดข้ามไปมาแต่ละจักรวาลได้ ก็นับว่าเป็นคุณสมบัติพิเศษที่เหมาะกับเนื้อหาหนังภาคนี้อย่างมาก
มี Doctor Strange ถึง 3 ร่าง
บางทีความลับของหนังก็มักจะถูกเปิดเผยมาในรูปแบบของเล่น ที่วางแผงเสียก่อนหนังจะเข้าฉายเสียอีก อย่างใน Multiverse of Madness ก็มีของเล่นเป็นฟิกเกอร์ ดอกเตอร์ สเตรนจ์ ในเวอร์ชันต่าง ๆ ออกมาให้เห็นแล้วซึ่งพอยืนยันได้ว่าเราจะได้เห็นดอกเตอร์สเตรนจ์อย่างน้อย 3 เวอร์ชัน ในภาคนี้
เวอร์ชันแรกเป็นเวอร์ชันปรกตินี่ล่ะ เป็นดอกเตอร์สเตรนจ์ในจักรวาลดั้งเดิมที่เราได้เห็นกันมาแล้ว ส่วนอีกเวอร์ชันนั้นมีชื่อว่า ‘Defender Strange’ในตัวอย่างหนังไม่ได้เผยให้เราเห็นตัวตนของดอกเตอร์สเตรนจ์ในเวอร์ชันนี้มากนัก แต่ปรากฏมาให้เห็นในภาพลักษณ์ของรูปปั้นบรอนซ์ ที่ดอกเตอร์สเตรนจ์ยืนมองด้วยสายตาเศร้าหมอง ก็อาจเป็นไปได้ว่าฉากนี้ ดอกเตอร์สเตรนจ์ได้ข้ามไปเยือนในจักรวาลของ Defender Strange ซึ่งเขาเป็นซูเปอร์ฮีโรที่ได้รับการยกย่องเชิดชูจากผู้คน แล้วทำให้ดอกเตอร์สเตรนจ์รู้สึกผิดหวังที่เขาไม่สามารถพาตัวเองไปถึงจุดนั้นได้ ก็น่าติดตามกันต่อไปว่าในหนังจริง เราจะได้เห็น Defender Strange มีบทบาทมากกว่าที่เห็นนี้หรือไม่
อีกเวอร์ชันหนึ่งก็คือ Strange Supreme เป็นอีกคาแรกเตอร์หนึ่งทีได้รับการเปิดตัวไปแล้วในซีรีส์ What If…? เป็นดอกเตอร์สเตรนจ์ในเวอร์ชันที่เขาได้ทำลายจักรวาลของตัวเองไปจนป่นปี้ เหตุเพราะความผิดพลาดจากการพยายามชวยเหลือ คริสติน พาลเมอร์ คนรักของเขา นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งที่จำเป็นต้องดู What If…? ก่อนไปดู Multiverse of Madness
อีกฉากหนึ่งที่น่าสนใจ ตอนฉากเปิดของตัวอย่างหนังนั้นเราได้เห็นวิหารเก่าแก่ที่เป็นอิฐสีน้ำตาล ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางท่ามกลางทะเลไร้ความหมาย (sea of nothingness) อาจเป็นไปได้ว่า วิหารที่เห็นนี้คือที่พำนักของ Strange Supreme แต่จุดที่ชวนสะกิดความรู้สึกก็คือ ภาพของวิหารนี้ช่างละม้ายกับวิหารของ He Who Remains ตัวละครสำคัญที่โผล่มาในตอนสุดท้ายของซีรีส์ Loki แต่นี่ไม่ใช่การคาดเดาลอย ๆ ใครที่ได้ดู Loki จะรู้ดีว่า He Who Remains คือตัวละครแรกที่ออกมาเอ่ยถึงความหมายของ ‘พหุจักรวาล’ ในจักรวาลมาร์เวล ก่อนที่หลายเรื่อง หลายซีรีส์ ต่างก็เริ่มเล่นกันกับประเด็นนี้ ก็เป็นไปได้ว่า Multiverse of Madness อาจจะมีเนื้อหาหรือตัวละครที่เชื่อมโยงกับ Loki
ใครคือวายร้ายใน Multiverse of Madness
ในตัวอย่างยังไม่เปิดเผยอะไรมากเกี่ยวกับตัวร้ายในภาคนี้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ตัวดอกเตอร์สเตรนจ์เองนี่ล่ะ คือตัวร้ายในภาคนี้ ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นดอกเตอร์สเตรนจ์ในเวอร์ชันไหน แต่จากหลาย ๆ เรื่องของมาร์เวลก็สอนให้เรารู้แล้วว่าอย่าไปปักใจว่า ตัวร้ายที่เห็นในตัวอย่างหนัง คือบอสสุดท้ายในหนังจริง ซึ่งมาร์เวลมักจะเก็บงำวายร้ายตัวจริงไว้เป็นความลับ อย่างใน Doctor Strange ภาคแรกนั้น เราก็ปักใจเชื่อว่า Kaecilius ที่สวมบทบาทโดย แมด มิกเคลเซ็น นั้นคือวายร้ายตัวฉกาจ แต่หาไม่ วายร้ายตัวจริงคือ Dormammu ต่างหาก แล้วมีใครบ้างล่ะที่มีแววน่าจะเป็นตัวร้ายในภาคนี้
ในตัวอย่างเราได้เห็นดอกเตอร์สเตรนจ์ต่อสู้กับ Gargantos สัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างเหมือนปลาหมึก เจ้าตัวนี้เคยปรากฏตัวมาในเกม Marvel vs. Capcom แต่ในเกมนั้นใช้ชื่อว่า Shuma-Gorath อีกฉากหนึ่งเจ้า Gargantos กำลังวิ่งไล่กวด America Chavez อยู่ แต่เราก็ได้เห็นจุดจบของมันในตัวอย่างนี้ไปแล้วล่ะ ก็น่าจะมีสถานะเป็นตัวร้ายลูกจ๊อกเท่านั้น
อีกรายที่อาจจะเป็นวายร้ายหลักของภาคนี้ได้นั่นก็คือ แวนดา หรือ สคาร์เล็ต วิตช์ นั่นเอง อ้างอิงไปถึงฉากจบในซีรีส์ WandaVision ที่แวนดาได้พบคาถาสำคัญในหนังสือเวทมนตร์ Darkhold และทำให้เธอสามารถเปิดประตูไปสู่จักรวาลอื่น ๆ ได้ ซึ่งเหตุการณ์ใน Multiverse of Madness นั้น แวนดาอาจจะพาตัวตนของเธอจากจักรวาลอื่นออกมาก็เป็นได้
อีกคาแรกเตอร์หนึ่งที่อาจเป็นวายร้ายหลักก็เป็นได้นั้น วิเคราะห์จากตอนต้น ๆ ของตัวอย่างหนัง ดอกเตอร์สเตรนจ์เอ่ยว่าเขาฝันร้ายบ่อย ๆ ตรงนี้ล่ะ อาจจะเชื่อมโยงไปถึงวายร้ายที่ชื่อ ‘Nightmare’ เป็นอสูรที่ชอบสูบพลังจากเหยื่อในขณะที่ฝันร้าย
ส่วนฉากสั้น ๆ ที่เห็นคลื่นพลังลึกลับกำลังมุ่งมาโจมตี Kamar-Taj วิหารศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมของผู้ทรงศีลบนเทือกเขาหิมาลัย ในฉากนี้เราได้เห็น มิโนทอร์ตัวสีเขียวแวบ ๆ เจ้าตัวนี้มีชื่อว่า Rintrah ไม่ใช่ตัวร้าย แต่เป็นฝายดี แล้วก็มีฟิกเกอร์ออกมาจำหน่ายเรียบร้อยแล้วด้วย
จะได้เห็นใครมาปรากฏตัวในเรื่องนี้บ้าง แล้วใครคือวายร้าย 5 พฤษภาคมนี้รู้พร้อมกัน