ฌอน เพนน์ (Sean Penn) นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง ยังคงตัดสินใจอยู่ที่ประเทศยูเครน เพื่อถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับการรุกรานของรัสเซียต่อไป แม้ล่าสุดกรุงเคียฟจะถูกประกาศให้กลายเป็นพื้นที่สงครามไปแล้วก็ตาม

ดาราเจ้าของรางวัลออสการ์และนักเคลื่อนไหวเพื่อมนุษยธรรมรายนี้ ปรากฏตัวในการแถลงข่าวของรัฐบาลยูเครน ที่กรุงเคียฟ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเขาเข้ามานั่งฟังเจ้าหน้าที่ของรัฐพูดถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ที่ผู้นำโลกหลายคนมองว่าเป็นความขัดแย้งที่เลวร้ายที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่ปี 1945 หรือนับตั้งแต่สมัยยุคสงครามโลกครั้งที่ 2

เพนน์ ถือเป็นนักแสดงที่สนใจในเรื่องของการต่อต้านสงคราม และมักจะลงพื้นที่ทำงานด้านมนุษยธรรมหลายต่อหลายครั้งในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 มีภาพที่เพนน์เคยลงพื้นหาข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ ซึ่งการเยือนยูเครนของเพนน์ในครั้งนั้น เขาได้เดินทางร่วมกับกองกำลังทหารที่อยู่แนวหน้าในแคว้นดอแนสก์

เบื้องหลังการบุกยูเครนของเพนน์

ตามรายงานของสื่อยูเครน เพนน์เดินทางมาที่กรุงเคียฟเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ และได้พบกับรองนายกรัฐมนตรี อิรินา เวเรชชุก (Iryna Vereshchuk) ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่รัสเซียเริ่มบุกโจมตียูเครนครั้งแรก โดย โวโลดีมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelenskyy) ประธานาธิบดียูเครน ได้ออกแถลงการณ์ผ่านสถานทูต ยกย่องวีรกรรมของนักแสดงคนนี้ว่า 

“เขามาที่กรุงเคียฟ เป็นการพิเศษเพื่อบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นในยูเครน และเพื่อบอกความจริงเกี่ยวกับการรุกรานของรัสเซียให้โลกได้รู้ ฌอน เพนน์เป็นหนึ่งในผู้ที่สนับสนุนยูเครนในยุคปัจจุบัน”

นอกจากนี้ในถ้อยแถลงยังมีการพาดพิงผู้นำประเทศอื่น ๆ พร้อมยกให้ เพนน์คือต้นแบบของความกล้าหาญ ที่คนเหล่านั้นยังขาดอยู่

“ประเทศของเรารู้สึกขอบคุณเขาสำหรับความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ดังกล่าว เขากำลังแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญที่อีกหลายคนยังขาดอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเมืองชาติตะวันตกบางคน เพื่อนแท้ของยูเครนที่สนับสนุนการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ จะทำให้เราสามารถหยุดการรุกรานที่ชั่วร้ายของรัสเซียได้เร็วขึ้น”  เซเลนสกีกล่าวในถ้อยแถลง

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพนน์นำตัวเองให้ไปอยู่ในศูนย์กลางของความขัดแย้ง ก่อนหน้านี้นักแสดงวัย 61 ปี เคยกำกับภาพยนตร์สารคดีเรื่อง ‘Citizen Penn’ ในปี 2020 โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับกระบวนการจัดตั้ง Community Organized Relief Effort หรือ ‘CORE’ ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรของเขา ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเฮติ เมื่อปี 2010

และวีรกรรมของเพนน์ที่ฮือฮาสุด ๆ คือการบุกป่าฝ่าดงไปสัมภาษณ์ราชายาเสพติดเม็กซิโกอย่าง วาคีน กุซแมน (Joaquin  Guzman) หรือ เอล ชาโพ ตอนเดือนมกราคมปี 2016 ซึ่งการพูดคุยในครั้งนั้นของเพนน์ ก็ถูกนิตยสารโรลลิง สโตน นำไปตีพิมพ์เป็นบทสัมภาษณ์พิเศษ ก่อนที่บทสัมภาษณ์ชิ้นนั้นจะช่วยทางการเม็กซิโกขยายผล นำไปสู่การจับกุมตัวเอล ชาโพได้ในที่สุด

อ้างอิง:

https://bit.ly/3JPp8DW

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส