เห็นเว็บหนัง กลุ่มคนดูหนังหลายที่พูดถึงกัน ขึ้นฟีดมาก็หลายครั้ง เลยต้องลองชมสักหน่อยกับหนังสั้นไทยที่มีกระแสมาเป็นระยะๆ ทั้งว่าเป็นผลงานกำกับของสาวน้อยที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่าง สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข ที่หลายคนอาจเพิ่งรู้ว่าเธอเรียนด้านภาพยนตร์ด้วย งานนี้เป็นงานกำกับร่วมกับ ก่อ-ชาคร ไชยปรีชา ที่เคยผ่านเวทีหนังสั้นมามากมาย และมีงานหนังใหญ่มาแล้วอย่างรักจัดหนัก ตอนทอมแฮ้ง พอตอนนี้หนังได้ออนแอร์ให้ชมฟรีกันถึงบ้านแล้ว ก็ขอลองจัดไปชมกันหน่อยว่าจะเจ๋งหรือจะเจ๊งกันนะ 555
ว่ากันตามตรงงานของสายป่านในช่วงหลังๆก็จัดว่าเน้นอะไรที่โหดขึ้น ผู้ใหญ่ขึ้นตามลำดับ อย่าง อวสานโลกสวย ที่เธอเพิ่งแสดงนำไป นี่ก็โหดมากสำหรับหนังไทยเลยล่ะ จัดว่าเธอดูจะให้ความสนใจกับอะไรๆ ที่หนักๆ เข้มๆ มากกว่าหนังรักหวานๆ หรือตลกๆ ล่ะนะ ส่วนด้านก่อนั้นก็ไม่ต่างกันผลงานจากที่เคยติดตามเขาก็เป็นคนที่มีการนำเสนอที่ไม่ได้เรียบๆ ป๊อปๆ เช่นกัน คงเป็นการเข้าคู่ที่น่าสนใจ ด้วยหน้าหนังที่ปล่อยมา คิดหวังเอาไว้ว่าน่าจะเป็นงานที่ก่อกวนหัวใจคนดูระดับหนึ่ง
แล้วก็จริงดังว่า หนังสั้นนี้เล่าเรื่องของสองสาวเพื่อนซี้ที่กำลังจะขับรถไปงานวันเกิด โดยอาศัย GPS นำทางไป แต่ก็นั่นล่ะเครื่องเจ้ากรรมก็ดันพาเข้ารกเข้าพงไปเสียอย่างนั้น จนกระทั่งได้ไปเจอ… อันนี้ไปดูเองจะได้อรรถรสกว่า
หนังน่าสนใจตรงการนำเสนอที่ผ่านแค่กล้องหน้ารถเท่านั้น ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราจะเห็นว่ามีผลงานที่อาศัยกล้องอื่นๆที่ไม่ใช่กล้องถ่ายหนังอันเขื่องมาให้เราเห็นมากขึ้น อย่างหนังขวัญใจสายเทศกาลอย่าง Tangerine (2015) ที่ถ่ายด้วย iphone ทั้งเรื่อง หรือจะหนังที่ใช้กล้องโกโปร ฮีโร่ 3 ถ่ายแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่งทั้งเรื่องอย่าง Hardcore Henry (2015) ก็มีให้เห็นแล้วเช่นกัน ถึงขนาดมีคนทำคลิปล้อว่าต่อไปคงจะมีคนแหวกแนวใช้กล้องมองหลังของรถอย่างพริอุสถ่ายหนัง ก็มีให้ชมในยูทูบแล้ว (ลองเสิร์ช first feature film shot entirely on Prius backup camera ดู)
เช่นเดียวกับหนังพวกนั้น โจทย์ของสายป่านและก่อจึงไม่ใช่เพียงแค่การนึกว่าจะใช้กล้องหน้ารถถ่ายออกมายังไง เพราะถ้าแค่นั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เราเคยดูคลิปพวกอุบัติเหตุหรือคนตีกันที่บังเอิญถ่ายได้จากกล้องหน้เารถตามข่าวเลย หัวใจของงานทดลองแบบนี้จึงคือการคิดว่าจะเล่าเรื่องโดยผ่านแค่กล้องหน้ารถที่ตั้งแช่นิ่งๆ ขนาดภาพเดิม องศาภาพเดิม แพนไม่ได้ซูมไม่ได้ ทำห่านไรไม่ได้เลยนอกจากถ่ายๆๆๆ และอาศัยแค่การขับรถไปเพื่อเปลี่ยนสถานที่หรือฉากเท่านั้น ที่สำคัญคนดูจะไม่ได้เห็นการแสดงสีหน้าท่าทาง ที่เป็นตัวสื่ออารมณ์ของตัวละครหลักให้คนดูเข้าใจ เพราะมันต้องนั่งกันอยู่หลังกล้อง ตัวละครสื่อสารกับคนดูได้เพียงแค่เสียงเท่านั้น อะไรพวกนี้คือสิ่งที่ต้องนำเสนอออกมาให้คนดูไม่เบื่อในช่วงเวลา 13 นาทีของหนัง ซึ่งจะว่าไปก็เป็นเวลาที่ท้าทายในระดับที่คิดว่าทำได้ แต่จะทำออกมาดีโคตรๆ เลยไหมนี่ก็ไม่ง่ายขนาดนั้น
ตรงนี้ต้องยอมรับเลยว่าหนังทำออกมาได้สนุกดีแม้ว่าจะเห็นแค่มุมมองหน้ารถ เพราะคนเขียนบทอย่าง จิรัศยา เจ้าของรางวัล BIOSCOPE Awards หน้าใหม่น่าจับตา และ ทศพร จากฝากไว้..ในกายเธอ นั้นถ่ายทอดผ่านบทสนทนาของสองเพื่อนสาวได้อย่างเป็นธรรมชาติทีเดียว (ถึงจะดูโวยวายและหยาบคายบ้างตามสภาพของเพื่อนสาวคุยกัน) หนังมีเหตุการณ์ให้เราคาดเดาทิศทางของหนังอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่จีพีเอสบอกทางที่มันไม่มีบนถนน การต่อล้อต่อเถียงของสองสาว ทางเปลี่ยวที่เรามองก็รู้ว่ามันต้องมีอะไรออกมา ถ้าไม่ใช่โจรก็ผีแน่ๆ การเจออุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด และ…. เอาล่ะแม้ว่าในบทสรุปมันจะไม่ได้ถือว่าเป็นพล็อตใหม่ที่น่าตื่นตะลึงอะไรแต่ก็นำเสนอออกมาได้น่าติดตามดีและก็มีจุดที่กล้าเล่นออกมาอยู่ แล้วก็ยังสะท้อนถึงพวกคนที่พึ่งเทคโนโลยีมากเกินไปด้วย ซึ่งมีเยอะเลยในยุคปัจจุบัน ไม่นับแค่การเปิดแอพนำทางนะ
ที่สำคัญเลย อยากเชียร์ให้ลองชมกันดู เพราะนี่เป็นอีกก้าวของหนังไทยที่ทดลองทั้งวิธีการถ่ายทำ การเล่าเรื่อง และการเผยแพร่ให้ชมฟรีพร้อมกันในวันที่ 20 พ.ค. นี้ ถึง 4 ช่องทางคือ เว็บ Monomaxxx เฟซบุค Bioscope Magazine (เป็นผู้สนับสนุนร่วมกับ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เว็บ movie.mthai.com และหนังกลางแปลง (ในระบบดิจิตอลของ Master Design) หวังว่าเราจะได้มีหนังไทยดีๆ กล้าๆ ออกมาให้ชมกันมากขึ้นต่อจากนี้ด้วยล่ะนะ
ส่วนชาวเว็บแบไต๋ ดูหนังได้ที่ข้างล่างนี่เลย