นาทีที่บัตรคอนเสิร์ต The 1975 ขายหมดเกลี้ยง ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องการันตีว่าแฟนเพลงชาวไทยหลาย ๆ คนนั้นต่างตั้งตารอการกลับมาของพวกเขามากเพียงใด และในที่สุดเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2023 The 1975 กลับมาเปิดคอนเสิร์ตครั้งที่ 2 ในไทย พร้อมโชว์ที่ใช้ชื่อว่า ‘The 1975 : At their very best” live in Bangkok 2023’ พร้อมขนเพลงฮิตมาบรรเลงใส่แฟน ๆ ร่วมหมื่น ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
เมื่อถึงเวลา 21.15 น. แสงไฟภายในฮอลล์ก็ค่อย ๆ ดับลง เริ่มมีเสียงเชียร์จากแฟนเพลงที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ แสงสปอตไลต์เปิดส่องไปยังบริเวณกลางเวทีที่ยังคงว่างเปล่าอยู่ มีเพียงฉากเล็ก ๆ ที่ถูกตั้งไว้ แต่ผ่านไปเพียงแค่ครู่เดียว จอที่อยู่บริเวณเวทีก็มีวิดีโอฉายขึ้น ซึ่งเป็นวิดีโอที่ถ่ายทอดสดจากบรรยากาศหลังเวที เห็นสมาชิกวง The 1975 ที่กำลังเดินออกมา ซึ่งเป็นการเปิดตัวที่น่าสนใจ และทำให้แฟนเพลงจดจำได้เป็นอย่างดี


The 1975 เลือกเพลงเปิดในคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยเพลง “Looking For Somebody (To Love)” เพลงในอัลบั้มที่ 5 ของวงที่ชื่อว่า ‘Being Funny in a Foreign Language’ ก่อนจะต่อเนื่องด้วยเพลง “The Ballad of Me and My Brain” และเพลงที่ 3 “Part of the Band” ระหว่างการแสดงนักร้องนำอย่าง แมตตี้ ฮีลีย์ (Matty Healy) ก็ได้โบกมือทักทายแฟน ๆ ภายในฮอลล์ และพูดคุยกับแฟนเพลงอยู่ตลอด แถมยังมีการพูดเกริ่นนำเข้าในหลาย ๆ เพลงได้อย่างน่าสนใจ
“พวกคุณเป็นยังไงกันบ้าง ขอบคุณทุกคนมากจริง ๆ ที่มาดูพวกเราในวันนี้ พวกเราดีใจมาก ๆ ที่ได้มาแสดงที่นี่ผมรักพวกคุณมากนะ”
วงต่อเนื่องความสนุกด้วยเพลงที่ 4 และ 5 กับ “Oh Caroline” และ “If You’re Too Shy (Let Me Know)” ต่อจากนั้นฮีลีย์ก็ได้พูดโยงเกี่ยวกับเรื่องราวความรักและแสดงต่อในเพลง “I’m in Love With You”, “fallingforyou”, “Happiness”, “About You” และ “It’s Not Living (If It’s Not With You)” ที่เรียกได้ว่าเป็นการลิสต์เพลงเกี่ยวกับความรักมาได้อย่างครบรส อีกทั้งระหว่างบทเพลงเหล่านี้ฮีลีย์ก็ได้ถือโอกาสแนะนำสมาชิกของวงอีก 3 คนด้วย ได้แก่ มือกีตาร์ อดัม ฮานน์ (Adam Hann), มือเบส รอส แมคโดนัลด์ (Ross Macdonald) และ มือกลอง จอร์จ แดเนียล (George Daniel) พร้อมทั้งนักดนตรีคนอื่น ๆ อีก 4 ชีวิต



ในช่วงต่อมาถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าจดจำสำหรับคอนเสิร์ตในค่ำคืนนี้ เมื่อมีแฟนเพลงของวง The 1975 ชูป้ายขอขึ้นไปเล่นกีตาร์เพลง “Robbers” กับสมาชิกของวงบนเวที และคำขอนั้นได้เกิดขึ้นจริง เมื่อทีมงานได้พาคนคนนั้นขึ้นไปบนเวทีและร่วมแสดงเพลงนี้ด้วยกัน ซึ่งโมเมนต์นี้ก็อาจทำให้ใครหลาย ๆ คนถึงกับน้ำตาคลอและต่างรู้สึกยินดีกับชายคนนั้นเป็นอย่างมาก
หลังจากจบโมเมนต์ที่น่าประทับใจไปแล้ว คนดูก็ยังคงร่วมร้องเพลงกับ The 1975 อย่างสุดมันในช่วงครึ่งหลังของการแสดงไม่ว่าจะเป็นเพลง “Be My Mistake ”, “Somebody Else”, “Love It If We Made It ”

มาจนถึงช่วงท้ายกับเพลงที่หลายคนน่าจะตั้งตารอกันเป็นอย่างมากกับ “I Always Wanna Die (Sometimes)” ที่มีเนื้อเพลงกินใจใครหลาย ๆ คน และร้องตามได้ไม่ยาก ทำให้คนในฮอลล์ต่างร่วมร้องเพลงนี้ไปพร้อมกันอย่างกึกก้อง ก่อนที่ 3 เพลงสุดท้าย The 1975 จะจัดลิสต์เพลงที่ชวนให้ผู้ชมโยกและกระโดดกันอย่างเมามันกับเพลง “The Sound”, “Sex ” และปิดท้ายคอนเสิร์ตในวันนี้ด้วยบทเพลง “Give Yourself a Try” อย่างสมบูรณ์ พร้อมกล่าวขอบคุณแฟนเพลงทุก ๆ คนที่มาดูการแสดงในค่ำคืนนี้
สำหรับคอนเสิร์ต The 1975 ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งคอนเสิร์ตที่น่าประทับใจ มีโมเมนต์และบางช่วงที่คาดไม่ถึง แถมยังขนเพลงมาแสดงมากกว่า 15 เพลง ที่ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง 45 นาที ถึงแม้ว่าบางเพลงที่หลาย ๆ คนอยากฟังอาจจะไม่ได้ถูกนำมาโชว์ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโชว์ที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก ทำให้คนดูได้รับความสุขและความรู้สึกหลายอย่างกลับไปอย่างแน่นอน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส