จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ ‘Very Summer Fest 2023’ เทศกาลดนตรี Indoor ที่จัดเต็มความสนุก 2 เวที กับ 12 ศิลปินรุ่นใหม่มากคุณภาพทั้งไทยและอินเตอร์ อีกทั้งยังเป็นการแสดงสดครั้งแรกในประเทศไทยของหลายศิลปินที่โอกาสมาแสดงในไทยอาจจะแค่ในงานนี้เพียงครั้งเดียว
ในเรื่องของสถานที่จัดงาน Very Summer Fest 2023 จัดขึ้นที่ BITEC BHIRAJ HALL ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ซึ่งถือว่าเดินทางค่อนข้างสะดวกเลย คนที่เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะก็สามารถเดินทางด้วย BTS ลงสถานีบางนา (E13) และเดินทางเชื่อม (Sky walk bridge) เข้าที่จัดงานได้เลย ส่วนใครที่นำรถมาก็มีทั้งจอดใต้อาคารและจอดนอกอาคารซึ่งก็มีพื้นที่จอดเหลือเฟือ ส่วนฮอลล์ที่จัดงานก็สามารถเดินมาเข้าห้องน้ำและขึ้นไปรับประทานอาหารที่ Food Yard ซึ่งอยู่ชั้นบนได้อย่างสะดวก ใครหิวหรืออยากพักชิล ๆ ก็พักได้สบายเลย
พอถึงเวลา 12.00 น. ประตูเปิดให้ผู้ชมได้เข้าไปรอจับจองพื้นที่หน้าเวทีเพื่อรอชมศิลปินที่ชื่นชอบ จากนั้น 13.00 น. คอนเสิร์ตก็เริ่มแบบตรงเวลา ศิลปินคนแรกที่ขึ้นมาบนเวทีก็คือ ‘XOOOS’ หรือ คิมซูยอน ศิลปินสาวผู้แจ้งเกิดบนโลกออนไลน์จากการคัฟเวอร์เพลงดัง ถึงแม้ XOOOS จะไม่ได้มีแบนด์มาด้วย แต่ด้วยความน่ารักและเสียงเพราะ ๆ ก็เพียงพอที่จะสะกดแฟน ๆ ได้แล้ว XOOOS ขนเพลงมาร้องให้เราฟังมากมายทั้งเพลงฮิต ๆ ที่เธอนำมาคัฟเวอร์อย่าง “Out of Time” ของ The Weeknd เพลง K-pop ดัง ๆ โดน ๆ อย่าง “Hype Boy” ของ NewJeans หรือจะเป็น “Seven” ผลงานเดี่ยวของหนุ่มจองกุก BTS ที่พอมาเป็นเสียงร้องของ XOOOS ก็ฟังเพลินดีเหมือนกัน และแน่นอนว่า XOOOS ก็นำเอาผลงานเพลงของเธอมาร้องให้พวกเราฟังด้วยทั้ง “Bad At Us” และ “Naked” ที่เล่นเป็นเพลงปิดโชว์ซึ่งเธอขอให้แฟน ๆ ร่วมร้องด้วย ตลอดโชว์ XOOOS ก็มีพักทักทายแฟน ๆ ไปด้วยพูดอังกฤษบ้าง เกาหลีบ้าง สร้างบรรยากาศสบาย ๆ แจกความน่ารักสดใสให้กับผู้ชม
ศิลปินคนต่อมาที่ขึ้นมาบนเวทีเดียวกันต่อเลยก็คือ ‘MILENA’ นักร้องนักแต่งเพลงสาวชาวเกาหลีใต้ที่น่าจับตามองมาก ๆ งานเพลงของเธอมีพลังและแสนละมุนละไม เธอมาพร้อมรอยยิ้มสดใสและเสียงร้องสะกดใจ ขนเอาบทเพลงจากอีพี ‘Sweet’ และอัลบั้ม ‘Riddle’ ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้ฟังอยู่ในขณะนี้มาร้องให้เราฟังแบบสด ๆ เป็นโชว์ที่เพลิดเพลินมาก ทั้งเสียงร้องเพราะ ๆ และการชวนคุยเป็นกันเองของเธอกับผู้ชมก็ทำให้บรรยากาศดูสบาย ๆ และสดใสขึ้นมา
จากนั้นโชว์ก็สลับไปที่เวทีเล็กด้านข้างเพื่อให้ศิลปินคนต่อไปได้เตรียมการแสดงบนเวทีใหญ่ ศิลปินคนแรกที่ขึ้นโชว์บนเวทีเล็กก็คือ ‘เดนิส จูเลีย (Denise Julia)’ นักร้องสาวอาร์แอนด์บีรุ่นใหม่จากประเทศฟิลิปปินส์ ที่กำลังมาแรงจากซิงเกิล “NVMD” ผลงานแจ้งเกิดที่กลายเป็นไวรัลฮิตไปทั่วโลก Julia มาพร้อมแดนเซอร์สาวและบทเพลงที่มีทั้งท่วงทำนองที่เร้าใจและไพเราะ จูเลียจัดเต็มทั้งบทเพลงช้าเพลงเร็วและ “NVMD” บทเพลงแจ้งเกิดของเธออิ่ม ๆ ฟิน ๆ กันไป
จากนั้นโชว์ก็กลับมาที่เวทีใหญ่อีกครั้งคราวนี้เป็นของหนุ่ม ‘เจค สก็อต (Jake Scott)’ ศิลปินป๊อปจากอเมริกา ผู้มาพร้อมกับผลงานเพลงแนวฟีลกู๊ดแสนผ่อนคลาย แต่พอเพลงสนุก ๆ มันส์ ๆ หนุ่มเจคก็พาเอาผู้ชมมันส์ไปด้วยเหมือนกัน เจคเปิดโชว์ด้วยเพลง “CWJBHN” เพลงความหมายดี ๆ ในอารมณ์ฟีลกู๊ดบิลด์อารมณ์ผู้ชมให้สดชื่น เจคมาพร้อมมือกลองที่มาตีแบบสด ๆ ให้อารมณ์แน่น ๆ เจคขนเพลงฮิตของตัวเองมาเล่นเพียบไม่ว่าจะเป็น “Maybe” “Texas Girl” (ที่เขาขอเปลี่ยนเป็น “Bangkok Girl” เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟน ๆ กันไป) “She” “Burn” ซิงเกิลใหม่ที่ฟีเจอริงกับ John K. และอีกมากมาย แถมยังมีเซอร์ไพรส์เล่นเพลงเอาใจเหล่า Swifties ด้วยการเล่นเพลง “All Too Well” ส่วนโมเมนต์ที่น่าประทับใจสุด ๆ ในโชว์ของเจคคือตอนที่เจคจะเล่นเพลง “Tuesday” บทเพลงที่เขาแต่งให้กับภรรยาซึ่งเขาก็เตรียมมาทั้งวิดีโอและฟีลลิงแบบเตรียมจัดเต็ม แต่พอขึ้นเพลงได้ไม่นานไมค์ของเจคก็มีปัญหาเล็กน้อย เขาจึงตัดสินใจที่เล่นเพลงนี้แบบ unplug และเดินมาที่ด้านหน้าเวทีท่ามกลางผู้ชมที่ยืนรายล้อม จากนั้นเขาก็บทเพลงบทเพลงสุดรักของเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุนแต่เปี่ยมไปด้วยพลังพร้อมบรรเลงกีตาร์ไปด้วยถึงแม้จะเบา ๆ เพราะไม่มีเครื่องขยายเสียงแต่เราก็รับอารมณ์ไปได้แบบเต็ม ๆ กลายเป็นโมเมนต์ที่น่าประทับใจไปเลย จากนั้นเจคก็ขึ้นมาจัดเต็มต่อบนเวทีใส่ต่อแบบเต็ม ๆ อีกหลายเพลงและจบโชว์ด้วยเพลงฮิต “Favorite T-Shirt” จบโชว์อย่างสวยงาม
ไปต่อกันที่เวทีเล็กด้านข้างกับ ‘DHRUV’ นักร้องหนุ่มเจ้าของเสียงนุ่มละมุนฟอร์มร้อนแรงจากเพลงฮิต “double take” ที่มียอดสตรีมบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในหลักพันล้านครั้ง นี่คือศิลปินที่แม้แต่ Hanni แห่งวง NewJeans ยังชื่นชอบ และเราก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายคนจึงปลื้มหนุ่มคนนี้ การแสดงสดของ Dhruv นับว่าน่าประทับใจมาก เขามาพร้อมวงที่มีมือกลองและมือกีตาร์ที่ขับกล่อมทุกไลน์ดนตรีให้สดฉ่ำช่วยให้บทเพลงมีพลังมาก งานนี้ Dhruv ขนเอาเพลงฮิตมาบรรเลงอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็น “airplane thoughts” “vulnerable” moonlight” “blur” และแน่นอน “double take” เพลงฮิตถล่มทลายของเขา
ต่อมาก็ถึงเวลาของ ‘RINI’ ที่รออยู่ที่เวทีใหญ่ เขาคือนักร้องนักแต่งเพลงแนวอาร์แอนด์บีจากประเทศออสเตรเลีย ขวัญใจแฟนเพลงชาวไทยที่หลายคนรอชมการแสดงสดในไทยของเขามาตลอดหลายปี จะมา ๆ หลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่มีจังหวะเสียที คราวนี้แฟน ๆ ที่รอชมการแสดงสดของ RINI ก็ไม่มีผิดหวัง คว้าความฟินกลับบ้านไปแบบอิ่ม ๆ RINI มาพร้อมวงแบบฟูลแบนด์ ครบเครื่องในทุกท่วงทำนอง การแสดงสดของเขาเรียกว่าเอาอยู่มาก ๆ ทั้งเปี่ยมไปด้วยพลังและโรแมนติก ใครที่อยากจะฟังเพลงฮิตของเขาอย่าง “My Favourite Clothes” และ “Meet Me in Amsterdam” ก็ฟินกันไปเต็ม ๆ แถมก่อนบรรเลงหนุ่ม RINI ยังพูดถึงที่มาของเพลงอันเป็นเรื่องราวความรักระหว่างเขาและสาวคนรักที่ทั้งโรแมนติกและเหงาเศร้าทำให้เราเข้าใจเลยว่าทำไมเพลงของเขามันถึงโดนขนาดนี้
และก็มาถึงคิวของหนึ่งในศิลปินไทยของโชว์นี้ ‘ซิลวี (SILVY)’ นักร้องสาวลูกครึ่งไทย-อิตาลีเจ้าของเสียงทรงพลังและการแสดงสดที่สนุกสนาน ตราตรึง คราวนี้เธอมาพร้อมกับทีมแบบครบเครื่องทั้งดีเจ มือเบส มือกลอง มือกีตาร์และแดนเซอร์ โชว์ของซิลวีสนุกสนานเฮฮามาก และคราวนี้ก็พิเศษกว่าคราวก่อนที่เธอแสดงใน งาน Very Festival 2022 เมื่อปลายปี เพราะครั้งนั้นเซตเพลงเน้นเร้าใจมันส์ ๆ เสียมากกว่าแต่ว่าคราวนี้ซิลวีนำเอาเพลงช้ามาเล่นด้วยหลายเพลงอย่าง “Far” บทเพลงที่ฟีเจอริงกับ เจฟฟ์ ซาเตอร์ (Jeff Satur) หรือว่า “PLS” (Pretty little superstar) เพลงหวาน ๆ ที่ซิลวีบอกว่าแต่งให้กับสาว รวมไปถึงเพลงอารมณ์ดาร์ก ๆ ก็ถูกนำมาบรรเลงด้วย เรียกได้ว่าครบรสเลย แถมยังมีเพลงใหม่ที่ซิลวีบอกว่าแต่งให้สาว (อีกแล้ว) ซึ่งตอนนี้ยังเป็นเดโมอยู่ชื่อเพลงว่า “ใกล้เธอ” (Pretty Girl) ซึ่งถ้าปล่อยมาเมื่อไหร่น่าจะเป็นอีกบทเพลงที่โดนใจแฟน ๆ อย่างแน่นอน
จากนั้นก็มาอาบอารมณ์ร็อกมันส์ ๆ กันกับ ‘THE ACADEMIC’ วงอินดี้ร็อกจากประเทศไอร์แลนด์ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามจากอัลบั้ม ‘Tales from the Backseat’ ซึ่งได้รับความนิยมจนขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต คราวนี้พวกเขาขนเพลงดังของวงอย่าง “Different” “Bear Claws” “Permanent Vacation” พร้อมทั้งบทเพลงจากอัลบั้มใหม่ ‘Sitting Pretty’ ที่เพิ่งออกเมื่อต้นปีนี้ มาบรรเลงกันแบบมันส์ไม่มียั้ง สาดกันสุดจริง ๆ
และแล้วก็ถึงเวลาของ ‘THE POLES’ วงดนตรีอินดี้ร็อกจากประเทศเกาหลีใต้กับการแสดงครั้งแรกในไทย (แต่ไม่ใช่ครั้งแรกของ แดเนียล คิม (Daniel Kim) นักร้องนำของวงนี้และวง Wave to Earth เพราะแดเนียลมาไทยพร้อม Wave 2 ครั้งแล้วทั้งใน Very Festival และคอนเสิร์ตเดี่ยวของวงเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา) เพลงของ THE POLES มีกลิ่นของวง Wave to Earth อยู่ (ก็แน่นอนล่ะ) แต่จะเน้นไปที่เพลงที่มีอารมณ์ร็อกมากกว่า ซึ่งแดเนียลก็มาพร้อมเสื้อยืดวง Led Zeppelin แบบให้รู้ว่างานนี้มาร็อกแน่ นับว่าโชว์ของ THE POLES ครบเครื่องอยู่เพราะนอกจาก 3 สมาชิกกีตาร์-เบส-กลองแล้ว ก็ยังมีมือคีย์บอร์ดที่เล่นให้กับโชว์ของ Wave to Earth มาร่วมสร้างสีสันให้กับการแสดงสดของวงด้วย ซึ่ง THE POLES ก็มาพร้อมกับบทเพลงในอัลบั้ม ‘The High Tide Club’ ที่เร้าใจใส่เต็มทุกบทเพลง ส่วนเพลงโดน ๆ ชวนเคลิ้มก็มีมาด้วยเช่นกันอย่าง “Strawberry Moon” หรือว่า “space” ที่ทำเอาเคลิ้มกันไปเลย ส่วนแดเนียลก็ทักทายกับแฟน ๆ ชาวไทยแบบคุ้นเคยกันดีเพราะมาไทยหลายทีแล้ว และแดเนียลก็ยังคงแสดงความประทับใจต่อเมืองไทยและแฟน ๆ ที่นี่ แถมยังโชว์รอยสักที่สักไว้ตั้งแต่มาไทยครั้งที่แล้วเพื่อบันทึกความทรงจำดี ๆ ในช่วงเวลาที่ได้มาเล่นที่บ้านเรา
พอโชว์ของ THE POLES จบลงตามเวลา ก็เป็นอันรู้กันว่าโชว์ต่อไปที่เวทีใหญ่จะถึงเวลาของ ‘ซาบรินา คาร์เพนเตอร์ (Sabrina Carpenter)’ ศิลปินสาวสุดฮอตจากอเมริกา แฟน ๆ ส่งเสียงเรียกซาบรินาพร้อมเตรียมเฮกันกับโชว์ของเธอ แต่ว่าก็เป็นอันต้องสะดุดจากความขัดข้องทางเทคนิคที่ทำให้โชว์ต้องล่าช้าไปเกือบชั่วโมง ผู้ชมต้องออกไปพักรอใจร่ม ๆ กันก่อน และในที่สุดก็ถึงเวลาของ ซาบรินา คาร์เพนเตอร์ สาวตัวเล็กแต่พลังเหลือล้น ที่ขึ้นเวทีมาพร้อมวิดีโอประกอบเป็นฉากหลังสุดอลัง (ที่เติมอารมณ์ให้กับทุกเพลง สร้างบรรยากาศของเวทีให้เรารู้สึกว่าเธอร้องอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ ได้แบบดีมาก) และวงแบบเต็มแบนด์ครบเครื่องสุด ๆ เพียงแค่เพลงแรก ซาบรินาก็สะกดเราได้อยู่หมัด ลืมเรื่องที่ต้องรอนานไปเลย โชว์ของ Sabrina คุ้มค่าแก่การรอคอยมาก ๆ พลังของเธอนั้นเหลือล้นจริง ๆ อีกทั้งยังมีโปรดักชันคุณภาพของโชว์พร้อมทั้งนักดนตรีที่มีสกิลเหลือหลาย ทำให้แต่ละบทเพลงถูกบรรเลงอย่างเปี่ยมไปด้วยพลัง บทเพลงโดน ๆ ของเธอถูกจัดมาแบบจุก ๆ และแน่นอนว่าต้องมีเพลง “because I liked a boy” ที่เธอพูดถึงที่มาเพลงของเพลงนี้และการที่มันต้องมีคำว่า ‘slut’ ทำให้แฟน ๆ อินกันไปก่อนที่จะบรรเลงแบบฟิน ๆ ส่วนบทเพลงปิดโชว์ก็คือ “Nonsense” บทเพลงฮิตเพลงล่าสุดของเธอ ที่โดนใจใครหลาย ๆ คน เรียกได้ว่าโชว์ของซาบรินาช่างน่าจดจำแบบมิรู้ลืม บอกเลยว่าเธอนี่มันสาวป๊อปเปี่ยมเอเนอร์จีจริง ๆ
จากนั้นบนเวทีเล็กก็มี ‘เกบ วัตคินส์ (Gabe Watkins)’ หนุ่มลูกครึ่งไทย – ออสเตรเลีย คลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามองจากค่าย What The Duck ที่มาพร้อมบทเพลงอินดี้ป๊อปในมู้ดสดใสและชวนให้รู้สึกโรแมนติก โชว์ของ Gabe มาพร้อมวงแบบครบเครื่องกีตาร์ เบส กลอง จัดเต็ม ๆ เพลงเพราะ ๆ ทั้ง “Sunset” “Blue Skies” “Flowers From Japan” “One Summer” และซิงเกิลล่าสุด “Feels Like Home” เคลิ้ม ๆ กันไปเลย
และแล้วก็ใกล้จะถึงเวลาที่ ‘DRP IAN’ หรือ คริสเตียน ยู ศิลปินหนุ่มลูกครึ่งเกาหลี-ออสเตรเลีย อดีตสมาชิกวงเค-ป๊อป ‘C-Clown’ ที่จะขึ้นแสดงเป็นโชว์ปิดท้ายงาน ผู้ชมต้องรออีกสักเล็กน้อย ให้ทีมเซตเครื่องให้พร้อม ออกจะนานสักนิดและง่วงสักหน่อย แต่แฟน ๆ ก็ไม่ย่อท้อเพราะว่าการจะได้ชม DRP IAN แสดงนั้นมันจะต้องคุ้มอย่างแน่นอน และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึงเมื่อวงได้ขึ้นมาแสตนบายบนเวทีจากนั้นวิดีโออินโทรของโชว์ก็เริ่มขึ้นเป็นเรื่องราวของเทพที่ตกลงมาจากฟากฟ้า ปฐมบทเรื่องราวของตัวละครที่ DRP IAN ใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์บทเพลงของเขา วิดีโอประกอบโชว์เหล่านี้ถูกสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันโดย IAN และทีม DRP (DREAM PERFECT REGIME) กลุ่มนักสร้างสรรค์ที่ทำงานกันอย่างเปี่ยมไปด้วยพลังและความอิสระ วิดีโอเหล่านี้ช่วยให้ทุกบทเพลงของ IAN มีเรื่องราวและเร้าอารมณ์ได้ดีมาก ๆ
นอกจากนี้วงดนตรีของ IAN ยังมาแบบครบเครื่องช่วยเติมเต็มทุกท่วงทำนองให้สดแน่น และแน่นอนว่าไฮไลต์นั้นก็คือหนุ่ม DPR IAN ที่เป็นศิลปินที่มีความสามารถอยู่ในตัวอย่างล้นเหลือ ไม่แปลกเลยที่การแสดงสดในเทศกาลดนตรีระดับโลก Coachella 2023 นั้น DPR IAN ถูกสื่อนิยามว่า “ฮอตเกินต้าน” ทั้งลุค ทั้งการร้อง การเต้น และการสร้างสรรค์บทเพลง DPR IAN ทำให้เรารู้สึกว่าศิลปินหนุ่มคนนี้กำลังคลี่เผยตัวตนภายในของเขาออกมาให้เราชมอย่างเปี่ยมไปด้วยสุนทรียะทางดนตรี บทเพลงของเขาคือตัวตนอันเร่าร้อน ลุ่มลึก และละมุน ทุก ๆ บทเพลงของเขาไม่ว่าจะเป็น “1 shot” “Mood” “Avalon” “Scaredy Cat” “Mr.Insanity” “Ballroom Extravaganza” หรือว่า “So Beautiful” ล้วนแล้วแต่สะท้อนตัวตนของเขาได้อย่างดี ทำให้โชว์นี้ผ่านไปอย่างรวดเร็วด้วยความเพลิดเพลินและจบลงอย่างงดงาม ก่อนจะเดินไปหลักเวที DPR IAN ก็ยังได้เดินมาทักทายแฟน ๆ หน้าเวทีอย่างยิ้มแย้มเป็นกันเองมาก รับของที่แฟน ๆ เตรียมมาจนครบทุกชิ้นก่อนที่จะลาแฟน ๆ ไป เป็นการจบโชว์ที่งดงามทั้งของตัวเขาเองและ Very Summer Fest ในปีนี้
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส