นับได้ว่ายังคงเป็นศิลปินดาวรุ่งที่ยังคงพุ่งแรงแบบฉุดไม่อยู่จริง ๆ สำหรับ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ในวัย 34 ปี ที่นอกจากจะประสบความสำเร็จทั้งในด้านของทัวร์คอนเสิร์ต อัลบั้ม Re-Recorded อัลบั้มใหม่ที่กำลังจะวางแผง หรือแม้แต่ชีวิตส่วนตัวและความรักที่กำลังหวานชื่นสุด ๆ รวมทั้งในเวลานี้เธอยังกลายเป็นศิลปินคนแรก และเพียงคนเดียวที่กลายมาเป็นเศรษฐินีพันล้านอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นิตยสาร Forbes ได้เปิดเผยรายชื่อมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกประจำปีที่ผ่านมา โดยนอกจากในปีนี้ เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ (Bernard Arnault) เจ้าของบริษัท LVMH ของประเทศฝรั่งเศส เจ้าของอาณาจักรแบรนด์แฟชันทั้ง Louis Vuitton, Tiffany & Co. ,Dior และอีกมากมาย จะกลายมาเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ด้วยตัวเลขทรัพย์สินสุทธิ 211,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 7,740 ล้านล้านบาท แซงหน้ามหาเศรษฐีตัวตึงอย่าง อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ไปแล้วนั้น
ในลิสต์ดังกล่าวที่ Forbes ยังได้เปิดเผยจำนวนมหาเศรษฐีจากทั่วโลกในทุกหมวดอาชีพ จากปี 2024 รวมทั้งหมดกว่า 2781 คน โดยปรากฏว่า ในปีนี้ ศิลปินซูเปอร์สตาร์ระดับโลก สามารถขึ้นมาติดอันดับในรายชื่อนี้ในอันดับที่ 2545 เป็นครั้งแรก ด้วยรายได้ 1,100 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 40,000 ล้านบาท ร่วมตำแหน่งเดียวกันกับ แซม อัลต์แมน (Sam Altman) ประธานกรรมการบริหาร ChatGPT แชตบอต AI ชื่อดังของโลก
โดย Forbes ได้รายงานว่า แม้สวิฟต์จะไม่ใช่ศิลปินคนแรกที่มีรายได้แตะหลักพันล้านเหรียญ เพราะก่อนหน้านี้ ศิลปินระดับโลกทั้ง เจย์-ซี (Jay-Z), ริฮานนา (Rihanna) และ จิมมี บัฟเฟตต์ (Jimmy Buffett) จะเป็นศิลปินที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีพันล้านมาก่อน แต่สวิฟต์ถือเป็นนักดนตรีคนแรก และคนเดียวที่สามารถกลายมาเป็นมหาเศรษฐีพันล้านที่มีรายได้จากการเป็นศิลปินอย่างเดียว ทั้งในแง่รายได้จากแคตตาล็อกลิขสิทธิ์เพลง ยอดขายอัลบั้ม รวมทั้งรายได้จากการแสดงทัวร์คอนเสิร์ต โดยไม่มีรายได้จากธุรกิจอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง
นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2023 ทัวร์คอนเสิร์ต ‘The Eras Tour’ เป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่สร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการทำทำรายได้ทะลุหลัก 1,000 ล้านเหรียญเป็นครั้งแรก ทำให้กลายเป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่สามารถทำรายได้สูงที่สุดตลอดกาล รวมทั้งภาพยนตร์บันทึกการแสดงสดในครั้งนี้ที่ออกฉายทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม ยังทุบสถิติ Box Office เป็นหนังคอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงที่สุดตลอดกาลด้วยตัวเลขกว่า 261 ล้านเหรียญ
และตัวเลข 1,100 ล้านเหรียญที่สวิฟต์ได้รับนั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงได้ง่าย ๆ ด้วย เพราะในเวลานี้ ตารางทัวร์ ‘The Eras Tour’ นั้นยังไม่เสร็จสิ้น โดยหลังจากที่ปิดฉากเส้นทางสายเอเชียที่สิงคโปร์ไปแล้วก่อนหน้านี้ ณ ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในระหว่างพัก เพื่อเตรียมตัวกลับมาเดินสายใน Venue ที่เหลือทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกา และแคนาดา โดยจะเริ่มต้นเดินสายในประเทศโปรตุเกส ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้
นอกจากนี้ สวิฟต์ เจ้าของสถิติอัลบั้มแห่งปี (Album of the Year) 4 รางวัลจากเวที Grammy Awards ยังมีรายได้จากการทยอยปล่อยอัลบั้มบันทึกเสียงใหม่ (Re-Recorded) หรือที่เรียกกันว่าเป็น ‘Taylor’s Version’ ออกมาเรื่อย ๆ โดยอัลบั้ม ‘1989 (Taylor’s Version)’ ที่ปล่อยออกมาเมื่อเดือนตุลาคม สามารถทำสถิติยอดขายแผ่นเสียงที่สูงที่สุดในโลกด้วยตัวเลขเกิน 1 ล้านชุด และคาดว่าน่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก หลังจากที่เธอปล่อยสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 11 อย่าง ‘The Tortured Poets Department’ ที่มีกำหนดวางแผงในวันที่ 19 เมษายนนี้
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 เมษายน สวิฟต์สามารถคว้ารางวัลในงาน ‘iHeartRadio Music Awards’ ประจำปี 2024 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับศิลปินที่มีเพลงเปิดบนสถานีวิทยุ iHeartMedia และแพลตฟอร์มดิจิทัล iHeartRadio ของสหรัฐอเมริกา โดยสวิฟต์สามารถคว้ารางวัลจากเวทีนี้ไปมากที่สุดถึง 6 สาขา ได้แก่รางวัลศิลปินแห่งปี (Artist Of The Year), ศิลปินป๊อปแห่งปี (Pop Artist Of The Year), คอนเสิร์ตทัวร์แห่งปี (Tour Of The Year), เนื้อเพลงแห่งปี (Best Lyrics) จากเพลง “Is It Over Now ? (Taylor’s Version)”, รางวัลเพลงฮิตใน TikTok (TikTok Bop) จากเพลง “Cruel Summer” และสไตล์การแต่งตัวบนทัวร์คอนเสิร์ตแห่งปี จากการโหวตของผู้ชม (Favorite Tour Style) จาก ‘The Eras Tour’