คอนเสิร์ตครั้งแรกในไทยของนักร้อง นักแต่งเพลงสาว ซาช่า อเล็กซ์ สโลน (Sasha Alex Sloan) เจ้าแม่เพลงเศร้าขวัญใจแฟนเพลงชาวไทย ใน “Sasha Alex Sloan ‘Me Again’ Tour Asia” อันเป็นส่วนหนึ่งของทัวร์อัลบั้มใหม่ “Me Again” เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2024 ที่ผ่านมาที่ Lido Connect เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจสำหรับแฟน ๆ ซาช่าได้ถ่ายทอดบทเพลงของเธอออกมาอย่างอบอุ่น น่ารักเป็นกันเอง และสร้างความประทับใจอย่างที่สุด แน่นอนว่ามีเพลงฮิตที่เป็นที่ชื่นชอบของแฟน ๆ ครบถ้วน
บรรยากาศก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่ม ก่อนประตูเปิดเข้าไปในเวลา 19.00 น. แฟน ๆ ก็มารอกันเต็มแล้ว ทำให้รู้เลยว่าแฟนเพลงของซาช่าในไทยนี่มีเยอะใช่เล่นเลย ทำให้บรรยากาศคึกคักดีทีเดียว บ้างก็พูดคุยกันถึงเพลงโปรดและเพลงที่หวังว่าจะได้ฟังในคอนเสิร์ตครั้งนี้ บ้างก็ไปซื้อ merchandise เก็บไว้เป็นที่ระลึก รู้สึกดีใจที่เห็นแฟนเพลงหลายวัยของซาช่ามารวมตัวกันด้วยความรักที่มีต่อดนตรีที่เต็มไปด้วยความคิดและอารมณ์ของเธอ
ก่อนที่จะไปเล่าแบบละเอียด ก็ขอบอกว่าบรรยากาศโดยรวมของคอนเสิร์ตนั้นทั้งสนุกสนาน อบอุ่น และซาบซึ้ง เสียงร้องและการแสดงของซาช่า เต็มด้วยความจริงใจและความลึกซึ้งสุดฟินทางอารมณ์ การสื่อสารของซาช่ากับแฟน ๆ เป็นไปอย่างอบอุ่นและน่ารักเป็นกันเอง ยิ่งทำให้เธอเป็นที่รักของแฟน ๆ มากยิ่งขึ้นไปอีก และนอกเหนือจากตัวซาช่าแล้วเธอก็ยังมีวงดนตรีแบ็กอัปฝีมือเยี่ยม ซึ่งมีเพียง 2 คนเท่านั้นคือมือกีตาร์ไฟฟ้าและมือกลอง (ซึ่งบางเพลงก็สลับมาเล่นกีตาร์) แต่กลับทำให้การแสดงสดครั้งนี้แน่นปึกมาก ๆ ทำให้การแสดงของเธอมีความเข้มแข็งและเพิ่มพลังให้กับอารมณ์ของแต่ละเพลงได้เป็นอย่างดี
นั่นจึงทำให้การได้สัมผัสประสบการณ์การแสดงสดของซาช่า อเล็กซ์ สโลน นั้นแตกต่างอย่างมากจากการฟังเพลงของเธอผ่านสตรีมมิง ขณะที่เพลงที่บันทึกในสตูดิโอมีความเนี้ยบ เรียบเนียนและเข้าถึงอารมณ์ได้ดีอยู่แล้ว แต่การแสดงสดของเธอกลับยิ่งส่งอารมณ์และความทัชใจได้เป็นอย่างดีเมื่อเราได้มายืนอยู่ตรงหน้าซาช่าและเสพรับอารมณ์ในบทเพลงของเธอแบบตรง ๆ นอกจากนี้การทักทายพูดคุยของซาช่ากับแฟน ๆ ในระหว่างการแสดงสดก็สร้างความมีชีวิตชีวา ความรู้สึกใกล้ชิดและสร้างความอินให้กับเพลงของเธอมากยิ่งขึ้นไปอีก
คอนเสิร์ตในวันนี้ซาช่ามาแบบตรงเวลาเป๊ะ พอ 20.00 น. ซาช่ากับวงของเธอก็ปรากฏตัวขึ้นมาบนเวทีอย่างไม่มีล่าช้าให้แฟน ๆ ต้องรอ ซาช่าเปิดคอนเสิร์ตด้วยบทเพลงแรก “Cowboys Cry” ที่มาในท่วงทำนองสบาย ๆ เป็นการทักทายแฟน ๆ ด้วยเสียงเพลงอันสวยงามของเธอ ก่อนจะขยับจังหวะขึ้นมากับเพลง “Thoughts” หลังจากจบเพลงนี้ ซาช่าก็ใช้เวลาพักเพื่อทักทายแฟน ๆ ด้วยความดีใจที่ในที่สุดเธอได้มีโอกาสมาที่นี่ เธอแสดงความขอบคุณต่อแฟน ๆ ที่มาชมการแสดงของเธอ และถามแฟน ๆ ว่าพร้อมที่จะเศร้ากันแล้วหรือยัง แฟน ๆ ตอบกลับพร้อมเพรียงว่า “พร้อมแล้ว” ซาช่ายิ้มและพูดว่า “คุณมาถูกที่แล้ว” ทำให้แฟน ๆ หัวเราะและรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นใจในบรรยากาศที่เป็นกันเอง
จากนั้นเพลงต่อมาคือ “Oxygen Mask” ก็ได้ถูกบรรเลง โหมโรงฟีลเศร้า ๆ อันเป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์ในเพลงชองซาช่า เป็นการนำเราเข้าสู่อารมณ์เศร้าที่งดงามได้อย่างทรงพลัง ต่อด้วย “Kids” หนึ่งในเพลงเจ๋ง ๆ จากอัลบั้มล่าสุด “Me Again” ที่มาพร้อมมุมมองและเนื้อร้องที่เฉียบคม พร้อมเมโลดี้ที่ติดหู
ทั้ง 4 เพลงที่บรรเลงมาซาช่าทั้งร้องและเล่นกีตาร์ไปพร้อมกัน ในเพลงต่อมาได้เวลาเธอวางกีตาร์และมาร้องอย่างเดียว ซาช่าเลยได้เดินไปมาทักทายแฟน ๆ ไปด้วยระหว่างร้องเพลง “Lie” เพลงจังหวะสนุก ๆ ที่ทำให้แฟน ๆ ได้ขยับโยกย้ายตัวไปกับท่วงทำนองสวย ๆ ต่อด้วย “Keep on” ที่ขึ้นมาด้วยไลน์กีตาร์ปิ๊กกิงอินโทรสวย ๆ และต่อเนื่องด้วย “Smiling When I Die” เป็นเซตเพลงอารมณ์ต่อเนื่องที่ฟังแล้วรู้สึกสดชื่นใจได้อารมณ์ดีจริง ๆ
ก่อนที่จะพักอีกครั้งเพื่อตั้งสายกีตาร์และทักทายแฟน ๆ หยอดคำหวานให้ชื่นใจ “ขอบคุณจริง ๆ ค่ะที่ทุก ๆ คนมากัน กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่สวยจริง ๆ ค่ะ” พร้อมทักทายอย่างเป็นกันเองกับแฟน ๆ ระหว่างนี้อินโทรอันละมุนเศร้าก็เคล้าขึ้นมา ท่วงทำนองของ “Runaway” บทเพลงเศร้าลำดับต่อมาของโชว์นี้ก็ได้ดังขึ้น พอได้ฟังซาช่าเล่นสด ๆ แล้วมันลึกมากเลยจริง ๆ เสียงร้องของซาช่านุ่มนวลแต่ทรงพลัง เข้าถึงความรู้สึกโหยหาและความเปราะบาง ทีมแบ็กอัปที่แข็งแรงช่วยเติมเต็มความจริงใจในน้ำเสียงของเธอ ทำให้ผู้ฟังรู้สึกถึงความลึกซึ้งจากภายในจิตใจของเธอ
ต้องบอกเลยว่าการแสดงของซาช่า โดดเด่นด้วยการจัดการแสดงแบบน้อยแต่มาก มีเสียงร้องของเธอและเสียงจากกีตาร์โปร่งที่เธอบรรเลงเอง ส่วนวงแบ็กอัปก็ทำหน้าที่เล่นกีตาร์ไฟฟ้า และกลอง นอกจากนี้คือซาวนด์ประกอบเพิ่มเติมแต่เพียงเล็กน้อย แต่มันกลับเอาเราอยู่อย่างมาก อาจเพราะด้วยความเรียบง่ายนี้จึงช่วยให้เสียงร้องของเธอและอารมณ์ในการเล่าเรื่องในเนื้อเพลงได้เป็นจุดสนใจหลักที่สื่อสารออกมาได้อย่างดี โดยมีเสียงดนตรีสร้างบรรยากาศห้อมล้อมเรื่องราวและอารมณ์นั้นไว้ ทำให้เกิดท่วงทำนองที่สัมผัสใจของผู้ฟังได้โดยง่าย ใกล้ชิด เป็นธรรมชาติ และเข้าถึง
จากนั้นก็มาต่อเนื่องด้วย “New Normal” “Hypochondriac” อีกลิสต์เพลงเพราะ ๆ ที่ฟังแล้วเพลินมาก จบเพลงนี้ก็มีโมเมนต์พิเศษนิดหนึ่งด้วยการร้องเพลงแฮปปีเบิร์ทเดย์เซอร์ไพรส์ เปโดร คัลโลนี (Pedro Calloni) มือกลองแบ็กอัปฝีมือเยี่ยมของซาช่า ที่ไม่ได้เล่นแค่กลองเพราะในเพลงอื่น ๆ เปโดรก็สลับไปเล่นกีตาร์โชว์ลีลาบ้าง เช่นในเพลงต่อมา “Highlights” นั่นเองที่เปโดรโชว์ไลน์กีตาร์ปิ๊กกิงเพราะ ๆ ให้เราได้ฟังกัน และก่อนเข้าเพลงต่อมาซาช่าก็คุยกับแฟน ๆ แบบสบาย ๆ ขำ ๆ ทำให้ต้องปรับอารมณ์กันนิดหนึ่ง เพราะเพลงต่อมา “House With No Mirrors” นี่นับว่าเศร้าใช้ได้เลยทีเดียว ซึ่งซาช่านี่ก็ปรับอารมณ์และน้ำเสียงได้ทันท่วงที สามารถถ่ายทอดอารมณ์เพลงได้อย่างดีไม่มีสะดุด
เศร้ากันแล้วก็มาขยับกันด้วย ด้วยเพลงมัน ๆ จังหวะสนุก ๆ ชวนขยับอย่าง “I Blame The World” และมาขยับกันต่อกับ “Normal” ก่อนจะมาเศร้ากันอีกครั้งใน “Glad You Did” บทเพลงเนื้อหาคมคายจากอัลบั้ม “Me Again” ที่ฮีลใจคนที่มีรักเจ็บ ๆ ได้เป็นอย่างดี ฟังเพลงนี้แล้วก็มีพลังมูฟออนกล้าที่จะเดินหน้าออกไปจากรักที่ทำร้ายใจ “But pack your bags and don’t look back, one day you’ll be glad you did” ต่อด้วย “Don’t Laugh I’ll Cry” บทเพลงทัชใจที่พูดแทนใจใครหลาย ๆ คน ที่สิ่งที่แสดงออกไปมันอาจไม่เหมือนกับสิ่งที่อยู่ในใจนะเป็นการสะท้อนความเปราะบางออกมาอย่างคมคาย “Is It Just Me ?” คือบทเพลงต่อไปที่เหมือนเสียงสะท้อนถามไปบ่นไปใคร่ครวญภายในใจที่พอซาช่าเล่ามันออกมา กลับทำให้เรารู้สึกว่า “It isn’t just her for sure” เพราะสิ่งนี้คงเป็นสิ่งที่เรารู้ดีว่ามันเกิดขึ้นภายในใจของเราด้วยเหมือนกัน
มีโมเมนต์ที่ซาช่าแซวแฟนเพลงชาวไทยด้วยความชื่นชมว่าพวกเราดูมีความกระตือรือร้นที่จะฟังเพลงดาร์ก ๆ ของเธอ และความสนุกสนานเอ็นจอยที่แฟนเพลงชาวไทยมีให้ในทุกบทเพลงของเธอ นั่นทำให้เธอรู้สึกมีความสุข และประทับใจในการตอบรับที่ดีจากแฟนเพลงชาวไทย และซาช่ายังกล่าวว่าโชว์นี้คือโชว์ที่ดีที่สุดสำหรับเธอจริง ๆ
ต่อด้วย “Deep” อีกบทเพลงที่น่าจะเป็นเพลงโปรดของใครหลายคน บทเพลงนี้เหมือนเป็นแสงสว่างให้กับใจเรา ทำให้ผ่านเวลาที่เศร้าไปได้แบบไม่ซึม เพราะเนื้อร้องของซาช่าฮีลใจให้เราข้ามผ่านความเจ็บปวดไปและมีความหวังว่าแล้วมันผ่านไป วันใหม่กำลังจะมาถึง จากนั้นซาช่าก็บอกว่าเพลงต่อไปคือเพลงสุดท้าย (กำลังเพลินเลย) เพลงนั้นก็คือ “Older”
และแน่นอนว่าไม่มีใครยอมให้โชว์นี้จบง่าย ๆ โดยเฉพาะกับการที่เธอยังไม่ได้เล่นเพลงฮิตที่ใครหลาย ๆ คนรอคอย และก็เป็นดังคาดหลังแฟน ๆ ส่งเสียงเรียกร้องซาช่าไม่นาน เธอก็กลับมาพร้อมกับช่วงอังกอร์ส่งท้ายความประทับใจในอีกสองเพลงคือ “Too Sad to Cry” และ “Dancing With Your Ghost” เพลงฮิตตลอดกาลที่แฟน ๆ ร้องตามกันสนั่นฮอลล์ ในท่วงทำนองที่เศร้าซึ้งสวยงาม เป็นการจบคอนเสิร์ตอย่างสมบูรณ์แบบไม่มีอะไรค้างคา จะมีก็แต่ว่าซาช่าจะมาเล่นอีกทีเมื่อไหร่ ! รับรองไม่มีพลาดแน่นอน !!