จบไปแล้วกับมหกรรมคอนเสิร์ต Summer Sonic หนึ่งในเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากญี่ปุ่นครั้งแรกในไทยกับ “Summer Sonic Bangkok 2024” ที่จัดกันเต็ม ๆ 2 วันแบบเที่ยงวันยันเที่ยงคืน มีวงดนตรีหลายชาติหลายภาษามารวมกัน สร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าแฟนเพลงในไทยและประเทศเพื่อนบ้านที่ต่างเดินทางเพื่อมาร่วมงานนี้
โดยภาพรวมของเทศกาลนี้ทั้งศิลปินที่มา ทั้งภาพ เวที ระบบ แสง สี เสียง ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว ทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถสัมผัสประสบการณ์ทางดนตรีได้อย่างเต็มอิ่ม ถึงแม้จะมีข้อคอมเมนต์อยู่บ้างในรายละเอียดแวดล้อมมากมายที่ต้องคำนึง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลต่างเกี่ยวข้องกับความสะดวกสบายและการใช้ชีวิตในเทศกาลของผู้มาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ห้องน้ำ อาหาร เครื่องดื่ม การรักษาสวัสดิภาพต่าง ๆ นานา รวมไปถึงการสื่อสารผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่ผู้มาร่วมงานควรทราบในกรณีที่มีเหตุขัดข้องหรือการเปลี่ยนแปลงกำหนดการ ในสถานการณ์เช่นนี้การสื่อสารที่รวดเร็วจะช่วยให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ซึ่งทางผู้จัดก็ตั้งใจจัดงานออกมาอย่างดีที่สุด ดังนั้นข้อคอมเมนต์คราวนี้ก็จะช่วยให้ผู้จัดสามารถจัดงานคุณภาพได้เป็นอย่างดีในปีต่อ ๆ ไป
นอกเหนือจากประเด็นต่าง ๆ ที่กล่าวมาก็ต้องนับว่า Summer Sonic Bangkok 2024 ก็ทำหน้าที่ของเทศกาลดนตรีได้เป็นอย่างดี หัวใจของเทศกาลอย่างศิลปินและการแสดง รวมไปถึงเวทีภาพแสงสีเสียง ต้องนับว่าทำได้เยี่ยม ศิลปินแต่ละคนคือทุ่มสุดตัว ไม่มีคนไหนที่รู้สึกว่าดูไปแล้วเซ็ง ๆ เฉย ๆ ส่วนใหญ่แล้วอยู่ในระดับว้าว ไลน์อัปของศิลปินก็ไม่ทำให้แฟนเพลงผิดหวัง มีการรวมเอาศิลปินชั้นนำจากหลากหลายแนวเพลง ทั้งจากไทย ญี่ปุ่น เกาหลี และประเทศอื่น ๆ มาแสดง ทำให้ไม่แปลกใจที่เห็นแฟนเพลงที่หลากหลายมาก ๆ ทั้งวัยและสไตล์ มีทั้งวัยรุ่น คนวัยทำงาน รวมไปถึงชาวต่างชาติที่เดินทางมาร่วมสนุก
อีกหนึ่งจุดที่ดีก็คือการจัดเวที 2 เวที ซึ่งนอกจากเวทีหลักที่รวบรวมวงดนตรีและศิลปินรุ่นใหญ่ที่มีชื่อเสียงแล้ว ยังมีเวที Rising Star ที่เปิดโอกาสให้วงดนตรีรุ่นใหม่และศิลปินหน้าใหม่ได้มาโชว์ฝีไม้ลายมือ ช่วยเสริมสร้างความหลากหลายให้กับเทศกาล และยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เหล่าวงดนตรีรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถและสร้างฐานแฟนคลับของตนเองในงานที่ใหญ่แบบนี้ สำหรับแฟนเพลงก็ถือเป็นโอกาสที่ดีในการค้นพบศิลปินหน้าใหม่ที่อาจจะกลายเป็นศิลปินคนโปรดในอนาคต
สำหรับไฮไลต์ที่รู้สึกประทับใจจากโชว์ของศิลปินในเทศกาลนี้ อย่างแรกเลยคือการได้ดูวง Bodyslam และ F.HERO ขึ้นเล่นกับวง Baby Metal ซึ่งใครเป็นแฟนวง Baby Metal ก็ไม่ผิดหวังเพราะวงเล่นเพลงของตัวเองด้วยกันถึง 3 เพลง โดยมีวง Bodyslam มาเป็นแบ็กอัปให้ หนึ่งในนั้นคือเพลง “Papaya” ที่ได้ F.Hero มาร่วมฟีเจอริงบนเวทีด้วย จังหวะและความมันของเพลงทำให้บรรยากาศเดือดพล่านและทำให้ผู้ชมต้องโยกตามแบบไม่มีหยุด และที่เป็นไฮไลต์อันสาแก่ใจมากก็คือการที่ได้ฟังเพลง “Leave It All Behind” แบบสด ๆ เดือด ๆ สำหรับแฟนเพลงแล้ว การได้ฟังเพลงนี้ในบรรยากาศสด ๆ เหมือนกับได้สัมผัสกับสวรรค์อันเร่าร้อนแห่งดนตรีอย่างแท้จริง ทุกเสียงร้อง ทุกจังหวะของดนตรีที่ประสานกันอย่างลงตัวนี่มันสุดจริง
จากนั้นเฮดไลเนอร์ของวันแรก OneRepublic ก็ขึ้นมาสานต่อความมันด้วยการเล่นเพลงฮิตของวงอย่างเต็มพิกัด ไม่ปล่อยให้ผู้ชมได้หยุดพักหายใจ ตั้งแต่ต้นจนจบการแสดง ไม่ว่าจะเป็น “Secrets” “I Ain’t Worried” หรือว่า “Counting Stars” ก็มาหมด แถมยังมีช่วงสนุกเฮฮาที่นักร้องนำ ไรอัน เทดเดอร์ (Ryan Tedder) ได้สร้างความสนุกสนานและเซอร์ไพรส์ให้กับทุกคนด้วยการเปิด “ช่วงคาราโอเกะ” หรือ “คอนเสิร์ตในคอนเสิร์ต” โดยเขาได้นำเอาเพลงดัง ๆ ที่เคยแต่งให้ศิลปินชื่อดังหลายคนมาแสดงให้ฟังสด ๆ บนเวที ไม่ว่าจะเป็นเพลง “Halo” ที่แต่งให้กับ Beyoncé หรือเพลงที่แต่งให้กับ Maroon 5 แต่ที่เรียกเสียงกรี๊ดและทำให้แฟนเพลงในงานตื่นเต้นที่สุดคือเพลง “Rockstar” ที่เทดเดอร์ร่วมแต่งและโปรดิวซ์ให้กับ ลิซ่า (Lisa) การได้เห็นเขาร้องและแรปเพลงนี้ด้วยตัวเองบนเวที เป็นอะไรที่ทำให้หลายคนเซอร์ไพรส์และประทับใจอย่างมาก เรียกได้ว่าไม่มีข้อสงสัยใด ๆ อีกต่อไปว่าเขาคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเพลงฮิตนี้จริง ๆ
หลังจากช่วง “คาราโอเกะ” ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน วง OneRepublic ก็กลับมาเล่นต่อด้วยพลังเต็มที่ และปิดท้ายโชว์อย่างงดงามด้วยเพลง “Apologize” ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงที่ทำให้วงนี้เป็นที่รู้จักทั่วโลก การได้ฟังเพลงนี้และเพลงอื่น ๆ ของวงในบรรยากาศสด ๆ เป็นช่วงเวลาที่ทำให้แฟนเพลงในงานต่างฟินกันถ้วนหน้าจบค่ำคืนแรกด้วยความฟินกันไป
ส่วนโชว์ในวันที่สองก็ว้าวไม่แพ้กัน อย่าง Aurora นี่คือประทับใจมาก ใครที่พลาดคอนเสิร์ตเดี่ยวของเธอเมื่อปีที่แล้ว ก็ได้มาแก้ตัวกันในโอกาสนี้แหละ บอกเลยว่า Aurora ศิลปินสาวชาวนอร์เวย์คนนี้ ร่ายมนต์สะกดบนเวทีด้วยการแสดงที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์และความลึกลับ เสียงร้องของเธอที่ไพเราะและเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ทำให้ผู้ชมต้องหลงใหลและถูกดึงดูดเข้าสู่โลกแห่งเสียงดนตรีของเธอ เพลงที่ Aurora นำมาแสดง ไม่ว่าจะเป็นเพลงใหม่หรือเพลงฮิตติดหู ล้วนแล้วแต่มีพลังน่าประทับใจทุกเพลง และที่สำคัญเลยพอมาดูโชว์ของเธอแล้วรู้สึกว่าดนตรีนั้นถูกดีไซน์มาอย่างดี เพื่อให้เธอใช้บอดี้ร่ายลีลาบนเวทีได้อย่างเปี่ยมเสน่ห์ คือเป็นคนที่ทั้งร้องทั้งเต้นได้อย่างน่าประทับใจสุด ๆ แถมภาพแสงสีประกอบเพลงแต่ละเพลงก็สร้างอารมณ์ได้ดี บางเพลงนี่นึกว่าดูหนังของดาร์ริโอ อาร์เจนโตอยู่ อย่างหลอนและสวยมาก
ต่อด้วย Laufey (เลเวย์) นักร้องและนักแต่งเพลงสาวที่ผสมผสานเสียงดนตรีแจซและป็อปได้อย่างลงตัว เธอคนนี้มาด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกและการแสดงสดที่เป็นกันเอง ร้องไปยิ้มไปทำเอาแฟน ๆ เคลิ้มไปกับความน่ารักของเธอ เธอได้สร้างบรรยากาศที่ทั้งอบอุ่นและโรแมนติกให้กับโชว์นี้ได้เป็นอย่างดี เสียงร้องและเสียงดนตรีของ Laufey นั้นทั้งอ่อนโยนและละเอียดอ่อน สร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ ที่หลงใหลในเสียงเพลงสไตล์แจซที่ถูกทำให้มีความป็อปร่วมสมัยได้อย่างเปี่ยมเสน่ห์ไม่เหมือนใคร โดนตกกันไปทั่วหน้า
ความตื่นเต้นยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เมื่อ Suede วงดนตรี Britpop ระดับตำนาน ขึ้นเวทีมาอย่างสง่างาม การแสดงของพวกเขาเต็มไปด้วยพลังและความมันที่สะกดผู้ชมให้ไม่อาจละสายตาได้ เพลงฮิตของวงที่ถูกบรรเลงด้วยสมาชิกวงสุดเก๋าและขับร้องด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ เบร็ตต์ แอนเดอร์สัน (Brett Anderson) สร้างบรรยากาศสุดคลาสสิกและพาผู้ชมย้อนเวลากลับไปสู่ยุคทองของ Britpop แถมพี่เบร็ตต์นี่ก็จัดเต็มกระโดดลงมาสาดเสียงร้อง (และหยาดเหงื่อ) ให้กับแฟน ๆ ได้กรี๊ดกร๊าดอย่างใกล้ชิดเกือบทั้งโชว์ โอ้โหสุดไปเลย
จากนั้นเวทีก็ถูกส่งต่อให้กับ Yoasobi วงดนตรีชื่อดังจากญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นี่คือโชว์สุดเซอร์ไพรส์สุดไฮไลต์สำหรับแฟนเพลงที่เป็นสาวกของเพลงญี่ปุ่นและวง Yoasobi ที่รอคอยโอกาสนี้มาเนิ่นนาน เสียงร้องที่สดใสและเปี่ยมไปด้วยพลังของอิคุระ รวมไปถึงดนตรีเฉียบ ๆ จี๊ดจ๊าดของอายาเสะ และการบรรเลงสดสุดเดือดของวง ที่เล่นเก่งกันมาก ๆ ทุกคนเลย ทำให้ผู้ชมต้องเต้นตามและร้องตามไปกับทุกเพลงแบบลืมเหนื่อย ส่วนภาพและแสงสีก็จัดเต็มมาก ๆ ทำให้แฟนเพลงต่างเพลิดเพลินและสนุกไปกับการแสดงของ Yoasobi แบบไม่มีวันลืมเลือน แถมในช่วงท้ายอิคุระก็มาประกาศข่าวดีว่าวงจะมาเปิดคอนเสิร์ตที่ไทย สาแก่ใจล่ะคราวนี้
และปิดท้ายค่ำคืนด้วยการแสดงจาก Lauv ศิลปินและนักแต่งเพลงชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงจากการสร้างเพลงป็อปที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอันละมุนละไมไพเราะ การแสดงของ Lauv ในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ผู้ชมต่างรอคอย Lauv ขนเพลงฮิตมาบรรเลงแบบจัดเต็ม แถมยังมีการจัดวางเพลงได้ดี มีช่วงที่ทั้งร้องทั้งเต้น เล่นกีตาร์ และเปียโน ทำให้โชว์ไม่น่าเบื่อ แถม Lauv ยังเดินมาทักทายแฟนเพลงใกล้ ๆ อยู่เรื่อย ๆ โชว์ของ Lauv ทำให้ผู้ชมรู้สึกอินไปกับบทเพลงของเขาได้เป็นอย่างดี ปิดท้ายงานด้วยความประทับใจ
โดยรวมแล้ว Summer Sonic Bangkok 2024 ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในไทยของเทศกาลนี้ที่นับว่าเป็นก้าวแรกที่ดี ถึงแม้จะมีการจัดการในหลายจุดที่ผู้มาร่วมงานไม่ปลื้มบ้าง แต่ข้อคอมเมนต์ของผู้มาร่วมงานก็จะเป็นข้อเสนอแนะที่ดีสำหรับการจัดงานในปีต่อ ๆ ไป ขอเป็นกำลังใจให้ได้มีการจัดเทศกาลดนตรีนี้ต่อไปอย่างดี โดนใจผู้มาร่วมงานทั้งในส่วนขององค์ประกอบต่าง ๆ และการได้มาชมศิลปินคุณภาพแบบจัดเต็ม !!