เมื่อเช้ามืดของวันที่ 5 กันยายน ตามเวลาประเทศไทย คงไม่มีข่าวไหนที่สั่นสะเทือนวงการดนตรีไปมากกว่าการกลับมาของวงร็อกแห่งยุค 2000 อย่าง Linkin Park หลังจากที่วงสูญเสียฟรอนต์แมนคนสำคัญอย่าง เชสเตอร์ เบนนิงตัน (Chester Bennington) จากเหตุอัตวินิบาตกรรม ซึ่งถือเป็นการกลับมารวมตัวกันครั้งแรกในรอบ 7 ปี พร้อมกับเซอร์ไพรส์ใหญ่ด้วยการเปิดตัวสมาชิกใหม่ ตั้งแต่มือกลองคนใหม่ โคลิน บริตเทน (Colin Brittain) นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ ที่เข้ามาแทนที่ ร็อบ บัวร์ดอน (Rob Bourdon) มือกลองและสมาชิกยุคบุกเบิก

นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการเปิดตัวฟรอนต์แมนหลักคนใหม่อย่าง เอมิลี อาร์มสตรอง (Emily Armstrong) ฟรอนต์แมนหญิงจากวง Dead Sara รวมทั้งการเปิดตัวสตูดิโออัลบั้มชุดใหม่ของวงอย่าง ‘From Zero’ ที่จะวางแผงในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ ซิงเกิลแรกของอัลบั้ม ‘The Emptiness Machine’ ที่เปิดตัวพร้อมกับ MV และประกาศเวิลด์ทัวร์ ทั้งในอเมริกา ยุโรป และเอเชีย รวม 6 Venue

แม้ว่าหลายคนจะได้เห็นฝีมือการแผดเสียงอันร้อนแรงและไม่ธรรมดาของฟรอนต์แมนคนใหม่ในการแสดงสดผ่านวิดีโอไลฟ์สตรีม และแฟน ๆ หลายคนต่างยอมรับในตัวของเธอ รวมทั้งของวงในแง่ของการไม่ได้เข้ามาแทนที่สุ้มเสียงหลักที่เป็นสัญลักษณ์ของวงอย่างเบนนิงตัน แต่เป็นการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคสมัยใหม่ของวง เป็นการเริ่มต้น ‘จากศูนย์’ เหมือนกับชื่ออัลบั้มจริง ๆ

แต่แน่นอนว่าก็มีกระแสอีกฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับการเลือกอาร์มสตรอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแทนที่ตำแหน่งของเบนนิงตัน รวมทั้งการตั้งคำถามต่อความสามารถของเธอในฐานะฟรอนต์แมนผู้หญิง ที่ต้องรับหน้าที่ในวงดนตรีอันหนักหน่วง รวมทั้งการตั้งข้อสงสัยถึงความเหมาะสมของเธอ เมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในอดีต

Linkin Park Mike Shinoda Emily Armstrong

หนึ่งในคนที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการเลือกอาร์มสตรองเข้ามาก็คือ เจมี เบนนิงตัน (Jaime Bennington) ลูกชายคนโตจากทั้งหมด 6 คน ที่เกิดกับ เอลกา แบรนด์ (Elka Brand) แฟนสาวของเบนนิงตัน ที่ได้โพสต์ลงใน Story บน Instagram ส่วนตัวเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อ ไมก์ ชิโนดะ (Mike Shinoda) ฟรอนต์แมนร่วม นักร้อง และแรปเปอร์ของวง ต่อการเลือกศิลปินหญิงคนนี้เข้ามาแทนที่พ่อของเขา ซึ่งเป็นเหมือนกับการทรยศความไว้วางใจของแฟน ๆ ที่มีต่อวง

“สวัสดีน้าไมก์ ผมพยายามจะ Mention ถึงคุณ แต่คุณบล็อกการเข้าถึงของผมไปแล้ว เพราะคุณไม่ชอบในสิ่งที่ผมพูด ผมก็เลยต้องทำแบบนี้แทน”

“ผู้คนไม่ได้ลำบากใจ ที่จะเข้าใจถึงความเป็นไปได้ที่ Linkin Park จะปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่หรอก แต่พวกเขาลำบากใจที่จะทำความเข้าใจว่า คุณจะทำอย่างไรถ้า 1.) จ้างเพื่อนของคุณที่คบกันมาหลายปี (อาร์มสตรอง) เพื่อมาแทนที่ (เชสเตอร์) ทั้ง ๆ ที่คุณก็รู้อยู่แล้วว่าเอมิลีเคยมีประวัติในคริสตจักร (ไซแอนโทโลจี) และเป็นคนที่สนับสนุน แดนนี มาสเตอร์สัน ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนแบบนั้น”

หลังจากการเปิดตัวในฐานะฟรอนต์แมนเพียงวันเดียว อาร์มสตรองต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาที่เป็นประเด็นถกเถียง ตั้งแต่การที่เธอมีความเกี่ยวข้องกับลัทธิไซแอนโทโลจี (Scientology) รวมทั้งตอนที่เธอให้การสนับสนุน แดนนี มาสเตอร์สัน (Danny Masterson) อดีตนักแสดงที่ก่อเหตุมอมยา และข่มขืนผู้หญิง 3 ราย ตั้งแต่ปี 2001-2003 ก่อนที่ในปี 2023 มาสเตอร์สันถูกศาลตัดสินจำคุก 30 ปี

ในระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อปี 2020 อาร์มสตรองที่รู้จักกับมาสเตอร์สันในลัทธิอื้อฉาว ได้เข้าให้ปากคำในชั้นศาลเพื่อสนับสนุนจำเลย และเข้าร่วมฟังการพิจารณาคดี ในขณะที่ คริสซี คาร์เนล-บิกซ์เลอร์ (Chrissie Carnell-Bixler) หนึ่งในผู้หญิงที่ฟ้องร้องมาสเตอร์สัน เคยคอมเมนต์เอาไว้ใน Instagram ของวง Dead Sara ว่า “แฟน ๆ ของพวกคุณรู้เรื่อง แดนนี มาสเตอร์สัน เพื่อนนักข่มขืนของคุณบ้างไหมนะ ?”

ในขณะที่คาร์เนล-บิกซ์เลอร์ ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกลัทธิไซแอนโทโลจี ได้กล่าวหาว่า คริสตจักรได้ทำการคุกคามเธอและสามี เซดริก บิกซ์เลอร์-ซาวาลา (Cedric Bixler-Zavala) ฟรอนต์แมนของวงดนตรี Mars Volta ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกในลัทธิเดียวกัน

นอกจากนี้ เจมี เบนนิงตัน ยังกล่าวถึงการเปิดตัวนักร้องนำคนใหม่ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม และมองว่า นี่คือการทรยศความไว้วางใจที่แฟน ๆ มีให้กับวง

“2.) คุณลบทั้งชีวิตและมรดกของพ่อผมแบบเงียบ ๆ ทันทีทันใด ไม่ใช่แค่ในระหว่างการสัมภาษณ์ของวง ที่ตั้งใจจะชี้แจงถึงบางประเด็นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และอนาคตของวง Linkin Park เท่านั้น แต่ยังทำในช่วงเดือนแห่งการป้องกันการฆ่าตัวตายสากลอีกด้วย”

Jaime Bennington

“3.) คุณปฏิเสธที่จะยอมรับผลกระทบที่เกิดจากการจ้างคนอย่างเอมิลี โดยไม่มีแม้แต่แถลงการณ์ชี้แจงต่อเหยื่อหลาย ๆ คนที่เป็นฐานแฟนหลักของคุณ ไม่มีการประกาศออกมาว่าคุณจะดูแลคนที่เป็นแฟนคลับของคุณ, เชสเตอร์ ลูก ๆ หรือครอบครัวของเขา ความบาดหมางของผมกับภรรยาของคุณ แอนนา ชิโนดะ (Anna Shinoda) (ที่ไม่สามารถ Mention ได้เหมือนกัน) อย่างไร”

“เหยื่อของ แดนนี มาสเตอร์สัน หรือแม้แต่กระทั่งการข่มขู่เหยื่อของเอมิลี และทุกอย่างก็ผ่านไป ผ่านเลยไป สิ่งที่คุณต้องทำ ไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนควรจะต้องปรับตัวเพื่อรับมือ มันไม่ใช่เรื่องน่าตกใจที่ผู้คนจะต้องใช้เวลาในการคิดและทำความเข้าใจ”

“คุณได้ทรยศความไว้วางใจของแฟน ๆ และผู้คนที่สนับสนุนคุณมาหลายทศวรรษ รวมถึงตัวผมด้วย พวกเราเชื่อใจว่าคุณจะเติบใหญ่และดีกว่าเดิม มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เพราะคุณสัญญากับเราว่านั่นคือความตั้งใจของคุณ แต่ตอนนี้คุณแค่ทำเป็นหลงลืมและไร้ความรู้สึก มันบ้าไปแล้ว ตอนนี้ผมพนันได้เลยว่า พวกคุณรู้แค่ว่าจะดูหมิ่นได้ยังไง แต่คุณหลอกผมไม่ได้หรอก !!”

“ผมได้ยินคุณหลุดพูดออกมาตอนท้ายของการสัมภาษณ์ครั้งที่ 2 กับ เซน โลว์ (Zane Lowe, นักจัดรายการวิทยุ) ว่าอัลบั้มนี้เริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2019 หรืออาจจะตั้งแต่ปี 2017 ด้วยซ้ำ ผมเห็นสิ่งที่คุณทำแล้วล่ะ รู้แล้วว่าคุณกำลังจะมาไม้ไหน”

ก่อนหน้านี้ อาร์มสตรองได้ออกแถลงการณ์ผ่านทาง Story บน Instagram ส่วนตัวของเธอเกี่ยวกับประเด็นการสนับสนุนมาสเตอร์สันในชั้นศาล

“สวัสดี ฉันชื่อเอมิลี หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับฉัน ฉันอยากจะชี้แจงบางเรื่องที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา หลายปีก่อน ฉันถูกขอให้ไปสนับสนุนคนที่ฉันคิดว่าเป็นเพื่อนในระหว่างการพิจารณาคดี ฉันไปที่ขั้นตอนการไต่สวนเบื้องต้นครั้งหนึ่ง ในฐานะผู้สังเกตการณ์ ไม่นานหลังจากนั้น ฉันก็รู้ตัวว่าไม่ควรไปอีก ฉันมักพยายามมองหามุมดี ๆ ในตัวคนอื่น และฉันก็ตัดสินใจผิดพลาดเกี่ยวกับเขา ตั้งแต่นั้นมา ฉันก็ไม่ได้ติดต่อกับเขาอีกเลย”

“มีรายละเอียดหลายอย่างที่ไม่น่าเชื่อปรากฏออกมา และต่อมาเขาก็ถูกตัดสินว่ามีความผิด เพื่อให้ชัดเจนที่สุด ฉันอยากจะบอกว่า ฉันไม่สนับสนุนการละเมิดและความรุนแรงต่อผู้หญิง และฉันเองก็เห็นใจเหยื่อในอาชญากรรมเหล่านี้”