หลังจากที่ เซอร์ เอลตัน จอห์น (Sir Elton John) ศิลปินชาวอังกฤษระดับตำนานวัย 77 ปี ได้ปิดฉากเส้นทางศิลปินอย่างสวยงามหลังเสร็จสิ้นทัวร์คอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย ‘Farewell Yellow Brick Road’ และได้กลายเป็นศิลปินคนล่าสุดที่ได้ประทับชื่อบนทำเนียบ EGOT หรือ 4 รางวัลใหญ่แห่งฮอลลีวูด จากบันทึกการแสดงสด ‘Elton John Live: Farewell from Dodger Stadium’
แต่ยังมีอีกงานที่เขาได้ร่วมสร้างสรรค์มาตั้งแต่ปี 2022 นั่นก็คือการร่วมประพันธ์เนื้อเพลงให้กับละครเวทีมิวสิคัล ‘The Devil Wears Prada: The Musical’ ที่เดินทางมาเปิดการแสดงในย่านเวสต์เอนด์ ณ โรงละคร Dominion Theatre กรุงลอนดอน โดยในรอบปฐมฤกษ์ และเป็นรอบการกุศลเพื่อหารายได้เข้ามูลนิธิ Elton John AIDS Foundation ที่จัดขึ้นเมื่อค่ำคืนของวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา
โดยในค่ำคืนนั้น จอห์น และสามี เดวิด เฟอร์นิช (David Furnish) วัย 62 ปี ได้เดินทางมาร่วมชมพร้อมกับแขกคนสำคัญมากมาย และยังได้ปรากฏตัวบนเวทีร่วมกับสามี ผู้ซึ่งคอยดูแลเขามาตั้งแต่เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับสายตา และเป็นผู้คอยประคับประคองพาเขาขึ้นและลงจากเวที
“อย่างที่ทุกคนทราบข่าวนะครับ ผมเองกำลังมีปัญหาสุขภาพอยู่ และตอนนี้ผมได้สูญเสียการมองเห็นไปแล้ว เพราะฉะนั้นผมเลยไม่สามารถรับชมการแสดงได้ แต่ยังไงผมก็ยังรู้สึกสนุกไปกับมัน”
“…สามีของผมตอนนี้เหมือนกับเป็นที่พึ่งในชีวิตผมเลย เพราะว่าตาของผมเริ่มจะมองไม่ค่อยเห็นแล้ว ผมเลยไม่สามารถรับชมการแสดงรอบพรีวิวนี้ได้อย่างสะดวกมากนัก แต่ผมก็ยังรักที่จะฟังเสียง และคืนนี้เสียงก็ยอดเยี่ยมมาก ขอบคุณที่มารับชมนะครับ !”
ละครเวทีมิวสิคัล ‘The Devil Wears Prada: The Musical’ เป็นการดัดแปลงจากหนังสือนวนิยายขายดีของ ลอเรน ไวส์เบอร์เกอร์ (Lauren Weisberger) ที่เคยถูกนำมาดัดแปลงเป็นหนังรอมคอม ‘The Devil Wears Prada’ (2006) ที่เปิดเผยเบื้องลึกของแวดวงคนทำงานในวงการนิตยสารและแฟชั่น โดยเขารับหน้าที่ประพันธ์เพลงร่วมกับไชนา ทอบ (Shaina Taub) และ มาร์ก ซอนเนนบลิก (Mark Sonnenblick) และเริ่มเปิดการแสดงครั้งแรกที่ชิคาโกเมื่อปี 2022 ก่อนจะนำกลับมาเปิดการแสดงอีกครั้งในปีนี้
เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา จอห์นได้ประกาศข่าวช็อกแฟนเพลงผ่านทาง Instagram ส่วนตัวเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพหลังจากที่ก่อนหน้านี้ เขาเคยเข้ารับผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าทั้ง 2 ข้าง และสะโพกด้านขวาหลังประสบอุบัติเหตุหกล้ม จนทำให้ต้องเลื่อนการแสดงทัวร์ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2021 ออกไประยะหนึ่ง
“เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ผมต้องเผชิญกับการติดเชื้อในตาอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้ผมเหลือการมองเห็นอย่างจำกัดเพียงแค่ข้างเดียว ผมกำลังพักฟื้น แต่กระบวนการนี้ช้ามาก และต้องใช้เวลาอีกสักพัก กว่าที่การมองเห็นของตวงตาที่ได้รับผลกระทบจะกลับมา”
“ผมรู้สึกขอบคุณทีมแพทย์และพยาบาลที่ยอดเยี่ยม รวมถึงครอบครัวของผม ที่ดูแลผมเป็นอย่างดีตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมขอใช้เวลาช่วงฤดูร้อนนี้อย่างเงียบ ๆ เพื่อพักฟื้นอยู่ที่บ้าน และรู้สึกดีไปกับความคืบหน้าที่เกิดขึ้นจากการรักษาและฟื้นฟูร่างกายมาจนถึงตอนนี้ ด้วยรักและขอแสดงความขอบคุณ”
ต่อมา จอห์นได้ยืนยันในระหว่างการสัมภาษณ์รายการ Good Morning America ของสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า ปัญหาสายตาของเขาเกิดขึ้นหลังจากที่เขาเดินทางไปท่องเที่ยวพักร้อนทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ สูญเสียการมองเห็นที่ดวงตาด้านขวา ทำให้สามารถมองเห็นได้เพียงบางส่วน และทำให้แผนการผลิตสตูดิโออัลบั้มชุดใหม่ของเขาต้องชะงักไปด้วย
“มันนานมากแล้วที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ผมไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ ตอนนี้ผมอ่านหนังสือก็ไม่ได้ ดูอะไรก็ไม่ได้เลย นานมากแล้วที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ผมอยากจะลุกขึ้นมาเริ่มต้นใหม่ แต่โชคร้ายที่ผมสูญเสียการมองเห็นที่ตาขวาไปเมื่อช่วงกรกฎาคม เพราะติดเชื้อตอนที่เดินทางไปตอนใต้ของฝรั่งเศส”
“และตอนนี้ก็ผ่านมา 4 เดือนแล้วที่ผมมองไม่เห็น ตาซ้ายของผมก็ไม่ได้มองเห็นได้ชัด ผมมีทั้งความหวังและกำลังใจว่าทุกอย่างจะดี แต่ตอนนี้ก็ยังรู้สึกติดขัดอยู่ ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเดินเข้าสตูดิโอแล้วอัดเสียงยังไงเหมือนกัน เพราะผมมองเนื้อเพลงไม่เห็นเลย ผมกำลังเริ่มต้นแก้ไขให้มันดีขึ้น”
“แต่ตอนนี้ต้องโฟกัสไปที่เรื่องนี้เป็นหลัก แน่นอนแหละว่ามันคงไม่ใช่เรื่องโชคดีที่มีอะไรแบบนี้เกิดขึ้น มันทำให้ผมรู้สึกแย่สุด ๆ มองอะไรก็ไม่เห็น อ่านอะไรก็ไม่ได้ ดูอะไรก็ไม่ได้”
ในฉากหนึ่งของสารคดีเรื่องใหม่ล่าสุดของเขา ‘Elton John: Never Too Late’ ที่กำลังจะเข้าฉายทาง Disney+ ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ มีภาพที่เขานั่งอยู่ในห้องแต่งตัวระหว่างการเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย พร้อมกับกล่าวถึงความคิดของเขาในปัจจุบันที่มักจะคิดถึงเรื่องชีวิตและความตายอยู่เสมอ
“ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่ผมทำลงไปทั้งหมดนี้เมื่อผมทำมันจนเสร็จ นี่มันเป็นช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตของผมแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าผมยังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ เมื่อคุณอายุเท่าผมตอนนี้ คุณก็จะคิดถึงเรื่องนั้นมากขึ้น คุณจะคิดถึงชีวิตและความตาย และคุณก็จะคิดว่า ‘ฉันก็แค่อยากจะอยู่ในที่ที่ฉันต้องการจะอยู่ในตอนนี้ก็เท่านั้นแหละ'”
แม้เขาจะกล่าวอย่างตรงไปตรงมากับรายการ Good Morning America ว่า ปัญหาสุขภาพที่เขาเผชิญอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องโชคดี แต่เขาก็ยังพยายามจะรับมือกับสิ่งที่ต้องเจอในปัจจุบันด้วยมุมมองที่เป็นบวก
“ผมภูมิใจกับสารคดีเรื่องนี้มาก ผมภูมิใจในตัวลูก ๆ ของผม ผมภูมิใจกับทัศนคติของผมที่มีต่อตัวเองและสิ่งที่เกิดขึ้น ผมรู้สึกขอบคุณ และรู้สึกโชคดีมาก ๆ ผมเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก”