สิ้นสุดการรอคอย กับการกลับมาอีกครั้งของ ศิลปิน นักร้องนักแต่งเพลงเพื่อชีวิตระดับตำนานอย่าง ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ที่คราวนี้กลับมาพร้อมอัลบั้มลำดับที่ 19 ครบรอบ 30 ปีบนเส้นทางสายดนตรี กับการรอคอยเป็นเวลากว่า 6 ปี ในที่สุด “แกกับฉัน” ก็ได้มาถึงหูผู้ฟังแล้ว
กว่า 3 ทศวรรษที่ปู พงษ์สิทธิ์ โลดแล่นอยู่บนเส้นทางสายดนตรี จากเด็กหนองคายกลายเป็นศิลปินเพลงเพื่อชีวิต จากผลงานเพลงชุดแรก “ถึงเพื่อน” จนมาถึง “เสือตัวที่ 11” อันมี “ตลอดเวลา” เป็นเพลงดัง ล่วงเลยกาลเวลาจนมาจนมีเพลงติดหูมากมายอาทิ “เสมอ” “ผีโรงเย็น” “คิดถึง” “สุดใจ” จนมาในยุคนี้เพลงของปู พงษ์สิทธิ์ ก็ยังถูกร้อง ถูกเล่นอยู่เสมอ จนหลายเพลงได้กลับมาเป็นที่นิยมอย่างมากอาทิเช่น “มือปืน” “รักเดียว”
กลับมาคราวนี้ พี่ปู กลับมาพร้อมกับบทเพลงใหม่ 12 เพลงที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติทางดนตรีอันเข้มข้น เรียกร้องที่ขับเน้นออกมาจากข้างในจิตใจ และเนื้อหาของเพลงที่คมคายอันสะท้อนแง่มุมต่างๆของชีวิตและสังคม
12 บทเพลงในอัลบั้มนี้ประกอบไปด้วย
แกกับฉัน
บทเพลงเปิดอัลบั้ม และเป็นที่มาของชื่ออัลบั้มด้วย กับบทเพลงเข้มข้นเต็มอารมณ์ร็อค กับเรื่องราวของมิตรภาพที่ไม่ว่าจะยาวนานเท่าไหร่เราก็จะไม่ทิ้งกัน เหมือนกับสายสัมพันธ์ของแฟนเพลงและพี่ปู ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ยังเหนียวแน่นกันอยู่เสมอ
“โอ โอ่ โอ้ โอ โอ้ โอ โอ่
เพื่อนเอ๋ยแกเป็นเพื่อนฉัน
ฉันเป็นเพื่อนแกไปไหนไปกัน
อุปสรรคขวากหนามยังมีอยู่
เราจะร่วมกันสู้จนสุดท้าย”
ของใคร
ฟังอินโทรเพลงนี้ชวนให้นึกถึง “ตาสว่าง” ของ Modern Dog เลย
“ของใคร” เป็นบทเพลงที่สะท้อนปัญหา “ความเป็นเจ้าของ” แผ่นดินด้ามขวานของประเทศไทย โดยใช้การตั้งคำถามว่า ความรุนแรง และความสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้น เป็นสิ่งที่เปล่าประโยชน์เพราะสุดท้ายก็หาข้อยุติไม่ได้ หากหันหน้ามาคุยกัน และแสวงหาทางออกร่วมกัน เปลี่ยน “ของใคร” เป็น “ของเรา” แสงแห่งสันติก็จะกลับมาในที่สุดนั่นเอง
“คุยกันดีไหม เปิดดวงใจ ต้องการยังไง พระคุณท่าน
เพียงหยุดฆ่าฟัน ฆ่ากันได้ไหม
แผ่นดินทุกที่โลกสร้างมา มนุษย์อุตส่าห์ยื้อแย่งกัน
ของแก ของฉัน ของใครกันหนอ”
สำนึก
บทเพลงสะท้อนปัญหาการคอรัปชั่นในบ้านเรา
“เคยสงสัยบ้างไหม ว่าทำไมประเทศไทย
ไปไม่ถึงไหน ทั้งที่เรามีพร้อมมากมาย”
พี่ปูตั้งคำถาม ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเราว่าทำไมถึงไม่ไปถึงไหนทั้งๆที่เราก็มีพรั่งพร้อมทุกประการ
“ไม่เอาๆ ขี้โกงไล่ไป โกงเล็กโกงใหญ่ ไม่เอาบัดสี
สึกนึกไม่โกง ต้องทำเดี๋ยวนี้ แผ่นดินอยู่รอดปลอดภัย”
เหลือเกิน
เพลงท่วงทำนองช้า แต่อารมณ์หนักแน่น ถ่ายทอดห้วงอารมณ์ของความคิดถึงที่มีต่อคนรักที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ความรักที่มีให้ก็ยังมากมาย “เหลือเกิน”
“โถ ความรักเอย พลัดพรากจากเลย
ไยเจ้าเพิกเฉย ปล่อยรักที่เคย จากฉันไปเลย
ฉันยังเหมือนเดิม คิดถึงเธอเหลือเกิน
หัวใจดวงนี้ มีรักให้เธอ มากมายเหลือเกิน”
เพราะรัก (จึงถึงบ้า) feat. ลิเดีย ศรัณย์รัชต์
บทเพลงฟีเจอริ่งเพลงเดียวในอัลบั้ม กับการจับคู่กันอย่างลงตัวระหว่างเสียงร้องอันแน่นหนักของพี่ปู และ เสียงอันนุ่มนวลทรงพลังของลิเดีย เจ้าหญิง R&B ของไทย
ร่วมกันถ่ายทอดห้วงอารมณ์ ณ จุดที่กำลังจะสิ้นสุดลงของความสัมพันธ์ ที่ไม่ว่ามันจะผันผ่านมานานเท่าไหร่ แต่สุดท้ายเมื่อถึงเวลาก็ต้อง “ปล่อยไป”
“ทุกเรื่องราวที่ร่วมผ่าน ถึงเนิ่นนานเหมือนเพิ่งผ่านเวลา
เราต่างคนต่างรู้ว่า ถึงเวลาก็ต้องปล่อยไป”
อยู่ในใจ
บทเพลงช้า สุดละมุน อันกรั่นกรองมาจากเรื่องราวความรักของน้องนักดนตรีคนสนิทของพี่ปู ถ่ายทอดห้วงอารมณ์รักอันท่วมท้นที่แม้จะผ่านพ้นล่วงเลยไปแต่ก็ยังเก็บความรักนั้นไว้ “อยู่ในใจ” ไม่เสื่อมคลาย
“ถึงจะผ่านเนิ่นนานสักเท่าไร ในหัวใจไม่เคยหยุดคิดถึง
ยังเฝ้ารอว่าสักวันหนึ่ง เธอจะหวนคืนมา”
มิวสิควิดีโอเพลนี้ ได้มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2015 น้องแนท อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ และ ดีเจพล ศิริพล ศิรินินาทกุล มาร่วมถ่ายทอดความรักสุดซึ้งด้วย
ฝันและหวัง
เหมาะแล้วที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะนำเอาเพลงนี้ไปใช้ เพราะเพลงนี้เป็นบทเพลงที่สะท้อนถึงการร่วมเดิน ร่วมฝัน ร่วมฟันฝ่า อุปสรรคปัญหา เพื่อไปสู่เส้นชัยที่วาดฝันไว้
“เธอคือดวงวิญญาณ อยู่ในร่างของฉัน
เรามีกันและกัน อยู่ด้วยกันเสมอ
ไม่มีวันเปลี่ยวเหงา มีฉันต้องมีเธอ
จับมือกันเพื่อเจอ วันที่เรามีชัย”
อดทนไว้
เป็นเพลงอารมณ์สนุก ด้วยท่วงทำนองของเร็กเก้ พูดถึงการที่คนเราต้องพบกับปัญหาต่างๆมากมายในชีวิต ทางที่ดีคือให้อดทนไว้ ค่อยแก้ไข เดี๋ยวมันก็จะดีเอง
“เรื่องธรรมดา สารพันปัญหา ถาโถมเข้าใส่
อดทนไว้ ค่อยแก้ไข เดี๋ยวคงจะดี
อดทนไว้ ค่อยแก้ไข เดี๋ยวคงจะดี”
ชาติพันธุ์ไหน
บทเพลงอารมณ์คันทรี่ พูดถึงการดิ้นรนบนเส้นทางสายชีวิต ที่ต้องดิ้นรนสู้ต่อไป ไม่ว่าชาติพันธุ์ไหนต่างก็ล้วนแล้วแต่ต้องสู้ชีวิต แบกความหวัง ความฝัน ดั้นด้นไปไม่ต่างกัน
“มองดูชีวิตที่ดีกว่า ความปรารถนามีมากมาย
เดินข้ามป่าใหญ่ไปอีกเขา
แบกความหวัง เอาความหวัง กับเพื่อนอีกหลายพันธุ์”
เสรีภาพ
บทเพลงโฟล์คสะท้อนให้เห็นถึง การฟันฝ่า เพื่อตามหา “เสรีภาพ” ของคนวัยหนุ่มสาว ที่เปี่ยมไปด้วยแรงไฟแรงฝัน
“นกตัวน้อยๆ เฝ้าคอยวันฉายปีกกล้า
อยากบินถลาสู่ท้องฟ้า อันไพศาล”
พี่ปูค่อยๆร้องด้วยเสียงอันนุ่มนวล จนกระทั่งถึงท่อนต่อมา จากภาพฝันค่อยๆพลันเปลี่ยนไป อารมณ์ถั่งโถมถูกใส่ลงไปในบทเพลง
“แต่บัดนี้กำแพงแน่นหนา ปิดกั้นแม้สายลม
สู้ตรอมตรมทนรอ รอแสงสว่าง
จากทุกทิศทาง ทุกทิศทาง แห่งหนุ่มสาว”
เพลงนี้เป็นหนึ่งบทเพลงที่ผมชอบที่สุดในอัลบั้มเลย ด้วยเนื้อหา ท่วงทำนอง การเรียบเรียงดนตรี และอารมณ์ที่พี่ปูถ่ายทอดมันออกมา สุดยอดจริงๆครับ
รัก
“รักคือคำคำเดียว รักคำสั้นนิดเดียว รักเอยมาคำเดียว รักคือการให้”
“รัก” บทเพลงชื่อสั้นแต่เปี่ยมไปด้วยความหมาย บอกเล่าความหมาย ความสำคัญ ของคำเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่คำนี้
เสือดำ
บทเพลงสุดท้ายปิดอัลบั้ม เป็นเรื่องบังเอิญที่ชื่อเพลงนี้ชวนให้นึกถึงเรื่องราวสุดสะเทือนใจ ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
แต่สำหรับเพลงนี้ “เสือดำ” หมายถึง ยาบำรุงชนิดหนึ่งที่ช่วยเพิ่มพลังชายให้กระชุ่มกระชวย นั่นเอง
“เราคือเสือดำ บำรุงกำลัง
อยากรู้ลองดูสักหน่อย
ลุกขึ้นสู้ สู้ สู้ สู้ไม่ถอย
เราคือเสือดำ เราคือเสือดำ เราคือเสือดำ”
แต่ถึงอย่างนั้นพอได้ฟังเพลงนี้ และได้ยินคำว่า “เสือดำ” บ่อยๆเข้าก็ทำให้รู้สึกอยากให้คำนี้เป็นเหมือนยาบำรุงที่ทำให้เราอยากลุกขึ้นสู้กับ “ความอยุติธรรม” ในสังคมได้เหมือนกันนะครับ
ตอนนี้อัลบั้ม “แกกับฉัน” วางจำหน่ายแล้ว โดยสามารถหาซื้อได้ที่ B2S, Boomerang, ร้านน้อง–ท่าพระจันทร์, อมรมูฟวี่, โดเรมี, ชิบูย่า, ร้าน CAP, แกรมมาโฟน, Music Land, ทิพย์เนตร, ร้านมิกซ์ หรือช่องทางออนไลน์ของร้านค้าโดยตรง
โดยข้างในจะประกอบด้ว
แผ่น CD สีทอง ที่ออกแบบอย่างพิถีพิถัน และ
ปิ๊กกีตาร์ Limited Edition รุ่นแกกับฉัน
สามารถติดตามข่าวสารของพี่ปูได้ทาง
Youtube ช่อง Pu Pongsit Official
และ