ในทุกวันนี้ เป็นที่รู้กันดีสำหรับคอเพลงแจ๊สว่า “จอห์น โคลเทรน” คือหนึ่งในมือแซ็กโซโฟนและนักแต่งเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรีแจ๊ส ตลอดช่วงชีวิตเขาได้ออกผลงานทั้งสิ้น 45 สตูดิโออัลบั้ม อันมีอัลบั้มที่คอแจ๊สทั้งหลายไม่ควรพลาดอาทิเช่น Blue Train (1957) , My Favourite Things (1961) และ A Love Supreme (1965) อันเป็นอัลบั้มที่นักฟังเพลงทั้งหลายได้กล่าวยกย่องว่ามันคือที่สุดของโคลเทรน และเป็นที่สุดของอัลบั้มเพลงแจ๊ส มันไม่ใช่อัลบั้มที่ให้คนทั่วไปฟังหากแต่เป็นสารที่ส่งถึงพระเจ้า
แต่รู้ไหมว่า ได้มีผลงานอันยิ่งใหญ่อีกชิ้นที่ถูกเก็บงำมาตลอดเป็นเวลากว่า 55 ปี อันเป็นผลงานที่ผ่านการบันทึกเสียงโดย จอห์น โคลเทรน และกลุ่มนักดนตรียอดฝีมือที่เล่นเข้าขากันได้เป็นอย่างดีที่รู้จักกันในนามว่า “คลาสสิค ควอเท็ตของ จอห์น โคลเทรน” ซึ่งประกอบไปด้วย จอห์น โคลเทรน ในตำแหน่ง แซ็กโซโฟน , แม็คคอย ไทย์เนอร์ (McCoy Tyner) มือเปียโน , จิมมี่ แกร์ริสัน (Jimmy Garrison) มือเบส และ เอลวิน โจนส์ (Elvin Jones) มือกลอง โดยในวันที่ 6 มีนาคมปี 1963 จอห์นและวงคลาสสิค ควอเท็ตของเขาได้บันทึกเสียงผลงานขั้นเอกอุ 7 เพลงที่สตูดิโอ Rudy Van Gelder ในนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งด้วยเหตุผลกลอันใดก็ไม่ทราบจึงทำให้ผลงานเหล่านี้ไม่ได้รับการเผยแพร่ หรือวางจำหน่ายเลยตราบจนกระทั่งบัดนี้ ที่ผลงานเหล่านี้ได้ถูกค้นพบและได้กลายมาเป็นอัลบั้มล่าสุดของศิลปินที่เป็นตำนานที่แม้ร่างกายจะไร้ลมหายใจไปแล้ว หากแต่ผลงานของเขานั้นยังคง และอัลบั้มอันทรงคุณค่านี้มีชื่อว่า “Both Directions at Once : The Lost Album”
งานบันทึกเสียงชิ้นนี้ถูกค้นพบโดย ฮัสนิต้า ไนยมา (Juanita Naima) ภรรยาคนแรกของโคลเทรน ในวันที่ 6 มีนาคมปี 1963 โคลเทรนและผองเพื่อนสมาชิกได้บันทึกเสียงบทเพลงต่างๆซึ่งในนั้นมีหลายเพลงที่เป็นเพลงใหม่และไม่เคยบันทึกเสียงที่ไหนมาก่อน พวกเขาใช้เวลาหนึ่งวันบันทึกผลงานทั้งหมด โดยบางเพลงเล่นไปสองสามเทคหรือมากกว่านั้น โดยในแต่ละเทคก็มีวิธีการเล่นและเรียบเรียงปรับเปลี่ยนแตกต่างกันไป สิ้นสุดวันนั้นโคลเทรนได้หอบเอาเทปบันทึกเสียงกลับมาที่บ้านในควีนส์ที่ซึ่งเขาอาศัยอยู่กับไนยมาภรรยาของเขา และหลังจากนั้นมันก็ไม่เคยถูกค้นพบอีกเลยตราบจนกระทั่งวันนี้ที่มันได้ออกเผยแพร่โดย Impulse! ค่ายเพลงแจ๊สที่ผลิตผลงานดีๆออกมามากมาย
ผลงานในอัลบั้ม “Both Directions at Once : The Lost Album” ที่ออกวางจำหน่ายมีอยู่ด้วยกันสองรูปแบบคือแบบแผ่นเดียว และ แบบแผ่นคู่ ซึ่งเพลงในแผ่นที่สองจะเหมือนกับแผ่นที่หนึ่งแต่เป็นการเล่นในเทคที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งรายชื่อเพลงในอัลบั้มมีดังต่อไปนี้
แผ่นที่หนึ่ง
- “Untitled Original 11383” (Take 1)
- “Nature Boy“
- “Untitled Original 11386” (Take 1)
- “Vilia” (Take 3)
- “Impressions” (Take 3)
- “Slow Blues”
- “One Up, One Down” (Take 1)
แผ่นที่สอง
- “Vilia” (Take 5)
- “Impressions” (Take 1)
- “Impressions” (Take 2)
- “Impressions” (Take 4) – 3:40
- “Untitled Original 11386” (Take 2)
- “Untitled Original 11386” (Take 5)
- “One Up, One Down” (Take 6)
ในอัลบั้มนี้มีเพลงใหม่ที่ไม่เคยบันทึกเสียงที่ไหนมาก่อนอยู่สองเพลง คือ “Untitled Original 11383″ และ “Untitled Original 11386” ทั้งสองเพลงโดดเด่นด้วยการบรรเพลง โซปราโน แซ็กโซโฟนของโคลเทรน โดยเพลงแรกนั้นมีลูกเป่าที่จดจำได้ง่าย ชัดเจน และ โดดเด่น มาในท่วงทำนองไมเนอร์คีย์และการเล่นโหมด นอกจากนี้ยังมีการโซโล่เบสที่โดดเด่นของจิมมี่ แกร์ริสันอีกด้วย ส่วนในเพลงที่สองนั้นเป็นการ เรียบเรียงเมโลดี้ด้วยเพนทาโทนิคสเกล มีการย้อนกลับมาสู่ธีมในขณะที่กำลังโซโล่ซึ่ง แตกต่างจากธรรมเนียมของการเล่นควอเท็ตโดยทั่วไป
“Nature Boy” บทเพลงจังหวะช้าที่มาในท่วงทำนองไมเนอร์คีย์ ไร้เงาเสียงเปียโนพะพลิ้วของ ไทย์เนอร์ แต่ก็สามารถเพลินใจไปกับทักษะการเล่นอันเอกอุของสมาชิกวงคนอื่นๆ และแน่นอนกับสำเนียงการเป่าแซ็กโซโฟนอันร้อนแรงของโคลเทรน
“Vilia” น่าจะเป็นเพลงที่ฟังง่ายที่สุดในอัลบั้มแล้ว เพราะเป็นเพลงที่มาในท่วงทำนองปานกลาง สวยงาม สว่างไสว เมโลดี้สวย ชวนโยกไปเบาๆ เพลงนี้มาจากเพลงธีมที่มีชื่อเดียวกัน แต่งโดยนักประพันธ์เพลงชาวฮังกาเรียนชื่อว่า ฟรานซ์ เลฮาร์ (Franz Lehár) โดยเป็นเพลงประกอบอุปรากรเรื่อง The Merry Widow
“Impressions” เป็นหนึ่งในเพลงที่มีชื่อเสียงของโคลเทรนและได้รับการบันทึกเสียงหลายครั้ง แต่ในเวอร์ชั่นนี้จะไม่มีเสียงเปียโนจาก แมคคอย ไทย์เนอร์ ถือว่าเป็นรสชาติที่แปลกออกไป โดยในอัลบั้มนี้จะได้ฟังเพลง Impressions ถึง 4 เทคเลยทีเดียว
“Slow Blues” ช่วงแรกของเพลงเป็นการบรรเลงแซ็กโซโฟนจากโคลเทรนท่ามกลางเสียงเบสของแกรร์ริสัน และ กลองของโจนส์ ไร้เงาเสียงเปียโนของ ไทย์เนอร์ ก่อนที่ในช่วงกลางเพลงเสียงใสกริ้งจากเปียโนของไทย์เนอร์ก็สอดแทรกเข้ามา เสียงแซ็กโซโฟนของโคลเทรนหลบให้การโซโล่จากเสียงเปียโนของไทย์เนอร์ ก่อนที่เขาจะกลับมาพร้อมการบรรเลงที่ร้อนแรงในช่วงท้ายจนจบเพลง
“One Up, One Down” เป็น 8 นาทีของการแจมกันอย่างบ้าคลั่งและร้อนแรง และท่อนโซโล่อันดุเดือดจากผู้เล่นในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งเป็นแบบนี้ทั้งสองเทคในอัลบั้มเลยและเพลงนี้ก็ถูกวางไว้เป็นแทร็คสุดท้ายของทั้งสองแผ่น เป็นการจบอัลบั้มได้อย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์เลยทีเดียว
งานบันทึกเสียงชิ้นนี้บันทึกเอาไว้หนึ่งวันก่อนงานบันทึกเสียงอีกหนึ่งอัลบั้มยอดเยี่ยมที่ โคลเทรนร่วมงานกับยอดนักร้องแจ๊ส จอห์นนี่ ฮาร์ทแมน “John Coltrane and Johnny Hartman” ซึ่งเป็นอีกอัลบั้มที่คอเพลงแจ๊สไม่ควรพลาด น่ามหัศจรรย์นักที่ในช่วงนั้นดูเหมือนว่า พลังแห่งการสร้างสรรค์ในตัวจอห์น โคลเทรนจะเพิ่มพูนสูงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่มันจะไปทะลุจุดเดือดกลายเป็นงานอันสูงส่ง เป็นสานส์ถึงพระเจ้าใน A Love Supreme
และมันเป็นดั่งเช่นที่ Ravi ลูกชายของโคลเทรนได้กล่าวกับทาง The New York Times ไว้ว่า “วงคลาสสิคควอเท็ตวงนี้ได้ไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในพลังของแห่งความเป็นนักดนตรีของพวกเขา” “งานบันทึกเสียงชิ้นนี้ ให้ความรู้สึกว่าเท้าข้างหนึ่งของจอห์นนั้นอยู่ในอดีตในขณะที่อีกข้างนั้นกำลังก้าวไปสู่อนาคต”
ด้วยประการฉะนี้อัลบั้ม “Both Directions at Once : The Lost Album” จึงเป็นที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าคุณจะเป็นคอแจ๊สหรือไม่ก็ตาม.