[รีวิว] อัลบั้ม ‘นิสิต’ จาก ‘คนนท์ ชาญคลีเช่’ บทเพลงฮิปฮอปครอบจักรวาลชีวิตนิสิต ที่จะทำให้คุณคิดถึงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย

วันนี้เรามีหนึ่งอัลบั้มคุณภาพมาแนะนำจากศิลปินฮิปฮอปไทยรุ่นใหม่ ที่อาจจะกลายเป็นแรปเปอร์คนโปรดของคุณในไม่ช้าหากคุณได้สัมผัสถึงตัวตนและผลงานของเขาในอัลบั้มชุดนี้

‘นิสิต’ คือ อัลบั้มใหม่ล่าสุดจาก ‘คนนท์ ชาญคลีเช่’ แรปเปอร์หนุ่มเจ้าของบทเพลงฮิปฮอปแปลกแหวกแนวที่มาพร้อมกับงาน MV อันเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น ‘สันติโศก’ ‘มัดหมี่ไม่มีคลีนเวอร์ชั่น’ ‘สายด่วนศาลายา’ หรือว่า ‘แร็ปเปอร์คนโปรดของคุณ’ มาคราวนี้ คนนท์ มาพร้อมกับบทเพลง 22 เพลงร้อยเรียงออกมาเป็นงาน ‘คอนเซ็ปต์อัลบั้ม’ ที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ ‘นิสิต’ แบบครอบจักรวาล เริ่มมาตั้งแต่งานแรกที่ปล่อยออกมาเมื่อปีก่อนคือ ‘สันติโศก’ บทเพลงที่ใช้แซมเปิลจากเพลง ‘Chocolate’ ของวง ‘Hangman’ กับเนื้อหาของเพลงที่เล่าเรื่องของการจากบ้านมาไกลจากหาดใหญ่เพื่อมาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ ฯ และต้องพยายามปรับตัวกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปรวมไปถึงการรับมือกับเพื่อนเสื่อม ๆ ที่ต้องพบเจอในรั้วมหาวิทยาลัย

นอกจากนี้ยังมีเพลงแปลก ๆ ที่เล่าเรื่องชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของนิสิตคนหนึ่งที่ใครฟังแล้วอาจจะชวนให้คิดถึงประสบการณ์ (อันปวดร้าว ?) ที่ตนเองเคยประสบมาไม่ว่าจะเป็น การโดนสั่งให้ทำงานกลุ่มแต่ไม่มีเพื่อนคนไหนช่วยทำเลย ในเพลง ‘งานกลุ่มทำคนเดียว’ ปัญหาเสียงข้างห้องดัง ในเพลง ‘นับแกะไม่ช่วยอะไร’ หรือ การที่เพื่อนแอบจิ๊กบะหมี่สำเร็จรูปของเราไปทานโดยไม่ขออนุญาต ในเพลง ‘การหายสาบสูญของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป’ ที่ต่อเนื่องมาจากบทเพลงที่มีชื่อว่า ‘มีเรื่องแย่กำลังจะเกิดขึ้น’ บทเพลงที่ดุเดือดราวกับฉากแอ็กชันบ้า ๆ ในหนังตลกร้ายเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

รวมไปถึงบทเพลงที่เคยปล่อยออกมาเป็นซิงเกิลก่อนหน้านี้อย่าง ‘มัดหมี่คลีนเวอร์ชั่น’ ที่ถ่ายทอดห้วงความคิดของชายหนุ่มที่ต้องต่อกรกับสัญชาตญาณความหื่นของตน เวลามีเพื่อนสาวใส่ขาสั้นมานั่งทำการบ้านในห้องของเราเพียงลำพัง เพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพลง ‘มัดหมี่’ ซึ่งเป็นเพลงที่นิยมใช้ร้องในการรับน้องซึ่งมีเนื้อหาสะท้อนการล่วงละเมิดทางเพศ

ในงานเพลงชุดนี้ คนนท์ ใช้รูปแบบการ ‘เล่าเรื่อง’ ที่แปลกใหม่และน่าสนใจ ซึ่งนับว่าเป็นจุดเด่นในงานชิ้นนี้ ซึ่งเขาได้วางตัวละครขึ้นมา 3 ตัว คือ ตัวของคนนท์ เสียงในหัว และ รูมเมต โดยในแต่ละเพลงจะมีการ skit บทสนทนาโต้ตอบกัน ถึงเรื่องการข้ามผ่านความรู้สึกต่าง ๆ ซึ่งให้ความรู้สึกที่สมจริงมากอย่างเช่นในเพลง ‘การหายสาบสูญของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป’ ที่คนนท์เถียงกับรูมเมตเรื่องของมารยาทในการขออนุญาตในการใช้ของที่เป็นของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นของมีราคาหรือว่าแค่บะหมี่สำเร็จรูปก็ตาม อันนำมาซึ่งบทสรุปที่อันดีที่แสดงให้เห็นถึงความเข้าอกเข้าใจ เห็นอกเห็นใจที่มนุษย์เราควรมีให้กันและกัน รวมไปถึงการยอมรับความเป็นไปในโลกของความจริง

คนนท์ ชาญคลีเช่ ได้เล่าถึงแนวคิดและการทำงานเพลงชุดนี้ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กของเขาไว้ว่า

“ ‘นิสิต’ คือการกักเก็บความทรงจำช่วงมหาวิทยาลัยในมุมมองของผมตั้งแต่ปี 1 ถึงปี 2 แม้จะดูไม่ใช่ระยะเวลาที่ยาวนาน แต่มันมีอะไรหลายอย่างเกิดขึ้นมากเหลือเกินจนทำให้เกิดตกผลึกเป็นเพลง ๆ หนึ่งขึ้นมา มันไม่มีเรื่องของมัธยมหลงเหลือมาเจือปนเหมือนกับโปรเจ็กต์ ‘หน่อมแน้ม’ มันคือ pure experience ของการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยส่วนตัวของผมล้วน ๆ ผมบันทึกทุกคน ทุกเรื่องที่ผมเจอลงในเพลง ทั้งดีและบัดซบ ผมไม่รอสั่งสมเรื่องราวเพิ่มถึงปี 4 เพราะคิดว่าอาจเหลือเวลาน้อยเต็มทีที่อาจไม่สามารถเจียดมาทำงานอดิเรกอะไรประมาณนี้ได้อีกในตอนนั้น ก็ลุยมันจังหวะนี้แหละ โพรเจกต์หน้าไว้พูดเรื่องอื่นบ้างที่ไม่เกี่ยวกับมหาลัย”

ถึงแม้งานเพลงในอัลบั้มชุดนี้อาจมีจำนวนเพลงที่มากและความยาวของอัลบั้มที่อาจยาวไปสักนิด รวมไปถึงในเรื่องของการจัดวางอารมณ์ที่ในช่วงท้ายความเดือดจะดรอปลงไปจากช่วงแรกสักหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อฟังจบแล้ว เรากลับรู้สึกไม่คิดอะไรมากในเรื่องพวกนี้ แถมยังรู้สึกได้ถึงความตั้งใจและการคิดมาดีแล้วของศิลปิน เพราะการเรียงเพลงในอัลบั้มนี้ตามแนวคิดคอนเซ็ปต์อัลบั้มที่เล่าเรื่องนิสิตถือได้ว่าคนนท์ทำได้ดีและมีความต่อเนื่อง หลายเพลงเป็นเพลงที่เป็นภาคต่อของกัน เนื้อเรื่องและดนตรีถูกเชื่อมร้อยเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อและไม่มีอารมณ์สะดุดจนทำให้งานเพลงทั้งอัลบั้มนี้คือ ‘หนังดี ๆ’ เรื่องหนึ่งที่มีการวาง ‘พล็อต’ และเรียงร้อยแต่ละ ‘ฉาก’ เข้าด้วยกันจนถักทอเป็นปึกแผ่นเดียวกันไม่ใช่มาจากคนละทิศคนละทางกลายเป็นหนังคนละม้วน ในตรงจุดนี้งานเพลงของ คนนท์ กลับทำให้เรารู้สึกว่าการซื่อสัตย์ต่อตัวตนและถ่ายทอดผลงานออกมาอย่างจริงใจนั้นมันมีพลังมากมายขนาดไหน ถ้าจะให้กล่าวเปรียบเทียบงานเพลงชุดนี้กับตระกูลภาพยนตร์ (genre) มันก็คงเป็นหนังแนว ‘Coming of Age’ ที่แสดงให้เห็นถึงการก้าวพ้นวัย เรียนรู้และก้าวผ่านปัญหาแปลกใหม่ที่ต้องพบเจอในแต่ละช่วงชีวิต แต่ละช่วงวัยที่เปลี่ยนไป อันจบลงด้วยความอิ่มเอมและประทับใจยิ่งนัก

ในยุคที่ดนตรีฮิปฮอปกำลังบูมในเมืองไทย มีศิลปินรุ่นใหม่เกิดขึ้นมากมาย ในช่วงเวลาแบบนี้หลายคนอาจกังวลใจว่าอีกไม่นานกระแสของฮิปฮอปจะเสื่อมคลายหรือไม่ หรือจะมีงานเพลงฮิปฮอปแปลก ๆ ใหม่ ๆ ออกมาให้ได้ฟังบ้างรึเปล่า หากคุณกำลังรู้สึกแบบนั้น ลองมาฟังงานเพลงในอัลบั้มนี้ดูสิครับ แล้วคุณจะสบายใจว่ายังมีศิลปินรุ่นใหม่และงานเพลงคุณภาพที่น่าสนใจออกมาให้เราได้ฟังกันอยู่ บอกเลยว่างานชุดนี้ไม่ ‘คลีเช่’ (Cliché) แน่นอน

ฟังอัลบั้ม ‘นิสิต’ จาก ‘คนนท์ ชาญคลีเช่’