Mechanical Licensing Collective (MLC) องค์กรไม่แสวงหากำไรที่ดูแลจัดการเรื่องใบอนุญาตในการใช้งานเพลงอย่างครอบคลุมทั้งบริการดาวน์โหลดและสตรีมเสียงแบบอินเตอร์แอกทีฟ (ผู้ให้บริการดิจิทัลหรือ DSP) ที่มีสิทธิ์ในสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยรายงานว่ารับเงินจำนวน 424.38 ล้านดอลลาร์จากค่าลิขสิทธิ์ที่จับคู่ลิขสิทธิ์ไม่ได้ (Unmatched Royalties) จากผู้ให้บริการดิจิทัล (digital service providers – DSP) อย่าง Apple, Spotify และอื่นๆ พร้อมเผยข้อมูลของการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับค่าลิขสิทธิ์เหล่านี้
ผู้ให้บริการดิจิทัล 20 ราย ซึ่งมี Apple Music, Amazon Music, Google, Pandora และ Spotify ได้โอนค่าลิขสิทธิ์ไปยังผู้จัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ตามที่ระบุไว้ในทะเบียนลิขสิทธิ์ของสหรัฐอเมริกา (U.S. Register of Copyrights) ในเดือนกรกฎาคม 2019 และตามพระราชบัญญัติการปรับปรุงลิขสิทธิ์เพลง (Music Modernization Act หรือ MMA) ปี 2018 โดยตั้งแต่เดือนมกราคม 2021 ให้ MLC มีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลใบอนุญาตสำหรับการใช้งานดนตรีผ่านบริการเพลงดิจิทัล
“มันคือวันนี้ที่รอคอยของเราทุกคน” Michelle Lewis ผู้อำนวยการบริหารสมาคมนักแต่งเพลงแห่งอเมริกาเหนือ (SONA) กล่าว ซึ่ง Lewis ได้สรุปสั้น ๆ ถึงเหตุการณ์นี้ว่า “เป็นอะไรที่มากกว่าที่เราคาดหวังเอาไว้”
Apple Music จ่ายค่าลิขสิทธิ์เป็นจำนวนมากที่สุดถึง 163.34 ล้านดอลลาร์และ Spotify อยู่ที่ 153.23 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย Amazon Music ที่ 42.74 ล้านดอลลาร์ Google ที่ 32.86 ล้านดอลลาร์ แพนดอร่า 12.36 ล้านดอลลาร์ Soundcloud 10.17 ล้านดอลลาร์ Tidal 6.8 ล้านดอลลาร์และ iHeartRadio ที่ 1.34 ล้านดอลลาร์
“นักแต่งเพลงและผู้เผยแพร่เพลงต่อสู้กันมานานหลายปีเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับค่าตอบแทนจากบริการสตรีมมิงดิจิทัลอย่างถูกต้องและครบถ้วน ‘เงินที่จับคู่ไม่ได้’ เหล่านี้ที่ผ่านมาอาจเป็นโรคระบาดร้ายของอุตสาหกรรม แต่ในทุกวันนี้เราต้องขอบคุณพระราชบัญญัติการปรับปรุงลิขสิทธิ์เพลง” David Israelite ประธาน / ซีอีโอของสมาคมผู้เผยแพร่เพลงแห่งชาติ (National Music Publishers’ Association – NMPA กล่าว
“จำนวนเงินที่สำคัญก้อนนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าระบบที่ผ่านมานั้นมันพังแค่ไหน และพระราชบัญญัติ MMA นั้นมีความจำเป็นอย่างไร และนักแต่งเพลงควรได้รับการปกป้องในผลประโยชน์ของพวกเขามากแค่ไหน ในที่สุดเงินจำนวนนั้นก็สามารถส่งถึงเจ้าของได้โดยชอบธรรม นี่เป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับผู้สร้างสรรค์บทเพลงรวมไปถึงผู้ให้บริการสตรีมมิงเองด้วย Mechanical Licensing Collective ได้รับเงินที่จับคู่ลิขสิทธิ์ไม่ได้ จากการทำการวิจัยเพื่อค้นหาเจ้าของลิขสิทธิ์ของบทเพลงเหล่านั้นและให้กระบวนการที่โปร่งใสแก่เจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าค่าลิขสิทธิ์ที่พวกเขาได้รับนั้นคือความก้าวหน้าที่น่าตื่นเต้นซึ่งจะปูทางไปสู่การเจริญเติบโตของสตรีมมิงในอนาคตซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมดนตรีโดยรวม”
“วันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในระบอบการเก็บค่าลิขสิทธิ์ที่กำหนดโดยพระราชบัญญัติการปรับปรุงลิขสิทธิ์เพลง เมื่อ 2 ปีก่อน” Garrett Levin ตัวแทนผู้ประสานงานผู้รับใบอนุญาตประกอบการดิจิทัลกล่าว
“ค่าลิขสิทธิ์เหล่านี้เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมดที่จ่ายออกไปในช่วงเวลานั้น ขณะนี้ MLC มีการดำเนินการแบบรวมศูนย์ข้อมูลการใช้งานและค่าลิขสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการส่งมอบค่าลิขสิทธิ์ตามสัญญาของ MMA และช่วยให้ MLC สามารถแจกจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับผู้ที่ได้รับอย่างมีประสิทธิภาพ”
นอกเหนือจากการชำระเงินแล้ว DSP ยังส่งไฟล์ข้อมูลมากกว่า 1,800 ไฟล์ซึ่งมีข้อมูลเกิน 1.3 เทราไบต์และข้อมูล 9 พันล้านบรรทัดมาให้ด้วย ซึ่งขณะนี้ทาง MLC กำลังตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อค้นหาและจ่ายเงินให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์ที่เหมาะสม ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“มันเป็นงานที่ยิ่งใหญ่” Lewis กล่าว “แนวคิดของเราคือการทำให้ตัวเลขจำนวนมากที่เกิดจากจับคู่ลิขสิทธิ์ไม่ได้ ให้ลดลงต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และหาเจ้าของลิขสิทธิ์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และนั่นจะต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากทั่วทั้งอุตสาหกรรมดนตรี รวมไปถึงการให้ข้อมูลแก่นักแต่งเพลงและผู้เผยแพร่บทเพลงเพื่อใช้ฐานข้อมูลสาธารณะและกระบวนการอ้างสิทธิ์ได้อย่างถูกต้อง”
Kay Hanley ผู้อำนวยการบริหารร่วมของ SONA เป็นประธานคณะกรรมการกำกับดูแลค่าลิขสิทธิ์ที่ไม่มีการอ้างสิทธิ์ของ MLC ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการกระจายเงินทุน MLC คาดว่าจะมีการจ่ายค่าลิขสิทธิ์และใบแจ้งยอดครั้งแรกในเดือนเมษายน 2564
การโอนเงินเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงจุดสูงสุดของความพยายามเป็นเวลานานหลายเดือนในส่วนของ MLC และ DSP ที่ร่วมมือกันเพื่อพัฒนาและใช้ข้อกำหนดสำหรับการใช้งานเหล่านี้
Source
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส