179724_535621069831854_923043291_n

บทความโดย แจ็ค รัสเซล

.. ความไม่เอาไหนในเรื่องการตลาดของผม ทำเอาผมเสียหายเสียเวลา ใน “วงจรธุรกิจเพลง” อยู่นานเป็น 10 กว่าปีเลยทีเดียว ..เวลา 10 กว่าปีสำหรับบางคน อาจนานเกินกว่าที่จะรอ แต่สำหรับคนที่ “รู้สึกตัวช้า” กับเรื่องทำนองนี้ นั่นเพราะลุ่มหลงแต่คำว่าอยากสร้าง อยากทำ มากกว่าจะนึกถึงอย่างอื่น พลังความคิดนี้ จึงผลักหลังผม ให้เดินไปข้างหน้าอย่างเดียว ไม่เหลียวหลังระวังตัว อย่างเก่งก็แค่หยุดพักตอนเงินลงทุนหมด แล้วก็ลุกไปต่อไป เล่นกับแบบ “มวยวัด” มั่วๆซั่วๆ ไร้คนเป็น “พี่เลี้ยง” คอยชี้นำ

.. ความที่ต้อง “คิดคนเดียว ทำคนเดียว” เป็นส่วนใหญ่ในหลายๆช่วงเวลา ส่งผลให้เรารู้ และกล้าที่จะตัดสินใจในหลายเรื่องไปเอง

..จำได้แม่นว่าตอนปี 2549 ผมบ้าบิ่นขนาดจะผลิตอัลบั้มในค่ายเพลงเก่าของตัวเอง หลายอัลบั้มด้วยกัน ใครที่จำได้ว่า ปี 2549 มีเหตุการณ์ที่คนสติดี จะไม่ออกผลงานในช่วงเวลาเช่นนี้ เราเจอการกู้ชาติครั้งแรก ของคุณ “สนธิ ลิ้มทองกุล” , เจอเทศการ ฟุตบอลโลก และตบท้ายด้วยการรัฐประหารโดย คมช. ..ซึ่งผมไม่โทษสิ่งใดเลย เพราะเข้าใจเป็นทุนอยู่แล้วว่า.. เหตุการณ์ขัดแย้งทางสังคม และการเมืองต่างๆ ถ้าหนักและกินเวลา ย่อมส่งผลกระทบโดยตรง ต่อเศรษฐกิจ และความ “สน อก สน ใจ” ของคนในเรื่องบันเทิงอยู่แล้ว

.. แต่ก็อย่างที่ว่า ทำเพราะอยากทำ ทำเพราะไม่รู้ เลยไม่มีความกลัวกังวลใดใด ในหัวไม่มีคำว่า “แผนธุรกิจ” หรือ “ยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์” ที่สุดก็คือแทบจะหมดตัว ..ผลงานต่างๆขายได้น้อย ที่มากคือ “ของเหลือ” ที่เมื่อนำมาเทกองๆกัน สูงไม่แพ้ภูเขาลูกเตี้ยๆกันเลยทีเดียว

.. ผมเคยใช้เวลาในการนั่งเหม่อมอง “ผลงานที่ขายไม่ได้” ของตัวเอง ..ผมเคยนั่งนับมันทีละปกอัลบั้ม ..ผมเคยนั่งดูลังที่ใส่ และจดจำข้อความข้างๆลังได้ไม่มีตกหล่น ..ผมมีเวลามากพอที่จะสำรวจ “เนื้อเทปกาวใส” ที่บริษัทจัดจำหน่าย ติดมาเพื่อปิดปากลัง ไม่ให้ผลงาน CD ที่ “ขายไม่ออก” ของผม ร่วงหล่นระหว่างการส่งคืน !

.. “ .. สนุกดีนะ ..” ผมมักพูดกับตัวเองอย่างนั้น เวลาที่เรารู้แล้วว่า เรากำลังจะเป็นคนไม่มีเงิน เรากำลังจะหมดตัวชั่วขณะ และอาจจะไม่เหลือความน่าเชื่อถือใดใด ที่จะไปคุยหรือขอเครดิตจากใคร ..แม้แต่เพื่อนบางคน ที่เราเคยช่วยเหลือมาแต่ก่อน ..ก็ตาม

.. เด็กๆรุ่นใหม่ๆ เวลามาบ่นให้ผมฟัง ว่างานเพลงของตนเองขายไม่ได้ ไม่มีวางจำหน่ายตามร้าน ทดท้อใจอย่างนั้น เหนื่อยหน่ายอย่างนี้ อยากหยุด ..ผมมักให้กำลังใจเขากลับไปว่า… “ … ถ้ายังเจ๊งไม่ถึง 5 ชุด อย่าเพิ่งบ่น คุณยังไม่ได้เริ่มต้นด้วยซ้ำ ! …”

.. บางทีการเจ๊งบ่อยๆ ให้ฟ้าให้ดินเห็น และเชื่อว่าเราเอาจริงกับสิ่งที่เราทำ มันอาจเป็น “ใบเบิกทางชีวิต” ก็ย่อมได้ ผมเชื่อแบบนี้นะ ผมเชื่อ เพราะผมผ่านตรงนี้มาได้ โดยที่ผมก็ไม่รู้ตัวมาก่อน เพียงแต่ว่าสิ่งที่ผมทำ มันหล่อหลอมและปรับตัวเองไปโดยอัตโนมัติ ผมกลายเป็นคนแม่นยำขึ้น คลำทางถูกขึ้น แม้จะเดินในที่มืด หรือปิดตาเดินในที่สว่าง ผมก็มักเห็น “ทางรอด” ลางๆ อาจไม่เด่นชัดมาก แต่ผมก็พอคลำไปได้ ไม่ทำให้ต้องเดิน “ตกขอบชีวิต” ซ้ำเก่า

.. ในวันที่ผมพอรู้ทิศทางของตัวเองแล้ว ผมเห็น “ตัวตน” ของตัวเองในกระจก ผมพ่นคำถาม ถามตัวเองอยู่หลายครั้ง แท้จริงแล้ว ที่ว่ารู้ “ทางรอด” ผมรอดในแบบ “นักสร้างสรรค์” หรือรอดในแบบ “นักธุรกิจ” ?!

.. และผม ชอบจะเป็นแบบไหน มากกว่ากัน ?!

1044516_535622499831711_859598648_n

.. อดีต ผมเคยไม่ได้เรื่องมาหมดแล้วทั้งสองแบบ ถ้าเป็นนักธุรกิจ คนเก่งๆที่สอนให้ผมเดินตาม เขาบอกผมว่า ในมือต้องกำถุง ไว้สำหรับใส่ “เงินกำไร” เท่านั้น อย่าไปคิดเรื่องอื่น โดยเฉพาะเรื่องที่เสี่ยงต่อการ “ขาดทุน” การทำในสิ่งที่เสี่ยงขาดทุน ไม่ใช่วิสัยของ “นักธุรกิจ” ที่ดี ..แน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้น และมั่นใจว่าผมคงเป็นนักธุรกิจที่ดีไม่ได้

“… นักธุรกิจที่ดี จะไม่ทำในสิ่งที่เสี่ยงต่อการ “ขาดทุน” …” ย้ำคำนี้ไว้ในหัว แล้วแบบที่เหลือล่ะ มันยังพอจะใช่ผมไหม ? ..มันโก้หรูพิลึก คำว่า “นักสร้างสรรค์” จริงหรือที่ผมจะเป็นแบบนี้ได้ ผมเชย ผมล้าสมัย ผมอ่อนเรื่องเทคโนโลยี่ ในวันที่มีการใช้อีเมล์ในการส่งงาน หรือส่งเดโมเพลง เพื่อให้นักร้อง หรือคนทำดนตรีไปทำต่อ ..ผมยังไม่มีอีเมล์เป็นของตัวเองเลย ?!

.. ในปี 2550 ผมไม่รู้ด้วยซ้ำอะไรคืออีเมล์ เปิดใช้ยังไง มีแล้วได้ประโยชน์อย่างไร ?! ..ผมยังคงส่งเดโมเพลง โดยการอัดเสียงลง “เทปคาสเซ็ท” เป็นเทปเปล่าราคาม้วนละ 35 บาท อัดใส่ลงเครื่องอัดเสียงขนาดพกพา ที่เราเรียกกันว่า “ซาวน์เบาท์” เสร็จแล้ว ก็นำเอ “เดโมเทป” ขับรถไปส่งให้นักร้อง หรือคนเรียบเรียงดนตรีเองกับมือ

.. ใครทำงานกับผมตอนนั้น บ่นกันทุกคนว่า.. “.. เสียเวลา ฉิบหาย เลย ! ต้องไปหาเครื่องเล่นเทป มาเปิดฟังอีก .. “ บางคนเช่นพี่นก (ชีพชนก ศรียามาตย์) ต้องไปฟังเดโมของผมในรถของเพื่อน เพราะรถของเขา หรือในบ้าน ไม่มีเครื่องเล่นเทปแล้ว ..คุณลองคิดดู ตอนนั้นปี 2550 แล้วนะ ผมยังไม่รู้จัก..อีเมล์ ?! ผม “โลวไอที” ขนาดนี้เลยหรือ ?!

.. แต่มันจริงที่สุดเลยครับ

1044556_535454009848560_1663086908_n

 ติดตามผลงานต่างๆของเขาได้ที่ https://www.facebook.com/classyfanclub