[รีวิวการแสดงสด] เดี่ยว 13 – มุกเดี่ยวสไตล์อุดมแต่ฮาแบบคนละครึ่ง

Our score

5.8

Release Date

10/06/2022

รอบการแสดงที่ชม

17 มิถุนายน 2565 รอบ 19:00 น.

สถานที่

Royal Paragon Hall

เวลารวมในการแสดงสด

200 นาที

Our score

5.8

[รีวิวการแสดงสด] เดี่ยว 13 – มุกเดี่ยวสไตล์อุดมแต่ฮาแบบคนละครึ่ง

จุดเด่น

1. ยังหยิบจับเรื่องราวเซอร์แตกในไทยมาเล่าได้อย่างมีสีสัน
2. มุกที่พูดถึงคนดังและเลียนเสียงยังสร้างหัวเราะได้ดี

จุดสังเกต

1. หลายมุกดูเป็นประเด็นเก่าที่เหมือนเอามารีไซเคิลแล้วบิดนิดหน่อย
2. อายุที่เริ่มมากขึ้นมีผลต่อการแสดงของอุดมไม่น้อยเลยทีเดียว
3. การตัดการแสดงของ DTK ออกเหมือนหักน้ำใจแฟน ๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว

• เนื้อหาโชว์ในภาพรวม

  6.0

• ความสวยงามของการออกแบบพื้นที่หรือเวที

  7.0

• ศักยภาพของนักแสดง

  6.0

• คุณภาพของโชว์เมื่อเทียบกับงานที่ผ่านมา

  5.0

• เทียบความคุ้มค่าบัตรชมการแสดง

  4.9

กลับมาอีกครั้งกับ ‘เดี่ยว 13’ จาก โน้ส อุดม แต้พานิช นักแสดงเดี่ยวไมโครโฟนที่ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ที่สุดในประเทศไทย มีแฟน ๆ ที่นับวันรอชมการแสดงสดของเขาทั่วประเทศไทย นับตั้งแต่วันที่ประกาศขายบัตร ‘เดี่ยว 13’ มาตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2563 จนถึงการเลื่อนการแสดงสด 3 รอบในที่สุด ‘เดี่ยว 13’ ก็ได้ฤกษ์จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 10-19 มิถุนายน 2565 ท่ามกลางความคาดหวังของแฟน ๆ ที่ง้างกรามรอมาร่วม 2 ปี

ความชราและมรณานุสติ

ประเด็นหลักของอุดม แต้พานิชใน ‘เดี่ยว 13’ มีแกนกลางหลัก ๆ คือเรื่องของความชราที่เริ่มมาเยือนในวัย 54 ปี ซึ่งอุดมก็ปล่อยฮุกมุกแรกด้วยการบรรยายซีนการตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากที่ได้ให้รายละเอียดตั้งแต่หมอผู้ชายที่เขาบรรจงเลือกมาและเซอร์ไพร์สด้วยการพบว่าพยาบาลสาวเป็นแฟนคลับของเขาและยิ่งทวีความอึดอัดเมื่อหล่อนกลายเป็นพยานรู้เห็นการตรวจต่อมลูกหมากครั้งแรกในชีวิต

และอุดมก็ใช้จุดประกายตอนเริ่มโชว์เพื่อเชื่อมโยงประเด็นไปสู่เรื่องเล่าตลกขบขันอันเกี่ยวพันความชราและวุฒิภาวะในวัยเลข 5 นำหน้า ด้วยการพูดถึงเวลาที่เปล่าประโยชน์ที่เขาคิดว่าก่อนวัย 65 ปีที่เขาคิดว่าตัวเองใช้ชีวิตเต็มที่และพร้อมจากโลกไปแล้ว ซึ่งมีทั้งมุกจิกกัดงานวันเกิดที่เขาไม่เคยเซอร์ไพรส์ งานศพที่มีแต่อะไรประดักประเดิดรวมไปถึงงานแต่งงานที่มีพิธีรีตองมากมายเกินความจำเป็นซึ่งในจุดนี้เองที่คนดูหลายคนน่าจะคิดเหมือนผมว่าหลายมุกเริ่มเหมือนการรีไซเคิลมุกเก่ามาใช้แม้จะมีเปลี่ยนรายละเอียดบ้างแต่ก็แอบเสียดายตังค์ไปไม่น้อยเลย

จะมีที่รู้สึกว่าใหม่อยู่บ้างก็คงเป็นการแทรกมุกแซวคนในรัฐบาลเช่น “ผมไม่อยากอยู่เป็นภาระใคร หรือไปประชุมสภาก็หลับ” (คงไม่ต้องบอกนะครับว่าแซวใคร อิอิ) หรืออย่างการสังเกตเทรนด์การทานอาหารอย่างการกินโอมากาเสะ ที่หลายครั้งอุดมรู้สึกว่านอกจากจะไม่อิ่มแล้ว ยังไม่จรรโลงใจเวลาเชฟพูดถึงที่มาของวัตถุดิบ หรือกระทั่งการพูดถึงเวลาที่หลายคนหมดไปกับการนั่งดูคลิปบีบสิวและคลิปแคะเล็บขบที่โดนใจคนทั้งฮอลล์ไปไม่น้อยเหมือนกัน

การบวชฝึกจิตและพิสูจน์ความเชื่อเรื่องพญานาค

ในส่วนนี้โน้สได้พูดถึงสาเหตุนึงที่เขาบวชคือการตั้งใจฝึกจิต ส่วนสาเหตุเขาได้ท้าวความถึงเนื้อหาใน ‘เดี่ยว 12’ ที่เขาเคยพูดถึงผีที่อยู่ร่วมชายคากับเขา และหลังจากการเชิญอุ๋มอิ๋ม คนเห็นผี และ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ มาบ้านและไม่ได้ทางแก้ โน้สจึงตัดสินใจฝึกจิตด้วยการบวชในวัดถ้ำพระบำเพ็ญบุญ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย และเป็นธรรมดาที่พระใหม่จะต้องถูกต้อนรับด้วยผีสางนางไม้จนเขาเริ่มเกิดการฝึกจิตจนแข็งแรง ในจังหวะนี้ส่วนตัวรู้สึกว่าอุดมคุมจังหวะได้ไม่ดีเท่าที่ควรและประเด็นที่เอามาพูดไม่ได้ลึกซึ้งไปกว่าเดี่ยวครั้งที่ผ่านมา แถมการลากยาวเรื่องถ้าเขาตายแล้วกลายเป็นผีจะหลอกผู้คนด้วยความเดือดร้อนตามกฎความบังเอิญของเมอร์ฟี (Murphy’s Law) ก็ไม่ค่อยคมเท่าที่ควร

แต่แล้วอุดมก็แก้มือได้สำเร็จเมื่อเขากลับสู่สิ่งที่ถนัดอีกครั้งนั่นคือการหยิบยกประสบการณ์ที่มีตัวละครเป็นคนดังต่าง ๆ โดยคราวนี้ไฮไลต์อยู่ที่ทริปของขวัญพญานาคที่มีทั้ง ก้อง ห้วยไร่ และ ปาล์มมี อีฟ ปานเจริญ เป็นตัวละครเดินเรื่องสุดฮา ซี่งโดยส่วนตัวมองว่าแก๊กนี้อุดมวางจังหวะการเล่าเรื่องได้ค่อนข้างดี ไม่ย้วยเหมือนแก๊กอื่น ๆ และทำให้ผู้ชมทั่วพารากอน ฮอลล์ระเบิดเสียงหัวเราะได้อย่างสะใจ

แซวลุงตู่

สิ่งที่ทำให้การแสดง ‘เดี่ยว’ เป็นเหมือนหมายเหตุประเทศไทยหนีไม่พ้นการแซวรัฐบาลในยุคนั้น และ ‘ลุงตู่’ ก็คือตัวละครที่อยู่มาตั้งแต่ ‘เดี่ยว 11’ แต่คราวนี้แทนที่จะแรป หรือ แหล่แซวลุง อุดมกลับล้อเลียนด้วยการช่วยหาเสียงแบบบูลลี่มาร์เก็ตติง (Bully Marketing) ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วเป็นแก๊กที่ดูฉาบฉวยทำเพื่อเอาใจผู้ชมที่พอวัดทัศนคติได้นะครับว่าหลายคนเป็นคนรุ่นใหม่และไม่ชอบรัฐบาลนี้อยู่แล้ว และแม้จะตบด้วยประโยคคม ๆ ชวนคิดว่า ‘เราต้องแยกแยะนะครับคนดี กับคนทำงานเป็นนี่คนละเรื่องเลยนะครับ เราคงไม่เอาพระที่ถือศีล 227 ข้อมาขับเครื่องบินแทนนักบินที่ได้รับการฝึกมาหรอก จริงมั้ย’ แต่ในภาพรวมของแก๊กนี้ถือว่าทำได้น่าผิดหวังหากเทียบกับมาตรฐานของเดี่ยวที่ผ่านมา

DTK ที่หายไป

จากการรอคอยการแสดงเดี่ยวมาร่วม 2 ปีและแทนที่ด้วยการชมมิวสิกวิดีโอเพลงของ ‘DTK’ หรือ ดม โต ก้อง ถึง 4 เพลงได้แก่ ‘ลองรัก’ ‘ลองรวย’ ‘รองช้ำ’ และ ‘คืนกูสา’ ก็ต้องยอมรับว่าผู้ชมคาดหวังเซอร์ไพรส์การโชว์เพลงสดแบบจัดเต็มเหมือนที่เคยเห็นในการแสดง ‘หมู่’ ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่แล้วการแสดง ‘เดี่ยว 13’ ก็ทำได้แค่เปิดมิวสิกวิดีโอตอนรอการแสดงเริ่มเท่านั้นเอง และนอกจากการเอ่ยถึงก้อง ห้วยไร่ในเรื่องเล่าแล้ว บนเวทีก็มีเพียงการแสดงเดี่ยวของอุดมตามที่เรากล่าวกันไป

สังขารที่เริ่มร่วงโรยของอุดม

ยอมรับเลยว่านอกจากมุกล้อสังขารตัวเองแล้ว ความมีอายุของอุดมดูจะเป็นอุปสรรคในการแสดงโชว์ของเขาไม่น้อยเลยทีเดียว หลายครั้งอุดมต้องหยุดหอบหายใจ ดื่มน้ำ และเรียกพลังขึ้นมาใหม่ และที่สำคัญหากเราตัดช่วงสารคดีก่อนเริ่มการแสดงที่กินเวลานับชั่วโมง เวลาโชว์ของ ‘เดี่ยว 13’ บนเวทีก็นับได้ว่าสั้นมาก เหมือนเป็นการเซฟแรงของอุดมไปด้วย ซึ่งผมเริ่มเห็นความเป็นไปได้เหมือนกันว่าโชว์ต่อไปของอุดมน่าจะเหมาะกับคอนเทนต์ขนาดสั้นเนื่องด้วยสภาพร่างกายและอาจรวมถึงข้อจำกัดการจัดโชว์ในยุคนิวนอร์มอลที่อาจบังคับให้เดี่ยวครั้งนี้น่าจะเป็นโชว์ท้าย ๆ ของอุดมไปโดยปริยาย แต่ก็หวังนะครับว่าโชว์สุดท้ายของเขาจริง ๆ น่าจะทิ้งความทรงจำที่น่าจดจำมากกว่านี้เสียหน่อย

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส