บทความเฉพาะผู้ที่ดู Stranger Things 4 Volume 1 แล้วเท่านั้น

ใครที่ได้ชมครึ่งแรกของ Stranger Things ต่างก็ชื่นชมไปในทางเดียวกันว่า เข้มข้น เร้าใจ ดุเดือดกว่าทุกซีซันที่ผ่านมา แม้ว่าภาคนี้จะสร้างต้วร้ายที่มีพิษสงร้ายกาจ และโหดกว่าทุกตัวที่เคยมีมา แต่ถึงกระนั้นผู้สร้างก็ยังประณีตถึงกับสอดแทรกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ในฉากหลังโดยไม่สนใจว่าผู้ชมจะสังเกตเห็นหรือไม่ อย่างเช่นรายละเอียดในห้องสายรุ้ง (Rainbow Room) ที่แล็บฮอว์กินส์นั้น ก็สอดแทรกนัยสำคัญของเรื่องไว้ด้วยเช่นกัน มีอะไรแอบซ่อนไว้ตรงไหน ผู้เขียนจะเล่าให้ฟังครับ

ห้องสายรุ้งเป็นฉากสำคัญในซีซันนี้ เพราะเอเลฟเวนมีภาพในความทรงจำผุดขึ้นมาตลอดว่า ตัวเธอตอนที่ยังเป็นเด็กนั้นฟื้นขึ้นมาท่ามกลางเหตุการณ์นองเลือด เพื่อน ๆ ที่เป็นเด็กทดลองในห้องแล็บฮอว์กินส์ล้วนเสียชีวิตอย่างสยดสยอง ซึ่งเธอเข้าใจว่าเป็นฝีมือของเธอเองที่ฆ่าเด็กทดลองเหล่านั้น จนเมื่อเมื่อเธอได้เข้ารับการทดลอง นำพาจิตของเธอย้อนกลับในเหตุการณ์สะเทือนใจในอดีตอีกครั้ง ทำให้เธอได้เผชิญหน้ากับ เฮนรี่ ครีล ผู้ช่วยฝึกสอนในห้องสายรุ้ง และเกิดการต่อสู้กันซึ่งพาไปถึงจุดคลี่คลายปริศนาว่าแท้จริงแล้ว เฮนรี่ ครีล ต่างหากคือผู้ที่ก่อเหตุสังหารหมู่ในครั้งนั้น และเป็นเอเลฟเวนนี่เองที่เอาชนะครีลได้ แล้วส่งครีลไปอยู่ในอีกมิติหนึ่ง ที่เป็นมิติกลับหัว ทำให้เขาได้กลายร่างเป็น ‘เวคนา’ วายร้ายตัวสำคัญในซีซันที่ 4 นี้

ในฉากที่เอเลฟเวนและครีลได้เผชิญหน้ากันในห้องสายรุ้งนั้น ภาพจะตัดไปมาระหว่างใบหน้าของครีลและเอเลฟเวน ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าสายรุ้งที่อยู่เบื้องหลังของทั้งคู่นั้นต่างกัน ด้วยการเรียงสีตรงกันข้ามกัน สายรุ้งด้านหลังครีลนั้นมีสีม่วงอยู่บนสุดแล้วมีสีแดงอยู่ล่างสุด ส่วนฝั่งเอเลฟเวนนั้น สายรุ้งจะมีสีแดงอยู่บนสุดและมีสีม่วงอยู่แถบล่างสุด การที่ใส่สีสายรุ้งให้มีสีเรียงสลับกันนั้น เพื่อสะท้อนถึงพลังพิเศษระหว่างครีลและเอเลฟเวนที่มีทิศทางตรงกันข้ามกันนั่นเอง แม้การใช้พลังของทั้งคู่จะเหมือนกันอยู่อย่างก็คือเป็นพลังแบบเทเลคิเนติก หรือ การใช้โทรจิตเคลื่อนย้ายสิ่งของ แต่ท่าทางและจุดกำเนิดของพลังจะตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง

  • ขณะที่ปล่อยพลังใส่กันนั้น เอเลฟเวนจะใช้มือขวาในการปล่อยพลัง ในขณะที่ครีลถนัดใช้มือซ้าย
  • เฮนรี่ ครีล ใช้ความโกรธและความเกลียดชังเป็นแรงขับเคลื่อนพลัง ขณะที่เอเลฟเวนใช้ความรัก ความผูกพัน เป็นแรงขับเคลื่อนพลัง ในฉากที่ครีลและเอเลฟเวนต่อสู้กันนั้น เหตุมาจากที่ครีลชักชวนเอเลฟเวนให้ไปร่วมแผนการอันชั่วร้ายของเขา แต่เอเลฟเวนกลับปฏิเสธ ครีลจึงตัดสินใจจะสังหารเอเลฟเวนเสีย ในตอนนั้นเองที่เอเลฟเวนใช้ความทรงจำที่มีถึงแม่ ช่วงเวลาที่แม่บอกรักเธอทำให้เอเลฟเวนเปลี่ยนความรักเป็นความแข็งแกร่งแล้วส่งพลังให้ครีลไปอยู่ในมิติกลับหัว แล้วกลายร่างเป็นเวคนา
Stranger Things will have a prequel about Eleven's mother, though like a  book | Terry Ives | Television | shows
เอเลฟเวนและแม่

ที่ครีลพ่ายแพ้ต่อเอเลฟเวนก็เพราะเขาไม่เคยได้รู้จักความรัก เมื่อเขาได้กลายร่างเป็นเวคนาจึงต้องอยู่อย่างโดดเดียวในมิติกลับหัว เมื่อเปรียบเทียบกับชีวิตของเอเลฟเวน แม้ว่าเธอจะต้องเผชิญวิบากกรรมต่าง ๆ นานา แต่เธอได้รู้จักความรัก ทั้งจากเพื่อน และจาก จิม ฮอปเปอร์ ได้เรียนรู้การเสียสละเพื่อความรัก ซึ่งแรงขับเคลื่อนที่ก่อให้เกิดพลังอันรุนแรงนี้น่าจะถูกขยายความต่อเป็นประเด็นหลักใน Volume 2 ถ้าเอเลฟเวนได้เรียนรู้แล้วว่าเธอสามารถแปลงความรักจากคนรอบข้างตัวเธอมาปรับใช้เป็นพลังเพื่อต่อสู้กับเวคนาได้ ในครึ่งหลังเราน่าจะได้เห็นฉากปะทะกันดุเดือดระหว่างเอเลฟเวน และ เฮนรี่ ครีล ในร่างที่กลายสภาพเป็นเวคนาเต็มตัวแล้ว มันส์น่าดูแหละ รอชมพร้อมกัน 1 กรกฎาคมนี้

ที่มา