สืบเนื่องจาก It: Chapter One (2017) และ It: Chapter Two (2019) ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้รับเสียงชื่นชมทั้งจากนักวิจารณ์และผู้ชมในทางบวก ที่ทีมผู้สร้างแคสติงทีมนักแสดงในกลุ่ม Loser Club ได้เข้ากับคาแรกเตอร์ตามที่นิยายของ สตีเฟน คิง บรรยายไว้ เคมีระหว่างนักแสดงเข้ากันได้ดี และแน่นอน การแสดงของ บิล สการ์สการ์ด (Bill Skarsgård) ที่ถ่ายทอดภาพลักษณ์ของ เพนนีไวซ์ ออกมาได้น่าสะพรึงกลัวจริง ส่งผลให้หนังทำรายได้ไปอย่างถล่มทลาย ภาคแรกกวาดไป 701 ล้านเหรียญ ส่วนภาคสองได้ไป 473 ล้านเหรียญ
หลังจบ It: Chapter Two ทางทีมผู้สร้างก็หาทางที่จะขยายจักรวาลของ It ออกไปในหลาย ๆ ทาง มีไอเดียว่าอาจจะสร้างภาคแยกที่เล่าเรื่องราวของเพนนีไวซ์อย่างเดียว ผ่านมาจนถึงปี 2023 ทีมงานก็ได้ข้อสรุป และประกาศข่าวอย่างเป็นทางการผ่านทางทวิตเตอร์ของ HBO Max ว่าจะสร้างทีวีซีรีส์เล่าเรื่องราวภาคก่อนหน้าในชื่อ ‘Welcome to Derry’
เรื่องราวใน Welcome to Derry นั้น จะเซตให้เหตุการณ์เกิดในยุค 60’s ก่อนเรื่องราวใน It: Chapter One เนื้อหาจะเน้นหนักไปที่จุดกำเนิดของเพนนีไวซ์ ซึ่งไม่เคยมีการเอ่ยถึงมาก่อนในหนัง 2 ภาคแรก
“เรื่องราวของเด็ก 4 คนที่อยู่ในเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ติดกับฐานทัพของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งที่นี่ก็มีบังเกอร์ลึกลับที่เป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการพิเศษ” แล้วจู่ ๆ เพื่อนคนหนึ่งของเด็กเหล่านี้ก็หายสาบสูญไป พวกเขาจึงร่วมกันออกตามหา”
เรื่องย่อสั้น ๆ นี้ก็พอเผยให้เราคาดเดาได้แล้วว่า การหายตัวไปของเด็กน้อยจะต้องเกี่ยวข้องกับเพนนีไวซ์อย่างแน่นอน แล้วก็น่าจะมีการย้อนไปเล่าถึงการที่มันมาสิงสถิตอยู่ในเดอร์รี่ตั้งแต่หลายศตวรรษก่อน
ในการนี้ HBO ยังเผยรายชื่อนักแสดงอีกด้วยดังนี้ เทย์เลอร์ เพจ, โจวาน อเดโพ, เจมส์ รีมาร์ และ คริส ชอล์ก และรายที่ทุกคนคาดหวังกันมาสุดก็คือ บิล สการ์สการ์ด ผู้รับบท เพนนีไวซ์ ในภาพยนตร์ ซึ่งยังไม่มีการตอบรับจากเจ้าตัวว่าจะกลับมารับบทเพนนีไวซ์ในทีวีซีรีส์ชุดนี้หรือไม่ และทาง HBO ก็ไม่ได้เอ่ยถึงนักแสดงรายอื่นที่จะเป็นตัวเลือกในบทเพนนีไวซ์นี้ด้วย ซึ่งเป็นไปได้อย่างมากว่าทาง HBO น่าจะกำลังเจรจากับสการ์สการ์ดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะอย่างน้อยก็มีชื่อของ แอนดี้ มุสชิเอตติ (Andy Muschietti) ผู้กำกับดั้งเดิมจากภาพยนตร์ทั้งสองภาค กลับมารับหน้าที่ผู้กำกับร่วมกับ เจสัน ฟุช (Jason Fuchs)
HBO Max วางแผนไว้ว่า ซีรีส์น่าจะพร้อมสตรีมมิงให้ได้ดูกันภายในปี 2024 ส่วนกำหนดวันที่แน่นอนจะประกาศตามมาภายหลัง
ที่มา : movieweb