บท
ณัฐิยา ศิรกรวิไล
กำกับ
กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
จำนวนตอน
22 ตอน
ช่องทางรับชม
ช่อง 3HD ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. รับชมย้อนหลังได้ที่ 3Plus และ VIU
Our score
8.0[รีวิว] แค้น Ep1-2 : การแก้แค้นแบบตัวมัม ที่กลั่นออกมาจาก กมลสันดาน
จุดเด่น
- 2 ตอนแรก ตั้งใจที่จะให้คะแนนเท่ากันในทุก ๆ มิตินะคะ เพราะเพียงเท่านี้ ก็สร้างความประทับใจแล้วในแง่ของการแสดงที่สองตัวแม่ แอฟ แต้ว ฟาดกันได้สมศักดิ์ศรีจริง ๆ
- บทมีความสมเหตุสมผลมากขึ้น และอยู่ในยุคมากกว่านิยายต้นฉบับ ในด้านของปมความแค้นที่ทำไมต้องเอาคืน
จุดสังเกต
- รอดูตอนต่อไปค่ะ และคาดหวังว่าจะเป็นละครทวงแค้นน้ำดี ที่ไม่แผ่วปลายแบบเรื่องอื่น ๆ
-
บท
8.0
-
การแสดง
8.0
-
การดำเนินเรื่อง
8.0
-
โปรดักชัน
8.0
-
ความสนุกตามแนวละคร
8.0
ละครเรื่องใหม่ของ ‘แอน ทองประสม’ ที่จับเอาตัวแม่แห่งวงการ ‘แอฟ ทักษอร’ นางเอกรุ่นพี่ และ ‘แต้ว ณฐพร’ นางเอกรุ่นน้อง มาฟาดฟันกันแบบเจ็บยับ แต่การฟาดฟันในครั้งนี้ไม่ใช่การแย่งผู้อย่างที่แล้ว ๆ มา แต่มาจากความ “แค้น” ที่เก็บกดจดลึกอยู่ในกมลสันดาน จนกลั่นออกมาเป็นความอาฆาต ที่ต้องเอาคืนให้ล่มจมกันไปข้าง
แค้น : ละครฟอร์มเข้มของ แอน ทองประสม เล่าเรื่องราวของ ปรางทอง หญิงสาวนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เติบโตมาในบ้านของเศรษฐีในฐานะลูกติดของปรางทิพย์ภรรยาน้อย สองแม่ลูกมีชีวิตไม่ต่างกับคนรับใช้ภายในบ้าน เมื่อพ่อเลี้ยงของเธอเสียชีวิตลง และทันที่ที่ เหมือนแพร เด็กสาวที่มีศักดิ์เป็นหลานของเธอได้เกิดมาบนโลกใบนี้เพื่อเป็นคุณหนูของบ้าน เธอยิ่งถูกปฏิบัติไม่ต่างจากคนรับใช้ ความแค้นของเธอสะสมมาทีละเล็กละน้อย นับแต่วันนั้น
เธอวางแผนทำทุกอย่างเพื่อยึดเอาสมบัติของตระกูลนี้มาเป็นของตนเอง เธอแสร้งทำดีเพื่อทำร้าย ทำลายทุกอย่างในชีวิตของเหมือนแพร จนแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป 14 ปี ผ่านไป หลังจากถูกปรางทองทำลายชีวิต เหมือนแพรกลับมาอีกครั้งและพร้อมที่จะชำระแค้น กับผู้หญิงใจร้ายที่ทำลายครอบครัวเธอ
ละครเรื่องนี้รวม 4 ตัวแม่
เรียกว่าเป็นการรวม 4 ตัวแม่มาอยู่ในละครเรื่องเดียวกันก็ว่าได้ เริ่มจาก ‘แอน ทองประสม’ ผู้จัดมือทองที่รับหน้าที่ผลิตละครจากนิยายที่เคยถูกทำเป็นหนังมาแล้วเมื่อปี 2530 อย่างพรหมจารีสีดำ เท่าที่ทราบ ทางช่องซื้อเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ยังไม่เห็นมีใครหยิบมาทำสักที จนเมื่อได้มาอยู่ในมือของ แอน ทองประสม นิยายเรื่องนี้ก็คงต้องถูกขัดสีฉวีวรรณกันสักหน่อย เพราะเมื่อต้องผลิตขึ้นในยุคสมัยที่อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว โดยเฉพาะความนิยมในการชมละคร เพียงปัดฝุ่นนิยายเก่า เห็นทีจะไม่เพียงพอซะแล้วละค่ะ
งานนี้เลยเท่ากับว่า แค้น ได้กลายเป็นละครที่ดัดแปลงมาจากเค้าโครงเรื่องพรหมจารีสีดำ ด้วยฝีมือการเขียนบทของ ‘ณัฐิยา ศิรกรวิไล’ มากกว่าจะเรียกว่าปัดฝุ่น เพราะเนื้อหาด้านในนั้นได้เปลี่ยนปมแค้นให้หนักกว่าเดิม สมเหตุสมผลกว่าเดิม เปลี่ยนเนื้อหาที่ตกยุคไปแล้วให้กลายเป็นละครแนวจิตวิทยา (Psychological Drama) แต่ยังคงตัวละครไว้คงเดิม เพิ่มเติมคือใส่คาแรกเตอร์ที่ชัดเจนมากขึ้นไปอีก
ด้วยการให้ ปรางทอง (แอฟ ทักษอร) มีบทบาทที่ชัดเจนกว่าในนิยาย แซ่บกว่าและร้ายลึกกว่าหลายขุม และให้ เหมือนแพร (แต้ว ณัฐพร) มีปมแค้นที่ใหญ่กว่าการโดนน้าสาวแย่งคู่หมั้น เรียกว่าเป็นการล้างน้ำใหม่ทั้งข้างนอกข้างใน จนกลายเป็นละครแก้แค้นรสชาติไทยแบบทันสมัย จากผลงานของผู้จัดเบอร์ต้น นักเขียนบทเบอร์ต้น และ 2 นางเอกเบอร์ต้น เป็นการร่วมมือกันของ 4 Queen เพื่อมาฟาดคนดูให้ตาแตกคาจอ และจาก 2 ตอนแรกที่ออกอากาศ ก็ทำเอาคนดูสาแก่ใจไปเลยจ้า
งานนี้แม่มาเพื่อฟาด
ยกความปวดขมับให้แม่แอฟก่อนคนแรกเลยค่ะ กับการมารับบทปรางทองในละครเรื่องนี้ของ แอฟ ทักษอร ทำให้เราได้เห็นถึงศักยภาพด้านการแสดงของผู้หญิงคนนี้ชัดแจ๋วยิ่งขึ้น ‘ร้ายยันแววตา’ แอฟทำให้เราเห็นแบบนั้น เป็นความร้ายที่เปล่งแสงออกมาจากข้างใน จากกมลสันดาน จากส่วนลึกของสปีชีส์ โอ้โห ไม่รู้จะสาธยายอย่างไรดีให้สมกบความร้ายที่แสดงออกมาแค่ 2 ตอนแรกเท่านั้นเอง บ้าไปแล้วแอฟ เธอสามารถมากไปแล้ว
และเมื่อมาประชันกับ แต้ว ณฐพร นางเอกแถวหน้าที่เราเห็นฝีไม้ลายมือเธอมามากมาย สองคนก็ปล่อยพลังใส่กันแบบตาไม่กะพริบ เราเห็นฝีมือแต้วมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง โดยเฉพาะซีนอารมณ์ที่แต้วไม่เคยแผ่ว ถึงจะไม่แปลกใจกับการแสดงของแต้วมากนักเพราะมั่นใจมากว่าแต้วเอาอยู่ แต่แต้วก็ยังจะทำให้เราทึ่งมากขึ้นไปอีกว่า เฮ้ย!! ที่ผ่านมาว่าดีแล้ว พอมาเป็นเรื่องนี้ยิ่งดีกว่าและดีมากขึ้นไปอีกหลายเท่า
โกรธจนเส้นเลือดปูด กลัวจนตัวสั่น เสียใจจนสติแตก แต้วสามารถเดินวนเวียนอยู่ในอารมณ์เหล่านี้ได้สมจริง จนเกือบลืมไปเลยว่า นี่เรากำลังดูผู้หญิงคนหนึ่งเล่นละครอยู่ เพราะแววตา แอ็กติ้ง แม้กระทั่งน้ำเสียง แต้วทำได้ลึกถึงอารมณ์ จนสามารถส่งออกมาให้คนดูสัมผัสถึงความเจ็บปวดนั้นได้จริง ๆ
ในด้านของฝ่ายชาย นาย ณภัทร มาในบทของ พิธาน พระเอกของเรื่อง เราเห็นแสงที่เปล่งออกมาจากตัวละครตัวนี้รำไรใน 2 ตอนแรก แต่ก็ทำให้เราเห็นว่านาย มีฝีมือการแสดงที่พัฒนาขึ้นไปจากละครเรื่องก่อนหน้าอยู่มาก ในขณะที่เราอยากเห็นบทบาทของ พุฒิชัย เกษตรสิน ในบทของ อรรณพ มากอีกสักหน่อย แต่ผู้เขียนบทก็จัดให้เราเห็นเพียงชั่วคราว เพื่อแลกกับความทันสมัยของการดำเนินเรื่อง ที่ก็เอาละค่ะ โอเค ถ้ามันจะทำให้เนื้อหาของนิยายที่ตกยุคไปแล้ว เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
แต่ที่แน่ ๆ เราได้เห็นเด็กปั้น แซม-พฤฒิชัย รวยฟูพันธ์ มารับบท เก่งกาจ ซึ่งเป็นบทสำคัญของเรื่องอีกบทหนึ่ง เป็นหนึ่งในสามหนุ่มที่มะรุมมาตุ้มรุมรักเหมือนแพร และต้องตกเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นครั้งนี้ คาดหวังค่ะว่าบทจะเขียนให้ตัวละครตัวนี้เป็นเครื่องมือที่น่าสงสารได้ขนาดไหน
การดำเนินเรื่องที่ทันสมัยและบทปรับใหม่ที่ชาญฉลาด
เรื่องนี้เป็นการดำเนินเรื่องแบบแฟลชแบ็กไปมา แต่ไม่ทำให้คนดูสับสนเลยสักนิด และสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวเอาได้อย่างไม่มีอะไรสงสัยมากนัก เรียกว่าถึงจะมีมุมสงสัยอยู่สักหน่อย แต่ก็สามารถรอเวลาที่ละครจะค่อย ๆ เผยแง่มุมต่าง ๆ ออกมาได้อย่างไม่อึดอัด บวกกับแสง สี ที่จัดออกมาได้ใสสะอาด ให้บรรยากาศของละครไทยผสมเกาหลี ที่แทบจะกลายเป็นซิกเนเจอร์ของละครค่ายทองฯ ไปซะแล้ว
และจากบทที่มีการปรับใหม่เกือบทั้งหมด คงไว้เพียงคาแรกเตอร์บางประการของตัวละคร เพิ่มปมและแรงปรารถนาภายในใจ ให้การล้างแค้นมีเหตุผลมากยิ่งขึ้น ก็ทำให้เราสามารถคาดหวังได้ว่า ผลงานการเขียนบทของ ณัฐิยา ศิรกรวิไล ที่รอคอยมานานแสนนานน่าจะสร้างความประทับใจ สมการรอคอยให้คนดูได้ยิ้มออก ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปในตอนอื่น ๆ ที่จะออกอากาศให้ปวดตับชนิดอาทิตย์ต่ออาทิตย์
แต่ถ้าหากจะพูดถึงเพียง 2 ตอนแรกที่ออกอากาศไปแล้ว ต้องบอกว่าบทปรับใหม่ที่ใส่มานั้น ทำให้ความคั่งแค้นของตัวละครเอกทั้งสองคนมีเหตุผลมากยิ่งขึ้น เป็นปุถุชนที่ยังเข้าไม่ถึงการอภัยได้มากยิ่งขึ้น เพราะการถูกทำร้ายทำลายชีวิต หรือแม้แต่การที่ต้องเติบโตมาท่ามกลางการดูถูก มันสามารถทำให้มนุษย์เราทำอะไรอย่างที่คาดไม่ถึงได้จริง ๆ แม้แต่การลงเอยของตัวละครเรื่องนี้ ก็ยังไม่สามารถเดาได้ว่าจะตกลงปลงใจกันได้อีท่าไหน
เหมือนแพร จะแก้แค้นตามแบบหนังสือนิยายหรือไม่ ก็ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ ทุกวันพุธ-พฤหัส 20.30 น. ทางช่อง 3 กด 33 รีบชมย้อนหลังได้ที่ 3Plus และ VIU
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส